สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
ถาม-ตอบ

การแยกประเภทสารเคมีในงานเกษตรกรรม

อยากทราบวิธีการแยกสารเคมีในงานเกษตรกรรม ที่เกษตรกรทั่วไป
นิยมเรียกกันว่า ยาเย็น ยาร้อน หมายถึงอะไร มีวิธีการแยกอย่าง
ไร ที่เกษตรกรสามารถทำได้ ขอบคุณครับ

โดย:  สุริยันต์   [30 ก.ค. 2553 23:10]
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:  เมนูนานาสาระ และหมวด สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช/สารเคมีทางการเกษตร
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

( ความคิดเห็น เรื่อง การใช้สารเคมี ในงานเกษตรกรรม )        

การใช้ที่ตัวพืช  :        ใช้เป็นอาหารของพืช        ใช้เป็นปุ๋ย        ใช้ ป้องกัน - กำจัด ศัตรูพืช        ใช้เป็นยารักษาโรคพืช         ใช้ เร่งรัด ( บังคับ ) ให้พืชเปลี่ยนแปลงตามต้องการ  (( เช่น  ออกดอก  ผลัดใบ  ทิ้งใบ  สะสมอาหาร  ตาย ))        

การใช้ที่สภาพแวดล้อมของพืช  :        ใช้ปรับสภาพดิน ( และน้ำ )        ใช้ควบคุมความชื้นในอากาศ        

การใช้กับผลิตผลที่เก็บเกี่ยวจากพืช  :        ใช้ช่วยให้ดอกเหี่ยวเฉาช้าลง        ใช้เคลือบดอกไม้เพื่อให้คงรูปและนำไปทำเป็นเครื่องประดับได้        ใช้เร่งให้ผลสุกเร็ว        ใช้หน่วงให้ผลสุกช้า        ใช้เคลือบผิวผลไม้เพื่อยืดอายุการเก็บ        ใช้รมป้องกันแมลง ระหว่างการเก็บหรือขนส่ง        ใช้ป้องกันเชื้อรา ( สำหรับเมล็ดพืชที่ต้องการเก็บเป็นเวลานาน )        การใช้ไนโตรเจนเหลวเพื่อเก็บรักษาเมล็ดและเนื้อเยื่อพืช ( เพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ หรือ เพื่อใช้ในอนาคต )        

การใช้สารเคมี สำหรับการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช  ( Tissue Culture )                

การใช้สารเคมี สำหรับการ ปลูก - เลี้ยง พืช โดยไม่ใช้ดิน  ( Soilless  Culture    /    Hydroponics    /    Aeroponics )

โดย:  นักเคมี  [31 ก.ค. 2553 08:10]
ข้อคิดเห็นที่ 1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ :3

สารเคมีที่ใช้ในการเกษตร อาจแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม คือ 1) ปุ๋ย 2) สารเคมีกำจัดศัตรูพืช และ 3) กลุ่มอื่นๆ เช่น ฮอร์โมน สารจับใบ เป็นต้น

สำหรับการจำแนกสารเคมี มีรายละเอียดค่อนข้างมาก เช่น ปุ๋ย อาจแยกเป็น ปุ๋ยเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ และอาจจำแนกตามแหล่งที่มาของวัตถุดิบ จำแนกตามองค์ประกอบ จำแนกตามความต้องการของพืช เป็นต้น

การเรียนชื่อสารเคมี (ไม่ควรใช้คำว่ายา เนื่องจาก คำว่า ยา ใช้กับคนและสัตว์ เท่านั้น) เป็น ยาร้อน และยาเย็น อาจเนื่องจากสารเคมีชนิดนั้นใช้ในปริมาณ (หรือความเข้มข้นสฃ) สูงมาก ทำให้พืชเกิดอาการใบใหม้ หรือสารเคมีเหล่านั้นอาจมีสารที่ทำหน้าที่ดูดน้ำ ทำให้เซลล์พืชแห้ง (necrosis) หรือสารเคมีอาจเห็นผลเร็ว เกษตรกรจึงเรียกว่า ยาร้อน ส่วนยาเย็น อาจไม่มีผลรุนแรงและรวดเร็ว จึงได้ชื่อเช่นนั้น

จากข้อมูลดังกล่าว ใคร่ขอความกรุณาตั้งคำถามให้ชัดเจน หรือแคบกว่านี้

โดย:  รศ. ดร.อรพิน เกิดชูชื่น  [4 ส.ค. 2553 12:59]
ข้อคิดเห็นที่ 3:4

ถาม ว่า สารเคมีทางการเกษตร ไม่ติดป้าย(ฉลาก ชื่อ ทางเคมี ) มีความผิดหรือไม่ ถ้าผิด  ฐานใด  มีการลงโทษหรือไม่

โดย:  พจน์  [23 ก.ย. 2553 12:47]
ข้อคิดเห็นที่ 4:5

เนื้อหาใช้ได้คะ

โดย:  ฟา  [19 ก.ย. 2554 10:06]
ข้อคิดเห็นที่ 5:6

อเ๘ ๑เ้๒

โดย:  Enenseunmarie  [2 ก.ค. 2555 13:52]
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้

หากท่านต้องการแสดงข้อคิดเห็นหรือแสดงความคิดเห็นที่อยู่ในประเด็นเดียวกับหัวข้อนี้ ให้กรอกข้อมูล แล้วกดปุ่มส่งข้อความด้านล่างนี้