สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
ถาม-ตอบ

ยาสีฟันกับทิงเจอไอโอดีน

ผมได้ชมการสาธิตสินค้าของบริษัทขายตรงยี่ห้อ Amway โดยการแสดงคุณสมบัติเชิงเปรียบเทียบกับยาสีฟันยี่ห้ออื่น

พนักงานขาย ได้นำเอา ยาสีฟัน Colgate มาใส่แก้วแล้วผสมน้ำ หลังจากนั้น ก็อธิบายคุณสมบัติของทิงเจอไอโอดีน ในสมัยที่คุณครูเคยสอนสมัยมัธยม ว่ามันมีไว้ทดสอบแป้ง ถ้าเจอกับแป้งจะเปลี่ยนสี หลังจากนั้น พนักงานขายก็หยดทิงเจอไอโอดีนลงไปในยาสีฟัน colgate ที่ผสมเจือจางกับน้ำ  และแล้วมันก็เปลี่ยนสี

พนักงานอ้างว่า ยาสีฟัน Colgate ที่เราใช้กันทุกวันนั้น มีส่วนผสมของแป้ง ในการลดต้นทุนของผู้ผลิต

ผมไม่คิดว่าทางบริษัท Colgate จะนำแป้งมาผสม และถ้าทำแบบนั้น คงจะไม่ผ่าน อย. เป็นอย่างแน่นอน ขอเชิญผู้ที่มีความรุ้ทางเคมี มาช่วยอธิบายการเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีตามที่ผมเล่าให้ฟังหน่อยครับ  เพราะยังมีอีกหลายคนนัก ที่ถูกพนักงาน Amway หลอกโดยการสาธิตสินค้าแบบโกหก

และยังมีการสาธิตสินค้าอีกมากมายหลายตัว ที่ผมต้องการคำอธิบาย ท่านผู้มีความรู้ ที่พร้อมจะช่วยเหลือสังคมจากการเอาเปรียบจากผู้ขายสินค้า ช่วยทิ้งเมลไว้ให้ผมหน่อยครับ ผมจะถามเรื่องการสาธิตสินค้าตัวอื่นๆ

โดย:  กัน   [5 ต.ค. 2553 20:42]
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:  เมนูนานาสาระ และหมวด การวิเคราะห์ ทดสอบ  /  อื่น ๆ
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่ 1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ :1

เป็นการตั้งข้อสงสัยที่ดีค่ะ เรามักจะพบเทคนิคการโฆษณาแปลกๆที่ดูน่าเชื่อถือ ส่วนผสมของยาสีฟันพื้นๆไม่น่าจะต่างกันมาก ไม่ว่ายี่ห้อไหน ประสิทธิภาพก็คงไม่ต่างกันสักเท่าใดนัก กรณีนี้เอาทิงเจอไอโอดีนมาทดสอบให้ดู เราเคยเรียนว่าใช้สารละลายไอโอดีนทดสอบแป้ง ไม่ทราบว่าแล้วมันไปลดประสิทธิภาพการแปรงฟันหรืออย่างไร มีคนถามเข้ามาเรื่องน้ำยาซักล้างเหมือนกัน ว่าเขามีเทคนิคการสาธิตให้ดู แต่พอเอาไปทดลองเทียบเอง ก็ดูไม่แตกต่าง ถ้าคุณมีประสบการณ์อื่น ช่วยเล่ามาด้วยค่ะ

โดย:  สุชาตา ชินะจิตร  [6 ต.ค. 2553 11:53]
ข้อคิดเห็นที่ 1:2

ยาสีฟัน  ( Toothpaste )        
ยาสีฟัน  คือ  ผลิตภัณฑ์ สำหรับ ทำความสะอาดฟัน โดยใช้ร่วมกับแปรงสีฟัน  ส่วนใหญ่เป็นครีมเหลวหรือเจลที่บรรจุในหลอด และใช้วิธีการบีบออกมาจากหลอดใส่แปรงสีฟัน เพื่อนำไปแปรงฟัน  
ส่วนประกอบของยาสีฟัน  
ผงขัด  ( Abrasive )  [ เช่น  Calcium carbonate ,  Calcium monohydrogenphosphate ,  Calcium monohydrogenphosphate dihydrate ,  Tetrasodium pyrophosphate ,  Hydrated Silica  ,  Mica ]  
สารประกอบที่ให้ฟลูออไรด์ เพื่อช่วยป้องกันฟันผุ  [ เช่น  Sodium monofluorophosphate ,  Sodium fluoride ,  Stannous fluoride ]
สารรักษาสภาพความเปียกชื้น  ( Humectants )    [ เช่น  Glycerol ,  Propylene glycol ,  Polyethylene glycol ,  Sorbitol ]  
สารลดแรงตึงผิว ที่มีประจุลบ ( Anionic Surfactant )   [ เช่น  Sodium Lauryl Sulfate  ( SLS ) ]  หรือ  สารลดแรงตึงผิว ที่ไม่มีประจุ ( Nonionic Surfactant )  
สารแต่งกลิ่นรส  ( Flavors )  [ เช่น  กลิ่นรส  Mint ,  Peppermint ,  Spearmint ,  Anise ,  Apricot ,  Banana ,  Bubblegum ,  Cherry ,  Cinnamon ,  Fennel ,  Ginger ,  Lavender ,  Lemon ,  Orange ,  Pine ,  Pineapple ,  Strawberry ,  Raspberry ,  Vanilla ]  
ส่วนประกอบ / สารปรับปรุงคุณสมบัติ อื่นๆ  ( Other Ingredients / Additives )    
สารให้รสหวาน  ( Sweeteners )  [ เช่น  Sorbitol ,  Xylitol ,  Sodium Saccharin ]  
สารช่วยเพิ่มความหนืดและสภาพครีม-เจล   [ เช่น  Sodium Carboxymethylcellulose ,  Gum ]  
สารลดการเสียวฟัน  [ เช่น  Potassium nitrate ,  Strontium chloride ]
สารช่วยซ่อมแซมเคลือบฟันและเนื้อฟัน  [ เช่น  Synthetic Hydroxyapatite Nanocrystal ,  Calcium diphosphate ]  
สารต่อต้านแบคทีเรีย  ( Antibacterial )  [ เช่น  Triclosan ,  Zinc chloride ]  


ยาสีฟันสูตรสมุนไพร  ใช้สารสกัดจากพืชกลุ่มสมุนไพร  ( Herbal Extract )  [ เช่น  สารสกัด จาก Myrrh , Chamomile ,  Clove ,  Echinasea ,  Ginger ,  Sage ,  Rhatany ,  Thyme  และ  Peppermint  Oil ,  Tea Tree Oil ,  Eucalyptus Oil ,  Coriander Oil ]  แทนการใช้สารแต่งกลิ่นรสสังเคราะห์  และมักจะไม่มีการใช้ Sodium Lauryl Sulfate  และ สารประกอบฟลูออไรด์ หรือ สารเคมีอื่นๆที่ไม่ใช่สารจากธรรมชาติ  
   
ยาสีฟันสูตรสำหรับเด็ก ( ซึ่งอาจจะกลืนกินยาสีฟันเข้าไป ) มักจะหลีกเลี่ยงการใช้ Sodium Lauryl Sulfate  และ สารเคมีอื่นๆที่เป็นอันตรายต่อเด็กเมื่อกลืนกิน  ( โดยหาสารอื่นมาทดแทน )  รวมทั้งจะปรับลดปริมาณสารประกอบฟลูออไรด์ในสูตร ให้เหมาะสมกับเด็กเล็ก ( หรือไม่ใช้เลย )

ยาสีฟันสูตรที่เลือกใช้ สาร Abrasive และ Humectants บางสูตร จะมีลักษณะพิเศษ    เช่น  ยาสีฟัน ที่ใช้ Hydrated Silica ร่วมกับ Sorbitol   จะมีลักษณะเป็นเจลโปร่งแสง   ;   ยาสีฟัน ที่ใช้ Mica  ( เป็น Abrasive )  ร่วมกับ Sorbitol   จะมีลักษณะเป็นเจลที่มีมุกสะท้อนแสง        

ยาสีฟัน ที่บีบออกจากหลอดมาเป็น ครีม-เจลที่มีริ้วสองสี  เป็นยาสีฟันที่มีเนื้อยาสีฟันสองส่วน ซึ่งมีสีต่างกัน และบรรจุในหลอดยาสีฟันเดียวกันโดยไม่ผสมกัน ( เนื่องจากมีความหนืดสูง )  ที่ปากหลอดยาสีฟันจะมีรูปแบบเฉพาะ ซึ่งทำให้เนื้อยาสีฟันทั้งสองสีถูกบีบออกมาพร้อมกันได้ และเกิดลักษณะริ้วสองสี          


http://www.chemtrack.org/EnvForKids/content.asp?ID=74        ยาสีฟัน    ( Toothpaste )        

http://www.chemtrack.org/EnvForKids/column.asp?ColumnID=3        ขบวนการโลกแสนสวย    -    ฉลาดใช้ผลิตภัณฑ์        

http://www.chemtrack.org/EnvForKids/home.asp        ขบวนการโลกแสนสวย        



สารที่เป็นส่วนประกอบ หรือ สารเพิ่มคุณสมบัติ   ที่แสดงไว้ข้างต้น  ไม่มีสารใดที่เป็น  แป้ง  ตามนิยามทางวิทยาศาสตร์    แต่  มีสารหลายชนิดในกลุ่มนี้ ที่สามารถ เปลี่ยนสีสารละลายไอโอดีน        

สำหรับ ยาสีฟันคอลเกต  ส่วนประกอบที่น่าจะเปลี่ยนสีสารละลายไอโอดีนได้  คือ  Cellulose Gum  ซึ่ง ไม่ใช่แป้ง  และ ไม่ได้เติมหรือผสมลงไปเพื่อลดต้นทุน    นอกจากนี้ ยังมีส่วนประกอบอื่น ที่สามารถเปลี่ยนสีหรือฟอกสีสารละลายไอโอดีนได้    ดังนั้น  การ สาธิต-ทดสอบ ด้วยสารละลายไอโอดีน ไม่ใช่ วิธีการที่บ่งบอกถึงคุณภาพของยาสีฟัน    ( หรือ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ )

โดย:  นักเคมี  [7 ต.ค. 2553 16:37]
ข้อคิดเห็นที่ 2:3

อยากให้คุณนักเคมี ช่วยวิเคราห์ ยาสีฟันสไมล์ออนของซูเลียนให้หน่อยค่ะ                เพราะวิธีสาธิตก็เหมือนกับแอมเวย์เลย

โดย:  อยากรู้  [11 ต.ค. 2553 17:10]
ข้อคิดเห็นที่ 3:4

ยาสีฟัน Colgate ไม่ได้มีต้นกำเนิดจากประเทศไทย และไม่ใช่สินค้าระดับ world class ดังนั้นเมื่อไม่ใช่สินค้าระดับ world class คุณภาพสินค้าในแต่ละประเทศจึงแตกต่างกัน ดังนั้น Colgate ในไทยจึงใส่แป้งเพื่อลดต้นทุนจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

โดย:  ohmmy  [12 ธ.ค. 2553 22:11]
ข้อคิดเห็นที่ 4:5

ตลกค่า... ใส่แป้ง... แล้วไม่คิดบ้างหรือค๊ะว่า  ก่วยเตี๋ยวราดหน้าใส่แป้ง  หรือ หอยทอดใส่แป้ง   เมื่อแป้งเจอกันน้ำ จะเป็นอย่างไร ?... ผลิตภัณฑ์พวกนี้ คงตัวไหมค๊ะ เมื่อตั้งทิ้งไว้ จะไม่เหลว หรือเน่าค๊ะ ?  (ประชดค่า)          

หากแม้จะใส่ แป้ง ก็ไม่ได้ช่วยทำหน้าที่อะไร ในส่วนผสมนะค๊ะ        แถม จะถ้าจะใส่ ก็คงใส่ได้น้อยนิดค่า  เพราะว่าส่วนผสมอื่นๆ ก็เยอะแยะ จนหนืดไปหมด แล้วค่า        

พวกขายตรงบางราย ชอบหลอกลวง ^^

ลองดูสูตรลิขสิทธิ์ ของบริษัทฯ ชั้นนำบางราย สิค๊ะ  
Water  30  
Sorbitol  6  
Saccharin  0.1    
Calcium pyrophosphate  40  
Glycerine  20  
Sodium alkyl (coconut) sulfate  0.5  
Sodium coconut monoglyceride sulfonate 0.8  
Sodium carboxymethyl cellulose  1.2  
Magnesium aluminum silicates  0.5  
Flavoring  0.9  
Ethylene diamine tetra(methylene phosphonic acid)  1.50  
แค่นี้ ก็ ของผสม หนืด ไปหมดแล้วค่า...  ^^

โดย:  น้ำใจ  [13 ธ.ค. 2553 13:44]
ข้อคิดเห็นที่ 5:6

โทดนะครับ  cellulose เป็น molecarใหญ่ หนึ่งของglucose ครับ   ซึ่งข้อเสียของglucose คือ มันจะferment  ทำให้bacteria  growth  ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ฟันผุ   ได้  

โดย:  นายเเพทย์  [14 ธ.ค. 2553 23:28]
ข้อคิดเห็นที่ 6:7

จัดให้  ตาม  คำขอ  ของ  " กัน "  และ  " อยากรู้ "        

ส่วนผสม  ( Ingredients )  ของ    ยาสีฟัน  คอลเกต  ( รสยอดนิยม  -  ลิควิดแคลเซียม )  ของ  คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ        ( ตามที่แสดงไว้ที่กล่องยาสีฟัน )        
Dicalcium Phosphate Dihydrate  ,    Water  ,    Sorbitol  ,    Sodium Lauryl Sulfate  ,    Flavor  ,    Sodium monofluorophosphate  ,    Cellulose Gum  ,    Tetrasodium pyrophosphate  ,    Sodium Saccharin  

ส่วนผสม  ( Ingredients )  ของ    ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ของ  ซูเลียน        ( ตามที่แสดงไว้ที่กล่องยาสีฟัน )        
Dicalcium Phosphate Dihydrate  ,    Sorbitol  ,    Purified Water  ,    Glycerine  ,    Sodium Lauryl Sulfate  ,    Xanthan Gum  ,    Flavour  ,    Sodium Monofluorophosphate  ,    Sodium Benzoate  ,    Sodium Saccharin  ,    Tetrasodium pyrophosphate  ,    Aloe Vera Gel      


ความแตกต่าง  ( เพียง เล็กๆ น้อยๆ )    ระหว่าง    ยาสีฟัน  คอลเกต  ( รสยอดนิยม )    และ    ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ของ  ซูเลียน        
ยาสีฟัน  คอลเกต  ใช้  Sorbitol  เป็น สารช่วยรักษาสภาพความเปียกชื้น                ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ใช้ ทั้ง  Sorbitol  และ  Glycerine  
ยาสีฟัน  คอลเกต  ใช้  Water                ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ใช้ Putified Water        
ยาสีฟัน  คอลเกต  ใช้  Cellulose Gum        ยาสีฟัน  สไมล์ออน  ใช้  Xanthan Gum        
Ingredient  อื่นๆ  ที่  ไม่มี ใน  ยาสีฟัน  คอลเกต    แต่  มี  ใน  ยาสีฟัน  สไมล์ออน     คือ    Sodium Benzoate  และ  Aloe Vera Gel        


ลอง เปรียบเทียบ  ราคา และ ปริมาณ  ของ    ยาสีฟัน  ทั้ง สอง  ดูกันเอง        และ        ควร    ลอง  ไปหา  ยาสีฟัน แอมเวย์  มา ลอง เปรียบเทียบ  Ingredients , ราคา และ ปริมาณ  กับ  ยาสีฟัน  ทั้งสอง ด้วย        

ผม  จะ  ไม่ชี้นำ  ว่า  เป็นอย่างไร    ขอให้ คิด และ สรุป  ด้วยตนเอง        ( การที่ใครจะเลือกใช้ ยาสีฟัน หรือ ผลิตภัณฑ์อื่นใด  ด้วย  เหตุผล / ความพึงพอใจ / ความเชื่อ / ความศรัทธา / ความเข้าใจถูก - ความเข้าใจผิด        เป็น สิทธิส่วนบุคคล   ตราบใดที่ไม่ ละเมิดสิทธิผู้อื่น ไม่ขัดต่อกฎหมาย-ศีลธรรม ฯลฯ    สิทธินั้นก็จะคงอยู่ต่อไป )

โดย:  นักเคมี  [30 ธ.ค. 2553 01:37]
ข้อคิดเห็นที่ 7:8

Amway  Toothpaste    

" Glister "  Multi - Action  Fluoride  Toothpaste    

http://www.goodguide.com/products/283075-glister-multi-action-fluoride-toothpaste        

Ingredients  

Sodium Fluoride                [ Active Ingredient    -    Source of Fluoride ]        
Sorbitol                [ Humectant    &    Sweetener ]        
Water        
Silica ,  Hydrate                [ ( Hydrated Silica )    -    Abrasive ]
Glycerin                [ ( Glycerol )    -    Humectant ]        
Propylene Glycol                [ Humectant ]        
Sodium Lauryl Sulfate                [ Anionic Surfactant ]        
Xylitol                [ Sweetener ]        
Carboxymethyl Cellulose                [ Gel Former  /  Viscosity Modifier ]        
PEG 8                [ ( Polyethyleneglycol )    -    Humectant ]        
Flavor                
Titanium Dioxide                [  ? ?  ]    
Xanthan Gum                [ Gel Former  /  Viscosity Modifer ]        
Saccharin Sodium        [ ( Sodium Saccharin )    -        Sweetener ]          
Methyl Paraben                [ Preservative ]        
Propyl Paraben                [ Preservative ]        
FD&C Blue 1                [ Colorant ]        


โดย:  นักเคมี  [30 ธ.ค. 2553 09:25]
ข้อคิดเห็นที่ 8:9

เป็นกระทู้ที่ดีนะครับแต่สว่นใหญ่คุณภาพแต่ละยี่ห้อเงื่อนไขราคาสินค้าผมว่าอยู่ที่ความพึงพอใจของผู้ใช้มากกว่าครับ

โดย:  สุพจน์  [4 ก.พ. 2554 16:45]
ข้อคิดเห็นที่ 9:10

แป้ง ทำให้ฟันผุ แล้วก็มีกลิ่นปากด้วยค่ะ

คต. 4  "คะ"  ไม่ใช่  "ค๊ะ"  นะคะ ^ ^

โดย:  ME  [11 ก.พ. 2554 22:42]
ข้อคิดเห็นที่ 10:11

คุณนักเคมี ช่วยอธิบายโดยละเอียดและชัดเจนด้วยว่า จริงหรือไม่กับการเปลี่ยนสีของเซลล์ลูโลส เอาชัดๆ  และช่วยกรุณาตรวจสอบหาแป้งในยาสีฟัน  เพราะมันมีโครงสร้างทางเคมีอยู่แล้วในสารประกอบแต่ละตัว  จะได้กระจ่างกันถ้าจะยืนยันในความเป็นจริง   ถ้าใครมีข้อสงสัยให้นำไปถามผู้จริงๆ ระดับ ดร.  หรือนำไปตวรจสอบทางเคมีด้วยตนเองนะ  อย่าพูดลอยๆ  ทุกสิ่งที่ทำการสาธิตต้องพิสูจน์เองว่าจริงหรือไม่

โดย:  คนเคยใช้  [21 ก.พ. 2554 14:26]
ข้อคิดเห็นที่ 11:12

ข้าพเจ้า  ( ซึ่งใช้ ชื่อ  " นักเคมี " ในการตอบคำถาม และ แสดง ความคิดเห็น ใน เว็บไซต์นี้ )  ขอชี้แจง เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ดังนี้          

ข้าพเจ้า  ไม่เคยนำ  ยาสีฟัน  คอลเกต  /  ยาสีฟัน สไมล์ออน  /  ยาสีฟัน Glister    มา วิเคราะห์ เพื่อหา องค์ประกอบ - ส่วนผสม - สูตรการผลิต    ( และ ไม่เคยนำ ยาสีฟัน อื่นๆ มาวิเคราะห์ ด้วย )    ข้อมูล เรื่อง Ingredients ของ  ยาสีฟัน ทั้งสาม  ที่นำมาตอบนั้น  เป็นการนำมาจาก ฉลาก - เอกสารกำกับ  ของ  ยาสีฟัน ทั้งสาม นั้นเอง  ( หมายความว่า  เป็น ข้อมูล ที่ ผู้ผลิต เผยแพร่ ต่อ ผู้บริโภค )        

ข้าพเจ้า  เคยใช้   ยาสีฟัน  คอลเกต  /  ยาสีฟัน สไมล์ออน  /  ยาสีฟัน Glister    แล้ว    และ  ไม่ได้ มี ข้อสงสัย ในด้าน คุณภาพ  ของ ยาสีฟัน เหล่านี้        

ข้าพเจ้า  ไม่เคยทดสอบ  และ  ไม่เคยสงสัย  ว่า  ยาสีฟันเหล่านี้  มี แป้ง  หรือ  ไม่มี แป้ง    ( ไม่ว่า  แป้ง  จะ หมายถึง อะไร ก็ตาม )        

สิ่งที่ ข้าพเจ้า รังเกียจ  คือ  การกล่าวหา  หรือ  การให้ร้าย  สินค้า ของ คู่แข่ง  ( ทั้ง  ด้วย  วาจา  หรือ  การสาธิต ที่ ผู้ชม ไม่มี ความรู้ พอที่จะ เข้าใจ ข้อเท็จจริง )        

ข้าพเจ้า  ใช้ ชื่อ  นักเคมี  เพราะ เรียน หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต  ( เคมี )  และ  เคย ทำงาน  ใน ตำแหน่ง  นักเคมี    /    นักวิทยาศาสตร์ - เคมี    จริงๆ        

ข้าพเจ้า  ไม่ใช่  ระดับ  ดร.    ( ไม่เคยผ่านการศึกษา ถึง ระดับนั้น  และ ไม่เคยมี มหาวิทยาลัย ให้ ปริญญา ระดับนั้น )        

บางครั้ง  ข้าพเจ้า  จะ  โต้ตอบ  -  ตอบโต้    คำพูดปากเปล่า  ด้วย  คำพูดปากเปล่า  ( โดยไม่นำหลักฐานมาพิสูจน์ )        

ข้าพเจ้า  ไม่นิยม  ความคิด ประเภท  ((  ข้าพเจ้า รู้ดี รู้จริง  กว่าใครๆ     ถ้าใครคิดต่างจากข้าพเจ้า - แปลว่า ไม่ถูกต้อง  ))        

ข้าพเจ้า ไม่คิด  ชักจูง  โน้มน้าว  บังคับ  ข่มขู่    ให้  เชื่อ ตาม คำตอบ - ความคิดเห็น  ของ ข้าพเจ้า

โดย:  นักเคมี  [21 ก.พ. 2554 20:09]
ข้อคิดเห็นที่ 12:13

ผมว่านะครับ ไม่มีสินค้าตัวไหนจะอยู่ข้างผู้บริโภค 100% หลอกครับ
เพราะ มันอยู่ในเรื่องของผลกำไรทั้งนั้น
แล้วสินค้าไม่ใช่คนผิด คนผิดคือคนที่เสนอโดยทางที่ผิดๆบิดเบือนความจริง
สินค้าบางตัวมันดีจริงๆสมกับราคา
เราพอใจในสินค้าก็พอแล้วครับ
ไม่มีใครรู้ดีเท่ากับตัวเราว่าอะไรดีกว่ากัน ถามคนอื่นก็คงตอบกันต่างๆนาๆ
เพราะแต่ละคนก็อาจจะยังไม่เคยลองใช้ยาสีฟันครบทุกยี่ห้อ
ถูกไหมครับที่ผม บ่นไป
ดังนั้นถ้าเราอยากรู้ว่าอันไหนดักว่ากันจริงหรือไม่จริงก็ต้องลองด้วยตัวเองครับ
(ขอฝากนิดหนึ่งนะ ไม่มีบริษัทไหนที่เขาผสมแป้งละออกมาเขียนในสูตรยาสีฟันบอกหรอกครับ)
ผมใช้ตัวเองพิสูจน์สินค้า (ด้วยความพอใจ)
ขอให้คิดถึงเรื่อง การค้า เศรษฐศาสตร์ ผลกำไร เอาไว้เลย ไม่มีใครขายของไม่อยากได้กำไรหรอกครับ

โดย:  แวะมาเห็น  [8 มี.ค. 2554 14:23]
ข้อคิดเห็นที่ 13:14

แป้งที่ว่า form complex กับสารละลายไอโอดีนได้ต้องเป็น แป้งที่เป็น amylose นะครับเพราะโครงสร้างทางเคมีของ amylose จะเป็นเกลียวและที่ที่ว่างพอจะให้ไอโอดีนเข้าไปแทรกอยู่และเกิดการดูดกลืนแสงช่วง visible ไม่ใช่ carbohydrate ในรูป cellulose ครับ cellulose ไม่ใช่แป้งนะครับอย่าเข้าใจผิด และที่สำคัญ ถ้าผู้ผลิตยาสีฟันใส่แป้งลงไปลดต้นทุนการผลิตแล้วมันผิดตรงไหน ราคายาสีฟัน colgate เท่าไหร่และของ amway เท่าไหร่ เทียบกันได้หรอครับ

ปล.รบกวนของถามคุณ นายแพทย์ว่า ร่างกายมนุษย์ย่อย cellulose ได้ด้วยกระบวนการ fermentation ของแบคทีเรียที่บริเวณปากหรือลำไส้ใหญ่ครับ ถ้าคำตอบคือที่ปากรบกวนบอกผมหน่อยว่าแบคทีเรียตัวไหนสายพันธุ์อะไร

โดย:  นักเคมีคนหนึ่ง  [24 มี.ค. 2554 16:00]
ข้อคิดเห็นที่ 14:15

โอ้แม่เจ้า จากสกุลพระเจ้าเหาค๊ะ  ^^   (ขออภัยหากภาษาจะเพี๊ยนไปนิดน้าค้า...เพื่อความน่ารักค่า).... กำลังหาข้อมูล สารเคมีในกูเกิ้ล  แต่บังเอิญขึ้นลิงค์นี้ ก็เรยเข้ามาดู... ตกใจมากเจ้าค่า...  ไม่นึกว่า จะมีคนมาอ่านมาตอบ.... กรี๊ดๆๆ ค่า

เค้าจบการศึกษาชีวเคมี... ทำงานบริษัทชีวภัณฑ์   ต่อมาอยากมีธุรกิจของตนเอง... เลยไป หาอ่านหนังสือ คอสเมติกส์ นะเจ้าค้า ... ปัจจุบันนี้ ชอบลองผสมคอสเมติกส์เอง...  และเพิ่งเรียนจบด้านบริหารธุรกิจ  โดยเฉพาะสาขาการตลาด... เคยทำงานติดต่อ งานราชการ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ขายได้ในไทย และทำโฆษณามาด้วยเจ้าค่า ...

เค้ารู้ทันผู้ผลิตค่า... เพราะว่า เค้าเป็นนักการตลาด และแบรนด์เชิงกลยุทธ์ รวมทั้งชอบในงาน R&D  ที่คาดหวังจะผลิตสินค้าที่ดี และปลอดภัย...

เค้า ไม่ชอบ  บริษัทฯ ไม่ว่าจะรายใดก็ตาม ที่รวยแล้ว แต่ยังคงผลิตสินค้าแย่ๆ ออกมา  แล้วยิ่งมาทำภาพลักษณ์ โฆษณาเบี่ยงประเด็น หรือหลอกประชาชนเกินไป...(ขึ้นอยู่กับระดับ การยอมรับของส่วนตัว ของใครของมันน้าค้า)  

เค้าถือว่า ดำเนินธุรกิจ ควรมีความสุจริตใจ และมีศีลธรรมที่ดีในการผลิตสินค้า หรือ การพูดโฆษณาในความจริงให้มากพอควร  

เค้าชอบ หา patent มาอ่าน ผลงานการผลิตสินค้าสู่ผู้บริโภค เสมอๆ ...  
etc...
-----------------------------
เท่าที่เค้าจำได้... สูตรที่เค้าเอามาลง ก็เป็นสูตรของ ยาสีฟันของบริษัทรายหนึ่ง... ลองเอาไป copy-paste ในกูเกิ้ลเอาเอานะค้า

เท่าที่จำได้....(ผ่านมา 10 กว่าปีแล้ว)  แน่นอนว่า Cellulose ย่อยสลายยากมาก....  ยิ่งมีปัจจัยในเรื่องของพันธะของหมู่แคมี ที่ดัดแปลง (เช่น ดีดแปลงด้วยการเติมหมู่เมธิล หรือ คาร์บ๊อกซิล  ก็ยิ่งอาจทำให้แบคทีเรียย่อยได้ยากยิ่ง... ยังไม่นับปัจจัยว่า สถานที่ที่แบคทีเรียอยู่ในร่างกายมนุษย์อีกน๊ะ... เค้าคิดว่ายากพอควรเรย..ที่แบคทีเรียย่อย cellulose จะอยู่ในปากหรือลำไส้ของคน ....ตัวอย่าง cellulose คือ ใยผัก หรือ ทิชชู ก็กลายเป็น กากอุนจิ... (เซลลูโลสในโลกนี้ น่าจะเยอะมาก มีหลายแบบ) ...ส่วนเซลลูโลสดัดแปลงแบบอื่นๆ  ก็ เช่น น่าจะ Cellephane กระดาษแก้ว  ...

CMC หรือ คาร์บอกซีเมธิลเซลลูโลส  มีหลายเบอร์... บางเบอร์ ใส่ในไอศกรีม เพื่อเพิ่มความหนืด และเนื้อของไอศครีม....  บางเบอร์ ใส่ในน้ำดื่มบางชนิด หรือแม้แต่ ใส่ใน สินค้าคอสเมติกส์.... ช่วยหล่อลื่น ได้ด้วยในสินค้าบางตัว เมื่ออดีต....ฮิ  ฮิ  

ใช่...ที่ว่า เซลลูโลส ประกอบขึ้นมาจากหน่วยเล็กๆ ที่เรียกว่า น้ำตาลกลูโคส ..แต่ว่า เซลลูโลส เกิดจาน้ำตาลกลูโคสที่ มาเชื่อมต่อพันธะที่แน่หนามาก จนเป็น กลูโคสสายยาวๆๆๆ หรืออาจพูดได้ว่า ดัดแปลงไปแล้ว...(แบคทีเรีย จึงย่อยยาก...ถ้าไม่ใช่ แบคทีเรีย ในสัตว์เคี้ยวเอื้อง ก็ไม่มีทางเท่าไรนัก).... อย่างไรก็ แล้วไม่มีใครรู้หรอกว่า  น้ำตาลกลูโคสบางหน่วย จะต่อ ออกไปจาก สายยาวของกลูโคสได้. (เหมือนกิ่งไม้  กิ่งก้านสาขา) .. เช่น ฝ้าย...มีน้ำตาลกลูโคสหน่วยเล็กๆ ที่ไม่ใช่สายยาว... ผ้าฝ้าย หรือค๊อตตตอน แท้ๆ จึงมักเก็บแล้ว เป็น รูเล็กๆ  เพราะว่า น้ำตาล ถูกกินไป... (ใครกินไปล่าน้า ? )

จริงที่ว่าปรากฎการณ์ เปลี่ยนสี ของ โมเลกุลไอโอดีน จะทำตัวเหมือนดัมเบล แล้วแทรกเข้าไปใน สายยาวของกลูโคส ที่เป็นพวกแป้ง หรือน้ำแป้ง...(เพราะว่า กลูโคสที่ดัดแปลงเป็นสายยาวๆ มีหลายชนิด...หนึง่ในนั้น ก็คือ แป้ง)    โมลเลกุลแป้ง จะใหญ่ ดูด้วยกล้องขยายหลายพันล้านเท่า จะคล้าย สายโทรศัพท์....ไอโอดีน จะไปแทรก ในร่องสายโทรศัพท์ นั่น... ทำให้เรา มองเห็น เป็น สีเข้ม ม่วง ...สายยิ่งยาว ยิ่งสีเข้ม.... ส่วนสายสั้นๆ จะสีจางลงๆๆๆมา เป็น (ถ้าจำไม่ผิด ชมพู) ก็ได้...  แต่สั้นทีสุด คือ น้ำตาลกลูโคส 2-4 โมเลกุล ก็จะไม่มีสีแล้ว...เพราะว่า  สายโทรศัพม์ สั้นมากๆๆ รัด โอบโมเลกุล ไอโอดีนเอาไว้ไม่ได้....  สีไอโอดีน ที่เป็นอิสระ จึงต้องล่องลอยในน้ำแป้ง โดยไม่แทรก....ก็จะเจอน้ำแป้งสีขาว ก็ สีจางๆ ไป (ลองเอา สีน้ำ สีขาว มาทำเฟด สีเหลืองดูล่ะกันเองน้า) ...   ฉะนั้น โมเลกุลใหญ่ใดๆ ที่โครงสร้าง คล้าย สายโทรศัพท์ ก็จะทดสอบแล้ว เห็นผลแบบข้างต้น

"อย่างไรก็ตาม" อาจมีความเป็นไปได้ ที่ เซลลูโลส (ก็เป็นกลูโคสสายยาวอีกแบบหนึ่ง)  ก็ทำตัวเหมือนน้ำแป้งได้  แต่ไม่เคยมีใครทดลอง นะค้า ...  ซึ่งหมายความว่า สีม่วงเข้ม หรือน้ำเงินเข้ม อาจเป็นเพราะ เซลลูโลสก็ได้  ไม่ใช่เพราะว่า แป้ง

ยาสีฟีนผสมแป้ง ก็ไม่แปลกนักหรอกค่า... ก็ลดต้นทุนไงค๊ะ หรืออาจจะเพราะเหตุผลอื่นๆมากมาย .... แต่ผสมในสูตรได้ไม่มากหรอกค่า... (แป้งมีหลายแบบ ... เคยลองไหมค้า  แป้งข้าวเจ้า  แป้งข้าวเหนียว  แป้งยายท้าว...แป้งขนมปัง...โอ้ย...มากมาย.... แต่จะมีแป้งชนิดหนึ่ง ที่นิยม ผสมในสินค้า คอสเมติกส์มากที่สุด)...

ส่วนยาสีฟัน ต้องผสม คาร์บอกซีเมธิลเซลลูโลสแน่นอนค้า... สูตรไหนส่วนใหญ่ๆ ก็ทำแบบนี้ มาตลอดน๊า ....  

ดังนั้น ส่วนตัวคิดว่า มีแป้งหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฟันนักหรอก... เพราะว่า ใส่น้อยมาก... บ้วนน้ำ ก็หายไปแล้ว... หรือไม่ก็ ตัวสินค้าเอง มีใส่ preservative  สารกันบูดอยู่แล้ว ...สารกันบูด ก็ฆ่าแบคทีเรีย ในสินค้าไปแล้วเจ้าค่า...  แถมสารกันบูดก็มาเข้าปากเราอีก... จางหมดแล้วล่ะค้า...  

น้ำตาล sorbitol  และ glycerine ต่างเป็น Humectant ทั้งคู่... เพราะว่า ช่วยให้ ยาสีฟันไม่เหลว จนเป็นน้ำ ... และยังช่วยเพิ่ม เนื้อยาสีฟันด้วย ...  sorbitol ราคาแพงกว่า glycerin น๊ะจ๊ะ... sorbitol ยังช่วยบดบังลด รสเปรี้ยวของ Sodium Lauryl Sulfate  (สารลดแรงดึงผิว หรือ อาจเรียกว่า surfactant เป็นสารชำระล้าง และทำให้เกิดฟอง...ก็ หวังว่า ถูฟันให้สะอาดนิ๊ค้า ) ...และ humectant ยังทำให้ ยาสีฟัน ไม่แห้งแข็งมื่อสัมผัสอากาศ.....  โอ๊ะ ลืมไป"""" อย่าเอา น้ำตาล Sorbitol ไปพูดน๊ะว่า  แบคทีเรียในปากก็ย่อยได้... และ นอกจากนี้ บางสูตรก็ ใช้ Xylitol ซึ่งแพงมากๆ แทน sorbitol และ glycerin  ... แบคทีเรีย ในปาก และในโลกนี้ มีมากมายหลายชนิด... รวมทั้ง เชื้อรา...ซึ่ง รา กินน้ำตาล และกินสารหลายๆอย่างได้เยอะกว่าแบคทีเรีย  อยู่ทนกว่าแบคทีเรียด้วย....อย่าลืมเรื่อง normal flora ในร่างกายมนุษย์น้าค้า... เพราะว่า ร่างกายมนุษย์ มีเชื้อเจริญเป็นปกติมากมายในร่างกายค่า )  ....แต่ว่า ยังไงแล้ว... ก็ไม่จำเป็นนักหรอกจ้า... เพราะทั้งหมด คือ สร้างความหนืดให้ น้ำ

Water หรือ Purified Water....  น้ำในการผลิตสินค้าพวกนี้ เป็นน้ำผ่านการฆ่าเชื้อทั้งสิ้น จ้า... จะเขียน ย่อ หรือ ไม่ย่อ ก็คือๆ กันนะจ้า... แล้วมาผสมในสินค้า พอเจอ preservative ก็ ยิ่ง น้ำสะอาดเข้าไปอีก...

สารกันบูด มีหลายอย่าง... Tetrasodium Pyrohosphate ก็ กันบูดได้จ้า... แต่ประสิทธิภาพ กันบูด เมื่อเทียบกับ Sodium Benzoate (สารเร่งเนื้อแดง  ถ้าใช้ผิดๆ ในอาหารสัตว์ หรือ อาจจะใช้ได้ ในสินค้าคอสเมติกส์ก็มีมากมาย)  นั้น ไม่ขอพูดถึงน้า ...... ทั้งนี้ กฎหมาย มีการกำหนด ขั้นต่ำในการเลือกใช้สารกันบูด ให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค อยู่เหมือนกันทั้งคู่จ้า...เพราะว่า สุดท้ายแล้ว ไม่ว่า ใช้สารกันบูดอะไร... จะต้อง แสดงการทดสอบ การหมดอายุสินค้า และการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ ในสินค้า ให้ได้เท่ากัน ด้วยจ้า ...

โอ้.... ขอไม่อธิบาย ต่อละกันน้าค้า... มีความรู้ มาเขียนให้ ลองพิจารณาได้ ยาวมากๆๆๆ ค้า...

สุดท้าย ขอให้ สังเกต น๊ะค้าว่า... ยังไง ก็ คุณสมบัติภาพรวม คล้ายๆ กัน ทั้งสิ้น  คือ ช่วย ขัดถู  และทำความสะอาดฟัน ... ต้องใช้ ควบคู่ กับ แปรงสีฟัน หรือ อาจจะ อุปกรณ์อื่นๆ ... แล้วก็ ต้อง บ้วนน้ำให้สะอาด เสมอ ด้วยน้ำเปล่า...  น้ำเปล่า บ้านของเราเองล่ะ... สะอาดหรือเปล่าวจ้า... แล้ว อะไรกันแน่ ที่ทำให้ ฟันสะอาด...แปรง หรือ ยาสีฟัน ?  ฮิ  ฮิ ..... สารอะไร จำเป็น หรือ ไม่จำเป็น กันแน่...  แล้วจะเป็น สำหรับใคร กัน ?  ตัวเราเอง หรือ ผู้ผลิต ? .... ใครมีหู ไว้วางสติปัญญา...ทำให้เรารู้สึก สงสัย และ น่าลองค้นหาดูดีไหมค้า... ความจริงของข้อมูล การศึกษา อยู๋ที่ไหนน้า  ฮิ  ฮิ ...คิดเรือยเปื่อยดีกว่า... คนแต่ละคน มีความพึงพอใจแตกต่างกัน....แล้วก็  ไม่มีใคร คุ้มครอง ผู้บริโภค หรือ สาวกจริงเปล่าน้า ?   เงินเราไปอยู่ที่ใครกันน้า ?  หรือใช้ใบข่อยดีน๊ะ ?  ข้อมูลฝรั่งเชื่อได้จริงไหมน้า ? ... สารพัด จะคิดค้า...

โดย:  น้ำใจ (คิดเรื่อยเปื่อย)  [28 มี.ค. 2554 19:41]
ข้อคิดเห็นที่ 15:17

ถ้าคุณคิดว่าเขามาหลอกขายให้คุณ บริษัทแอมเวย์คงไม่เติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

และที่สำคัญ อย. ในประเทศไทยก็ให้ใช้แป้งเป็นส่วนผสมได้ในอัตรา 40/60%

และมันก็เป็นปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เห็นข้อแตกต่างทางวิทยาศาสตร์ จริงหรือไม่


โดย:  อ่านแล้วคิด คิดก่อนพูด  [22 ม.ค. 2555 20:51]
ข้อคิดเห็นที่ 16:18

บริษัทนี้ไม่ได้หลอกคุณหลอกค่ะเพราะฉันเป็นพยาบาลที่เก่งคน1

โดย:  พยาบาลคน 1  [2 ก.พ. 2555 17:41]
ข้อคิดเห็นที่ 17:19

ผมใช้ของธุรกิจเครือข่าย ถ้าของเขาไม่ดีคุณน่าจะช่วยไปบอกตำรวจหรือแจ้งจับไปเลย เพราะเครื่อข่ายของเป็นนักบอกต่อไม่ใช่ดารามาโฆษนาของให้บริษัทแล้วตัวเองได้ค่าตัวแต่จริงๆ ตัวเองไปใช้อีกยี่ห้อหนึ่ง แต่เครื่อข่ายเขาทำเพื่อให้สมาชิกคนอื่นมีรายได้ไปกับเขาด้วย
เพราฉะนั้นถ้าคุณต้องการรู้คุณต้องไปศึกษาเองใช้เองดูด้วย ไม่งั้นคุณจะเป็นพวกรู้จักแต่ไม่รู้จริง เคยใช้แต่ไม่เคยศึกษาความจริง(ไม่ได้อ่านฉลากวิธีใช้ที่จะได้คุณภาพแท้จริงก่อนใช้) ในการใช้งานจริงเขาไม่สามารถบอกได้หมดในกล่องไม่งั้นบริษัทต้องขายสินค้าให้คุณพร้อมกับแถมวีดีโอให้คุณดูทั้งที่ราคาไม่ได้แพงอะไรนักน่า(ถ้าคุณเป็นคนมองคุณภาพ มองผลลัพธ์เป็นที่ตั้ง)แล้วบริษัทต้องใช้ต้นทุนเพิ่มเพิ่มราคาสินค้าก็ต้องเพิ่ม(ธรรมชาติคนชอบของถูก)ส่วนใหญ่จะมักหง่ายคิดว่าซื้อตั้งแพงมันต้องดี แต่ใช้อย่างไม่คิด(ขาดสติ) คนไทยปลูกฝั่งค่านิยมคนรุ่นหลังแบบผิด ๆ จิตสำนึกของคนรุ่นใหม่ในการแยกแยะจึงไม่ค่อยมี


โดย:  จากผู้ใช้  [20 มี.ค. 2555 12:36]
ข้อคิดเห็นที่ 18:20

ผมเป็นคนใช้ยาสีฟัน amway มานาน มากแล้วใช้ดี ไม่มีปัญหาฟันผุ รากฟันยังดีอยู่เลย เงือกก็ไม่ร่น หินปูนก็ไม่มี ลูก ๆ ผมก็ใช้ หมอถอนฟันน้ำนมมา รากฟันยาวมาก ไม่ยอมหลุด จนฟันแท้ขึ้นจึงต้องยอมถอน เพื่อให้ฟันแท้ขึ้น ลองใช้วิจารณะญานดูนะครับ ของที่โฆษณาในโทรทัศน์ มีทั้งดี และดีไม่จริง

โดย:  ผู้ใช้จริง  [28 มี.ค. 2555 10:59]
ข้อคิดเห็นที่ 19:21

ผ่าน อยโดยใต้โต่ะมีเยอะ


โดย:  จริงใจ  [19 เม.ย. 2555 17:14]
ข้อคิดเห็นที่ 20:22

สินค้าดีหรือไม่ดี  ขึ้นอยู่ที่ตัวของสินค้าเอง ถ้าใช้ไม่ดี เดี๋ยวคนก็เลิกใช้ไปเอง
ส่วนตัวใช้ยาสีฟัน กิสเทอร์ ของแอมเวย์ มาโดยตลอด กลิ่นปากน้อยลง ตื่นเช้าช่องปากไม่มีขี้ฟันขึ้่นเลย โรคเหงือกที่เคยเป็น (ปกติจะเป็นคนที่เหงือกบวมบ่อยมาก) หลังจากใช้ยาสีฟันของแอมเวย์แล้ว ปัญหาต่างๆ ก็ลดลงอย่างเห็นผล
จะใช้ยี่ห้ออะไรก็แล้วแต่ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและกำลังทรัพย์
ยกตัวอย่าง บางคนใช้มือถือ iphone แต่บางคนก็ใช้ ยี่ห้ออื่นที่ราคาไม่กี่ พัน
นาๆ จิตตัง...

โดย:  อาตูบร้า  [3 ต.ค. 2555 10:59]
ข้อคิดเห็นที่ 21:23

กำลังหาข้อมูลทำรายงานแล้วเจอกระทู้นี้เลยแวะมาตอบค่ะ
ส่วนตัวเคยใช้ยาสีฟันเกือบทุกยี่ห้อ และเคยดูการสาธิตสินต้าของแอมเวย์ด้วยค่ะ

ดูหลังจากที่เคยใช้ด้วยซ้ำ และพบว่าจะแป้งไม่แป้งไม่ทราบ แต่ราคา200บาทคุ้มกับการบีบยาสีฟัน เท่าเมล็ดถั่วเขียว หลอดใหญ่ 200 กรัม

ถือว่าโคตรคุ้มและดีค่ะ

ไปเอาส่วนประกอบข้างกล่องมาให้ดู

Water, Sorbitol, Hydrated Silica, Glycerin, Propylene Glycol, Sodium Lauryl Sulfate, Cellulose Gum, Xylitol, PEG-8, Flavor, Titanium Dioxide, Xanthan Gum, Sodium  Fluoride, Sodium Saccharin, Methylparaben, Propylparaben, Blue 1 (Cl 42090)

สังเกตจะพบว่าแอมเวย์ก็มี cellulose gum เพราะงั้นที่ก่อนหน้านี้มีคนบอกว่ายี่ห้ออื่นเปลี่ยนสีเพราะสิ่งนี้คงไม่ใช่แล้วค่ะ

Titanium Dioxide เป็นสารที่ทำให้เป็นสีขาวค่ะ ทุกสิ่งที่เป็นสีขาวทางเคมีต้องใส่สารนี้

ไม่ได้จะบอกให้ซื้อมาใช้ แต่อยากให้ดูที่ข้อเท็จจริงแล้วมาเปรียบเทียบมากกว่าค่ะ

จะบอกว่า คอลเกตที่ไทย กับที่อเมริกา เท่าที่เคยใช้ ไม่เหมือนกันนะคะ ทั้งที่ยี่ห้อเดียวกัน มาตรฐาน อย. ไทยเป็นไงคนรู้กันนะคะ

โดย:  เด็กเภสัช  [6 พ.ย. 2555 23:25]
ข้อคิดเห็นที่ 22:28

สินค้าแต่ละอย่าง ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของลูกค้าครับผมว่า ไม่มีใครจะมาบังคับใช้ได้ ไม่ว่าผู้บริโภคจะต้องการใช้หรือไม่นั้นก้อยู่ที่ความชอบส่วนบุคคลล่ะครับ อยู่ที่ว่าใครพึงพอใจกับคุณภาพของสินค้าตัวไหนนะครับ
เรื่องการหลอกลวงก็มีเยอะครับในปัจจุบัน จะไว้ใจได้หรือไม่ก้สามาถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองเลยครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของ Amway อยู่เหมือนกันโดยความรู้สึกส่วนตัวนะครับก้พึงพอใจเพราะเห้นความแตกต่างจริงๆในการใช้ เมื่อก่อนผมใช้ของท้องตลาดมาทุกยี่ห้อเลย เมื่อ 4 เดือนก่อนก็เห็นผลว่าผมต้องถอนฟันกามไป 2 ซีเรียบร้อย หลังจากที่ได้ใช้ยาสีฟันของ Amway อาการเสียวฟันมันก็ลดลงจริงๆ กลิ่นปากตอนตื่นนอนไม่มีอย่างเห็นได้ชัดเจนตามที่ผู้เสนอได้บอกมา แล้วอีกอย่างนะครับสินค้าของ Amway รับประกันความพึงพอใจจริงๆครับ ไม่ว่าคุณจะไม่พอใจสินค้าว่าด้วยเหตุผลใดๆก็สามารถเอาไปคืนได้แล้วรับเงินคืนเต็มจำนวนที่ซื้อไป ไม่ว่าคุณจะไม่ชอบกลิ่น ซื้อไปแล้วคนที่บ้านด่า อื่นๆอีกมากมาย คุณใช้สินค้าไปได้เลยครึ่งนึงแล้วเอาไปคืนก้ได้เงินคืนครับผมรับประกันจริงๆเพราะพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเอง แล้วบริษัทก็ไม่มีการเอามาขายใหม่เอาไปทำลายทิ้งทันทีด้วย นี่เป้นเหตุผลที่ทำให้ผมมีความถือกับบริษัทนี้ครับ
บอกได้เลยว่าสินค้าของบริษัทนี้แพงตอนซื้อประหยัดตอนใช้ครับเพราะเป็นสินค้าเข้มข้นต้องผสมน้ำใช้อย่างยาสีฟันนี้ก็แปลงตกครั้งละ 1 บาทเท่านั้นเองแปลงได้ 200 ครั้ง ในราคา 20 กว่าบาท 1 หลอดก็ใช้ประมาณ 5 เดือน
(ไม่ว่าใครจะใช้สินค้าหรือไม่นะครับ ก็อยู่ที่ความชอบสินค้าที่ดีจะต้องบอกถึงส่วนผสมที่มีอยู่ทั้งหมดอย่างชัดเจนนะครับ)

โดย:  NP  [14 ธ.ค. 2555 15:30]
ข้อคิดเห็นที่ 23:29

ง่าย ๆ นะครับ ถ้าสินค้าไม่ดีจริงคงไม่ต้องมาถึงพวกคุณที่ต้องมาจำผิดหรอกครับ ถ้าไม่ดีหรือหลอกลวงจริง ๆ รู้มั้ยว่าใครที่จะจัดการเค้าก่อน ก็พวกบริษัทคู่แข่งไงครับคงไม่ต้องมาถึงพวกคุณที่จะต้องเหนื่อยเพื่อหาข้อเท็จจริง

โดย:  ผ่านมาดู  [17 ธ.ค. 2555 14:42]
ข้อคิดเห็นที่ 24:31

What watch does James Bond put on? For many people today, Omega Seamaster Professional 300m watches are the most familiar James Bond watches, truely, in total twenty-two Bond's motion pictures by now, Omega Seamaster Professional 300m series have shown up in five of them. And irrespective of the special functions these watches got or the beauty of watches themselves, Omega Seamaster Professional 300m watches definitely may be thought of because the second coolest gear for James Bond(As to the coolest? Certainly are Bond's automobiles).

Made from stainlees steel, the majority of Omega Seamaster Professional watches in 007 movies got 41mm watch case, blue watch dial, bi-directional bezel and sapphire crystal, obviously, water resistance up to 300 meters.

But in the two newest 007 motion pictures, Casino Royale in 2006 and Quantum of Solace in 2008, James Bond got new Omega Seamaster editions: the Omega Seamaster Planet Ocean. Comparing with Omega Seamaster Professional 300m, these Omega Seamaster Planet Ocean got bigger case and unique black watch dial. In Casino Royale, when James initially got double o seven identity, he was wearing a 45.5mm Omega Seamaster Planet Ocean, and in Quantum of Solace, James got a far more extraordinary Omega Seamaster Planet Ocean 600m Co-Axial Chronograph, which got revolutionary Co-Axial process, 42mm case, black dial and outstanding 600 water resistance.

James Bond Omega Seamaster Professional 300

Detailed Info

1995 Goldeneye

Omega Seamaster Professional 300m (Ref. 2541.80.00)

1997 Tomorrow Never Dies

Omega Seamaster Professional 300m (Ref. 2531.80.00)

1999 The World Is Not Enough

Omega Seamaster Professional 300m (Ref. 2531.80.00)

2002 Die Another Day

Omega Seamaster Professional 300m (Ref. 2531.80.00)

2006 Casino Royale

Omega Seamaster Professional 300m (Ref. 2220.80.00)

Omega Seamaster Planet Ocean (Ref. 2900.50.91)

2008 Quantum of Solace

Omega Seamaster Planet Ocean 600m Co-Axial Chronograph (Ref. 2201.50.00)

โดย:  Smithpun6  [24 ธ.ค. 2555 14:40]
ข้อคิดเห็นที่ 25:34

สิ่งใดดีมิดีอยู่ที่คุณตัดสินใจ การดูแลสุขภาพตัวคุณเอง กิจวัตรประจำวันที่คุณทำอยุ่ทุกวัน อาบน้ำ แปรงฟัน การกิน อยู่ นอนหลับพักผ่อน ใครทำแทนคุณคะ

โดย:  นักธุรกิจซูเลียน  [18 ม.ค. 2556 17:23]
ข้อคิดเห็นที่ 26:35

คุณคือผู้ใช้เองตัดสินใจเองจริงมั๊ยคะเพราะฉะนั้นคุณรู้เอง ดิฉันตัดสินใจด้วยตัวเองด้วยวิจารณญาณ ดิฉันคิดว่าทุกท่านมีสิ่งนี้และใช้สิ่งนี้อย่างเกิดประโยชน์ทุกคน ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะกล่าวหาผู้อื่นว่าไม่ถูกต้องเพียงเพราะว่าเค้าผู้นั้นมีความคิดที่ต่างจากเรา ใช้ของต่างจากเรา เรามีสิทธิ์เลือกได้ค่ะ ผู้อื่นที่ต่างจากเราก็มีสิทธิ์เลือกได้เช่นกันค่ะ

โดย:  นักธุรกิจซูเลียน  [18 ม.ค. 2556 17:38]
ข้อคิดเห็นที่ 27:37

ยี่ห้อไหนๆ ก็ดีหมด เพราะคนใช้ยาสีฟัน แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน ชอบรสชาติ กลิ่น สี หรือคุณภาพ  นั้นแล้วแต่ผู้บริโภค แต่ส่วนตัวชอบที่คุณภาพ เลยใช้แอมเวย์

โดย:  del  [6 ก.พ. 2556 16:06]
ข้อคิดเห็นที่ 28:58

มันจริงๆกระทู้นี้ คนขาย ซูเลี่ยน คนขาย แอมเวย์ เข้ามาถล่มยับ ใครรวยมีเงินเยอะอยากใช้อันไหน อยากแบ่งเงินให้ไอ้กันหรือไอ้เจ้กก็เอาเถอะ จะเห็นแก่ส่วนต่างรายได้ที่เค้าโปรยให้ก็ลุยเลย หลอกญาติหลอกเพื่อนพ่อแม่พี่น้องให้ช่วยจ่ายให้ด้วย แล้วก็รอปันเศษเงินที่เราเอาจากญาติ เพื่อน พี่น้องเราไปให้มันแล้วแบ่งเศษเงินมาให้เรา จนบริษัทฯ แม่ม โตเอาโตเอา เพราะขายแพงเว่อร์ และ ด้วยกลยุทธทางการตลาดที่แสนชาญฉลาด คุณจะรู้แล้วไปบอกคนอื่นได้ไงว่ามันดี ถ้าคุณย้งไม่ได้พิสูจน์คุณภาพด้วยการทดลองใช้ หลักสูตรทางการตลาดสอนไว้ว่า สิ่งที่ขายดีที่สุดในโลกคือขายอะไรก็ได้ที่สร้างความหวังและโอกาสในการสร้างความร่ำรวย แล้วแม่มได้ผลเว่ย รวยเอารวยเอาทั้งไอ้เจ๊กไอ้กัน แต่เพื่อนไทยเราก็เปลี่ยนไปเดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหน เพื่อน ญาติ ไม่ค่อยอยากคุย กลัวแม่มสาธิต วิธีใหม่ๆ แล้วกรูก็เสือ...ก คิดไม่ทัน งง ๆ แล้วก็สมัครสมาชิกแม่มอีกละ ไอ้กันแม่มเก่ง ทำยาสีฟันมาก็ใช้แล้วรู้สึก OK อ่ะนะ แต่แม่ม แพงโคตร กรูว่า อภัยภูเบศ หรือดอกบัวคู่ ก็ไม่แพ้มันเท่าไหร่ อ่ะ แต่แม่มเก่งกว่านั้นอีกพอพวกเราเริ่มรู้ตัวจากมนต์เซลล์ของมัน(เพื่อนเราเอง)ชักไม่อยากซื้อรู้สึกว่าแพง โดนแม่มด่าไอ้ฟายยยยเอ้ย! ใช้ไม่เป็นเลยมึงเนี่ยใตรเค้าใช้อย่างมึงไอ้บ้าบีบทีอย่างกะโดนรถทับ นี่แค่เม็ดถั่วเขียว อ๋อ ๆ เออกรูนี่โง่จริงๆ ใช้ของดีไม่เป็นเออๆ แม่มพูดถูก พอมันกลับไป สติกรูเริ่มมา แม่ม ให้กรูจ่ายแม่มเกือบ4เท่าของปรกติแล้วย้งต้องมากระเหม็ดกระแหม่ใช้แม่มอีกคราวนี้แปรงแต่ละทีรู้สึกประหยัดขึ้นเยอะเลย เหมีอนแปรงน้ำเปล่าเลย เออกรูนี่มันโง่จริงๆด้วย ขำๆ ประสพการ์ณตรง ไม่มีเจตนาว่าใครจริงๆครับ สรุปใครอยากใช้อันไหนก็เชิญตามสะดวก ผมทุกวันนี้ใช้อภัยภูเบศ บ้าง ดอกบัวคู่บ้าง คอลเกตุ บ้าง แต่จะผสมน้ำเกลือกับน้ำชาไว้ขวดนึง บ้วนเช้าเย็น หลังหรือก่อนแปรงฟัน ฟันแข็งแรงเหงีอกแข็งแรงครับ แล้วก็เน้นอุตหนุนสินค้าไทยครับ

โดย:  คนกลาง  [23 มิ.ย. 2556 00:56]
ข้อคิดเห็นที่ 29:72

ก็ใช้อยู่นะคะยาสีฟันแอมเวย์ ของเขาดีคะ แพงแต่คุ้มค่าคะ คุณภาพของแอมเวย์มันอยู่ที่การเปรียบเทียบ
หมื่นลี้ต้องมีก้าวแรก ไม่ลองใช้ไม่รู้ ต้องลองคะ

โดย:  คนธรรมดา  [29 ส.ค. 2556 11:59]
ข้อคิดเห็นที่ 30:73

คุณครับคุณจะคิดมากให้ปวดหัวทำไมแค่เรื่องยาสีฟันถ้าคุณเชื่อว่ายี่ห้อใหนดีคุณก็ซื้อใช้เลยก็แค่นั้นครับ  ถูกป่าว...

โดย:  คนง่ายๆ  [9 ก.ย. 2556 14:23]
ข้อคิดเห็นที่ 31:76

ผมก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องซื้อกินซื้อไช้.ผมก็คนหนึ่ง
ที่ไช้ยาสีฟันตามท้องตลาดที่โฆสนาดีหนักดีหนาหรือตามทีวี
ไอ้ยาสีฟันที่พวกคุณไช้ผมก็ไช้มา (คอลเกตุดอกบัวคู่หรือยี้ห้อตามทีวีที่เอาดารามาแนะนำผมผูดกับประสบการณ์จริงผลที่ได้.ผมปวดฟันเมื่อปวดมันทรมารมากๆคนเคยปวดและจะรู้
ผมก็ต้องไปถอนออกเมื่อไปถอนก็ต้อง.ลางาน.อยากกินของชอบก็กินไม่ได้
ดีจริงไหมไอ้ยาสีฟันที่ว่าผมเป็นคนไช้และผมก็ผูดได้(ไม่ไช้แล้วจะรู้หรอ)
ผลมันเป็นไงนี้และผลของมันผมต้องเสียฟันเกือบหมดปาก.ก็ไอ้ยาสีฟันที่ไม่รู้ทำมาจากอะไร....?เดียวผมจะบอก....อ่านให้จบละ
**********ดีที่มีคนแนะนำยาสีฟันglisterของAmwayผมคนหนึ่งที่สูบุหรี่
ปากเหม็นขี้ฟันเยอะต่อไปผมจะผูดประสบการณ์ที่ผมได้ลองไช้หลังจากไช้
ผูดจากใจเลยนะหลังจากที่ไช้ จากที่เคยปวดฟันปากเหม็นขี้ฟันเยอะก็หาย
แรกๆก็ไม่เชื้อ ผมเป็นคนอะไรดีแล้วต้องลองไช้..ไม่เอาแล้วโง้ๆๆๆตามทีวีหมดดีงั้นดีงี้
โฆสนาดีตายละกรูไช้แล้วทำไหมกรุต้องปวดฟันไปถอนฟันละก็มันเอาหมอฟันมาทำยาสีฟัน
ไม่แปลกที่เราต้องไปถอนฟันกับ......หึหึมันก็ได้ผลประโยชน์ไปด้วย
ผมจะบอกนะยาสีฟันทีเราไช้อยู่ทุกวันมันจะมีแทบสี่ บงบอกว่ามีในแอบแฝ
งอยู่ข้างตูดหลอดรีบไปหยิบของคุณดูว่าสี่อะไร.....
1).สีเขียว.       ผลิตจากธรรมชาติล้วนๆ
2).สี่น้ำเงิน.     ผลิตจากธรรมชาติ+ตัวยาของแพทย์
3).สีแดง.         ผลิตจากธรรมชาติ+สารเคมี
4).สี่ดำ.            ผลิตจากสารเคมีล้วนๆ
ลองเอายาสี่ฟันที่คุณไช้ไปถูกับกระดาษสี่เบาๆว่ามันเป็นไงสี่มันยังกัดเลย
เพราะข้อ3:4มันมีสารเคมีแล้วดูยาสีฟันของคุณดูมันตรงกับข้อ3;4เปล่า
ผมไม่แปลกใจเลยที่ผมปวดฟันแล้วก็ต้องถอนฟันโง้ๆๆๆตั้งนานแล้วคุณละ5555
แต่Amwayมีสี่น้ำเงิน ผมไช้อยู่ก็แพงนะแต่ก็คุ้มมากสุขภาพฟันผมก็ดีขึ้น
มีการสาธิตให้ดูและหมดก็ไม่ต้องไปซื้อเองมาส่งถึงหัวบรรได่บ้าน
ผมผูดจากการที่ผมไช้จริงและของเขาดีจริงคนไม่เคยไช้ไม่รู้หรอก
ก็ไช้ไอ้ที่มีสารเคมีของคุณต่อไป..และ อีกอย่าง..อย.ไทยเขาตรวจแค่หลอด
แค่1หรือ2ตัวของสินค้าเป็นล้านๆๆๆแล้วก็ผ่าน.อย.แต่ของAmwayเขามีทีมวิจัย
นักวิทยาศาสต์ดูแลของเขาเองและเขาใสใจทุกๆหลอดและทำจากธรรมชาติ



โดย:  Chart  [11 ต.ค. 2556 23:06]
ข้อคิดเห็นที่ 32:77

มีแป้งหรือไม่มีไม่รู้ แต่รำคาญพวกชอบเอามาเสนอขายแล้วอ้างได้แค่ว่าไม่มีแป้งแปรงก่อนนอนทำให้ไม่มีกลิ่นปากในตอนเช้า แล้วชอบมาให้ซื้อ ด้วยการพยายามยัดเยียดความเชื่อมาใส่เรา แล้วอาศัยความขี้เกรงใจของคน มาเอาเปรียบ

โดย:  ไม่รู้ข้อเท็จจริง  [31 ต.ค. 2556 15:16]
ข้อคิดเห็นที่ 33:78

ตอบคุณ  Chart
แถบสีเป็นแค่เครื่องหมายที่ทำเอาไว้สำหรอบเครื่องพิมพ์เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับส่วนผสมครับ

โดย:  ไม่รู้ข้อเท็จจริง  [31 ต.ค. 2556 15:17]
ข้อคิดเห็นที่ 34:79

บอกก่อนส่วนตัวใช้ของแอมเวย์ค่ะ ปัญหากลินปากเริ่มหายไป เมื่อก่อนใช้ของ ... ทั้งเหงือกบวม ปวดฟัน โอ่ยย เยอะ ตอนนี้ไม่มีสักอย่าง ไม่ได้บอกให้เชื่อนะค่ะ แต่ของอย่างงี้อยุ่ที่คนเคยลองแล้วลองสังเกต ใครไม่ลองก็ไม่รุ้หรอกค่ะ ว่าสินค้าดียังไง  

โดย:  ผู้คิดบวก  [4 พ.ย. 2556 22:38]
ข้อคิดเห็นที่ 35:81

ผมคิดว่าผู้บริโภคอย่างผมมีเสรีในการเลือกใช้สินค้า  ข้อมูลของแต่ละท่สนให้มาผมไม่เข้าใจหรอกครับ
แต่ผมรู้ว่า ผมจะเลือก สินค้าที่ผมรู้สึกว่าดีที่สุดสำหรับผม ใช้แล้วรู้สึกดีและประทับใจ
โดยส่วนตัวผมใช้ AMWAY (แต่ทัศนะที่ว่า "คุณคิดไม่เหมือนผมคุณผิด"ผมไม่เห็นด้วยทุกประการ)
ใครไม่ชอบเหมือนเรามันคือ สิทธิ์ และ เสรี ของเค้าครับ  เราต้องเคารพกันและกัน

โดย:  คนธรรมดา  [7 พ.ย. 2556 07:48]
ข้อคิดเห็นที่ 36:89

อยากถามว่าทำไมเนื้อของยาสีฟันถึงหนืดกว่าคีรมหรือพวกยาขี้ผื้งอะคับใครรู้ช่วยฅอบทีคัรบ

โดย:  กิด  [28 ธ.ค. 2556 09:38]
ข้อคิดเห็นที่ 37:101

ดีจังถ้า glister ไม่มีแป้ง เราเอาไปผสมแป้งกับผงซักฟอกหลอดเท่าขา แล้วขายหลอดละ10บาท สงสัยขายดีเป็นเทน้ำเทท่าคอลเกตดาลี่เจ๊งระนาว เพราะคนไทยบางคนไม่รู้จักเลือก อะไรยัดปากแล้วมีฟองเรียกยาสีฟันหมด ตัวคุณ ฟันคุณ มีชุดเดียว หัดเลือกสิ่งดีๆบ้าง ส้วมขี้ส้วมซึมก็ขี้ได้เหมือนกัน แต่คนเขาซื้อต่างกันเพราะเลือกคุณภาพชีวิต

โดย:  sasa  [8 เม.ย. 2557 23:10]
ข้อคิดเห็นที่ 38:110

แล้วที่บีบทิงเจอร์ใส่ แล้วกลายเป็นสีดำล่ะ จะสรุปว่ามีแป้งได้ไหมคะ

โดย:  oo  [12 มิ.ย. 2557 10:41]
ข้อคิดเห็นที่ 39:111

แต่ก่อนใช้มาทุกๆยี่ห้อพอใช้กลิสเตอร์มันใช่เลยลองดูซิใช่เลยยาสีฟันจริงๆไม่ต้องวิเคราะห์กันให้ปวดสมองคับใช้จริงๆเลย

โดย:  คนใช้  [19 มิ.ย. 2557 20:30]
ข้อคิดเห็นที่ 40:112

ลองใช้มาหมดแล้ว(ชอบลอง/ชอบซื้อ) ก็แค่ช่วยทำความสะอาดในชีวิตประจำวันที่ต้องใช้กันอยู่ทุกคน-ทุกวัน ใครชอบยี่ห้อไหนมีงบเท่าไรก็จ่ายกันไป ก็แค่นั้น มีอีกวิธีที่ตอนนี้กำลังใช้อยู่คือน้ำสกัดชีวภาพจากใบสะระแหน่+เกลือ+นำ้ บ้วนปากเช้า-เย็นตามด้วยแปรงฟันด้วยยาสีฟันที่ใช้อยู่สิ่งที่ได้รับกลิ่นปากหาย, นำ้ลายเหนียวๆตอนเช้าๆก็ไม่มี, ไม่มีคราบหินปูนเกาะ, และเหงือกแน่นฟันที่เคยโยกหมดปัญหาไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลองดูนะแต่ก็ขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูล เพราะกำลังเข้ามาหาข้อมูลเกี่ยวกับฟองที่อยู่ในยาสีฟันว่ามันจะเป็นอันตรายรึเปล่า มันใช่สารตัวเดียวกับที่เอามาทำนำ้ยาล้างจาน/นำยาซักผ้า มั้ย (SLS น่ะ)

โดย:  Bio man  [16 ก.ค. 2557 00:16]
ข้อคิดเห็นที่ 41:114

ก็แค่ลองใช้ดูซักกี่วันกี่เดือนอย่างที่เค้าแนะนำ แล้วก็เปรียบเทียบดูเอาเอง ครับ
อย่างอื่นที่เราซื้อ ใช้เงินมากกว่านี้เยอะมาก
ลองดูจะได้จบๆ ไม่เสียเวลาด้วย เพราะเราก็แปรงฟันทุกวันอยู่แล้วคับ




โดย:  คนกลาง  [17 ส.ค. 2557 09:32]
ข้อคิดเห็นที่ 42:117

555 ก็ไมวุสินะ

โดย:  มะนาว  [13 ก.ย. 2557 13:06]
ข้อคิดเห็นที่ 43:118

คนทำมาต้องหวังกำไรจากคนบริโภคสินค้าอยู่แล้วครับ อยู่ที่การลงทุนของบริษัทนั้นๆ
ของไม่ดีก็อาจราคาถูกนะครับ ของดีอาจแพงหน่อยอยู่ ที่กำลังคนซื้อนะครับ

โดย:  คนกลาง  [17 ก.ย. 2557 08:05]
ข้อคิดเห็นที่ 44:120

ผมเชื่อว่า หลายคนใช้ชีวิตประจำวันก็ต้องเจอทั้งปัญหาและความพอใจและประทับใจ
สำหรับผม ปัญหากลิ่นปากก็มีปกติ แต่เรื่องหินปูนนี่สิต้องขูดแทบจะทุกเดือน ขูดครั้ง
ละ 500-600 บาทแล้วยังเสียวฟันอีก คราบฟันก็มี พอดีมีคนไม่รู้จักแนะนำให้ใช้ยาสี
ฟัน สไมล์ออน ของ ซูเลียน(แต่เขากำชับว่าให้ใช้แปรงที่มีขนสองสีจะแปรงเกลี้ยง)เรา
ก็แค่เปลี่ยนแปรงสีฟันให้ถูกวิธีเท่านั้น ส่วนราคา 179 บาทสมัครสมาชิกซื้อ 155 บาท
ผมว่าเกินคุ้มแล้ว เพราะไม่ต้องเสียเงิน 500-600 บาทค่าขูดหินปูนอีกเลย แถมยังสะ
สมคะแนนอีกหลอดละ 10 พีวีมันก็ดีนะครับ เพราะนอกจากจะแก้ปัญหาได้ตรงความ
ต้องการแล้ว ยังประหยัดเงินค่าขนมลูกได้ตั้งเยอะ แล้วสะสมคะแนนได้(ไม่ตัด) แถม
ตัวแทนบอกแบบไม่กดดันอะไรเราว่า ถ้าใช้ดีแล้วแบ่งปันเพื่อนบ้านเล่าให้ฟัง เขาสน
ใจก็แนะนำให้เขาทำบัตรใช้รหัสใครรหัสมันซื้อกันเอง(สะดวกซื้อ) แต่ยอมรับว่าของ
เขาดีจริงๆ อีกอย่างเป็นสินค้าจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว เช่น ผงซักฟอก
ของเขาเน้นแช่ไม่เน้นขยี้ 1 ช้อนซักผ้า 20-25 ชิ้น ส่วนผสมเขาคล้ายว่ามีทั้งไฮเตอร์
ไฮยีน น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยารีดผ้า ประหยัดจริงๆ และมีดีๆอีกตั้งหลายตัว และใครที่
เคยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ(ล้มหัวฟาดพื้นบ้าง)รักษาไม่หายต้องผ่าตัดเปิดกระโหลกนะ
แต่ผมแนะนำ กาแฟโสม ล้างไขมัน ลิ่มเลือดดีกว่ากินยา ไม่ต้องปวดหัวทุกวันนะ และ
โรคภูมิแพ้ขั้นรุนแรง(หมอการันตีรักษาไม่หาย)ใครไม่เป้นไม่รู้หรอก หมดค่ารักษา
ครั้งละ 2-3 พันกินยาไม่เคยหาย เสียเงินบ่อยๆ มาศึกษาตัว บียางค์(ราคาสุง)แต่คุ้มที่
ตัดสินใจกินใครเป็นภูมิแพ้หรือโรคหนักขนาดไหน บียางค์ ช่วยได้ 3 เดือนเห็นผล
คนที่ว่าแข็งแรงร่างกายยังไม่มีปัญหาอะไรนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาดเพราะไม่แน่
วันหนึ่งคุณจะยิ้มไม่ออกถ้าเป็นครั้งละหลายโรคแบบผม ตัวแทนขายตรงผมก็กลัวแต่
เราต้องใจดีสู้เสือ แต่คนที่สุขภาพมีปัญหาก็อยากหาย ไม่ใช่จะพูดว่ายาสีฟันเหมือนกัน
ใช้ยี่ห้อไหนก็ได้นี่พูดผิดนะ เงินนะครับเสียทั้งทีอย่าให้เสียค่าโง่ เสียแล้วเราต้องฉลาด
ขึ้นเพราะเงินเราหามา ยาสีฟันหลอดละ 100-200 ผมว่าไม่แพงหรอก ไปเดินโลตัส
เทียบราคาดูยี่ห้ออื่นที่โฆษณาออกทีวีก็ 200 กว่าเข้าไปแล้ว ของ ซูเลียน ผมใช้แล้ว
ยังประทับใจไม่หายหลอดใหญ่ น้ำหนักเยอะ 175 มล.(ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย)ใช้
ประหยัด คุ้มค่ามาก ที่สำคัญซื้อแล้วมีเงินคืนเข้าบ้าน(เกินคุ้มแล้ว) แอมเวย์เขาก็ดีแต่
ผมไม่เคยใช้ ผมติดใจ ซูเลียน แล้วไม่คิดจะเปลี่ยน เราใช้ดีแล้วเราเล่าให้ใครฟังมั่นใจ
พูดไม่ต้องอายใคร ไม่อยากใช้เรื่องของเขาแต่เราใช้ดีเราอยากแบ่งปัน

อย่าลืมว่าทุกคนต้องมีรายจ่ายที่จำเป็นส่วนตัวกันทั้งนั้น ถ้าคุณเงินเดือน 1 หมื่นถ้าต้อง
จ่ายเดือนละพันออกไปแล้วได้ของไม่ดีเข้าบ้านคุณขาดทุนทันที ของ ซูเลียน เขาบอก
กติกาซื้อครบ 300 พีวี(เป็นเงิน 3-4 พันบาท)เรามีเงินคืน 5% แต่ก่อนจะรู้จัก ซูเลียน
เราจ่ายเดือนละ 3-4 พันหรืออาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไม่เคยได้ลดหรือคืนซักสลึงยังอด
ทนซื้อกันมาตั้ง 10-20 ปี คนจ่ายเงินเองครั้งละเยอะๆเขาเข้าใจดี ทุกวันนี้ซื้อเองใช้เอง
ในครอบครัวมีเงินเข้าบ้านเดือนละ 500-1,000 ทุกเดือน(ยังไม่รวมส่วนลดที่ซื้อ)ไม่รู้
จะเรียกว่าคุ้มๆจนเกินคุ้ม ตัวแทนที่ผมไว้ใจเค้าบอกใช้ดีลองเล่าให้เพื่อนบ้านฟังดูสิว่า
คะแนนมันจะเพิ่มจริงไหม บอกใครที่ไหนถ้าเขากำลังมีปัญหาลองให้เขาพิสูจน์ใช้รหัส
ของเราดูก็ได้หรือจะให้เขาทำบัตรต่อจากเราก็ได้(ไม่ต้องไปกดดันเขา) เขาพอใจค่อย
ว่ากันทีหลังก็ได้ พอคะแนนแต่ละเดือนมากขึ้นเงินเข้ารายเดือนก็มากขึ้นตามลำดับ

สุดท้ายมาถึงจุดที่ต้องคิดและเปลี่ยนแปลงชีวิตก็คือ เราไม่ได้ขายของเลยซักชิ้น ธุรกิจ
นี้มันเป็นเพียงการแบ่งปัน เพราะปกติก่อนที่เราจะมารู้จักห้าง ซูเลียน เรารู้จักห้างใกล้
บ้านอยู่แล้วใช้ดีไม่ดีเรายังพากันไปเที่ยวแล้วไม่ได้ตังค์เราก็ยังทำกันมาแล้ว แค่เรา
เปลี่ยนที่ซื้อเองก่อน(อย่าเพิ่งบอกใครเพราะยังไม่มั่นใจ) แต่พอมั่นใจแล้วค่อยบอก
ค่อยชวนคน ชวนเขามาเปลี่ยนที่ซื้อเหมือนกับเรา แต่ขอโทษ!! อย่าดันไปชวนคนที่
สังคมมากๆ คนที่มีคนเคารพเชื่อถือศรัทธามากๆเชียว เพราะคนๆนี้ พอเขาเชื่อและ
ไว้ใจเราจนเป็นคนที่เขาชอบแล้วเขาจะบอกต่อแทนเรา ขยันบอกต่อมากกว่าเราและ
เงินเข้าบ้านเขามากกว่าบ้านเราเสียอีก(ยุติธรรมดีนะธุรกิจ ซูเลียน) ทำงานประจำ
แทบตายทำมาตั้งหลายสิบปีรายได้อาจจะหลายหมื่น แต่ไม่ตื่นเต้นเท่ากับเปลี่ยนที่
แปรงฟันอาบน้ำแค่ไม่กี่เดือน รายได้แซงงานประจำชนิดไม่เห็นฝุ่นเลย

ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้ต้องการให้ทุกคนเชื่อนะครับ ชีวิตใครชีวิตมัน ทำงานประจำนี่
ไม่เคยได้เที่ยวต่างประเทศเลยซักประเทศแค่ในไทยยังยากเพราะต้องเก็บเงิน แต่มา
ที่ ซูเลียน ไม่ต้องใช้ซักบาทนึง เพราะถ้าใช้ผมก็ไม่ไป เราเป็นคนเรามีสิทธิ์เลือกและ
พิสูจน์ได้คิดเองเป็นไม่ต้องให้ใครมาหลอก ทุกวันนี้ผมหัดเรียนสิ่งที่ตัวแทนเขามาสา
ธิตให้เราดูว่ามันเป็นการแสดงตบตาเรา เล่นแร่แปรธาตุหรือเปล่า แค่ให้โอกาสตัวเอง
เรียนรู้สิ่งใหม่ๆดูบ้างแล้วทำให้ชีวิตดีขึ้น เงินเข้ากระเป๋ามากขึ้น มีความสุขมากขึ้นก็
เท่านั้น หัดคิดหาวิธีเปลี่ยนรายจ่ายให้กลับมาเป็นรายรับบ้าง เงินจะได้เข้าบ้านแบบ
ไม่ต้องไปคดโกงใคร

ตอนนี้ ผมกำลังก้าวสู่จุดพลิกชีวิตจากคนมีรายได้จากการใช้ตัวเองทำงานมาทั้งชีวิต
ที่เขาเรียก Active income คืองานลูกจ้าง พ่อค้าแม่ค้า กิจการขนาดเล็ก เราเคยทำ
มาแล้วทั้งนั้น อาชีพนี้หยุดเมื่อไหร่ รายได้หยุดเมื่อนั้น คนเราเมื่อถึงจุดหนึ่งก็อยาก
จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากมีชีวิตที่สบายดูบ้าง เพราะอาชีพเดิมไม่มีวันที่จะสบายได้
เพราะสิ่งที่เราทำไม่มีวันได้เป็นของเราเลย นอกจากวิธีการสร้างธุรกิจของเราเองแต่
ที่เหนือกว่าก็คือ ธุรกิจ ซูเลียน เป็นธุรกิจเครือข่ายที่ออกแบบมาให้คนแปรงฟัน อาบ
น้ำแล้วได้ตังค์ ที่สำคัญคือ คนที่เราไปชวนเขามากินมาใช้จนซื้อเป็นประจำนั้น เขา
ไม่มีวันหยุดซื้อกินซื้อใช้ตราบใดที่สินค้าที่เขาเลือกแล้ว แก้ปัญหาในชีวิตประจำวัน
ให้เขาได้ แถมยังเปลี่ยนรายจ่ายของแต่ละครอบครัวให้กลับมาเป็นรายได้ และเป็น
รายได้ที่ต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นจากการบอกต่อทุกเดือน ผมเริ่มเชื่อแล้วละครับว่าขณะ
ที่เรานอนหลับอยู่ เครือข่ายที่เราบอกต่อเขากำลังทำงานกันตลอด 24 ชม. หลับได้
เงินหมื่น ตื่นได้เงินแสน เหนื่อยชั่วคราวแต่สบายชั่วโคตรเป็นยังไง ดีกว่างานที่เรา
ตั้งหน้าตั้งตาเรียนมาทั้งชีวิต เหนื่อยชั่วโคตรยังหาวันที่สบายไม่ได้เลย และไม่รู้ว่า
จะได้หยุดเมื่อไหร่(เกิดเป็นคนมีกรรมจริงๆ)

ปัจจุบันผมยึดธุรกิจเครือข่าย ซูเลียน เป็นอาชีพแล้วเพราะได้สิ่งที่ไม่เคยได้ หากคุณ
มีพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงดูแล้วเกษียณอายุแล้ว เมื่อวานผมถามเงินเกษียณอายุของลุงข้างๆ
บ้านว่าได้เท่าไหร่(แกตอบเดือนละ 500 บาท) ผมบอกแกว่าลุงลองบอกลูกๆของลุง
ให้มาเอาเงินบำนาญหลังเกษียณจองสิทธิ์ให้พ่อแม่สิ ทำยังไง ก็แค่เปลี่ยนที่ซื้อเปลี่ยน
รายจ่ายเป็นรายรับดูสิแรกๆก็ไม่กี่ร้อยแต่ต่อๆไปจะรับไหวไหม ลองคิดดู

หากคุณอยากพิสูจน์สินค้า ซูเลียน แต่ไม่แน่ใจว่าดีจริงไหม นี่รหัสผม 41-1832994
ลองไปซื้อสินค้าที่ผมบรรยายให้ฟังดู ถ้าไม่ดีจริงนี่เบอร์โทรผม 09-2691-2945 แต่
ที่ผ่านมาผมยังไม่เคยเจอใครซักคนที่กลับมาว่าสินค้า ซูเลียน ไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้
ทุกสิ่งเริ่มที่ตัวเรา อย่างไม่ประมาท เราเป็นคนเป็นธรรมชาติคนอื่นเขาก็เป็นเช่นเรา
คุณสามารถนำ(รหัส 41-1832994 ใช้ได้ทั้งทดลองซื้อและสมัครสมาชิก) และซื้อใน
รหัสของคุณเองถ้าต้องการเงินคืนทุกเดือนอย่างผม แต่ระวังอย่าแนะนำคนจนเพลิน
เพราะรายได้คุณอาจจะเปลี่ยนจาก Active income เป็น Passive income ได้โดย
ที่คุณไม่รู้ตัว

ขอให้คุณสมหวังและเป็นคนที่สุขภาพดีและมีความสุขทุกคนนะครับ

โทรสอบถามผมได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ 09-2691-2945


โดย:  ผู้บริโภคฉลาดเลือก  [2 ต.ค. 2557 10:39]
ข้อคิดเห็นที่ 45:123

อดีตผมใช้แต่สินค้าท้องตลาด ดูแต่โฆษณาทีวี ฟังแต่วิทยุ แล้วก้มาเลือกซื้อเองยี่ห้อที่พอใจ
เปลี่ยนมาก้หลายยี่ห้อ ร้อนเกินบ้าง เผ็ดเกินบ้าง หวานจัดบ้าง เค็มจัดบ้าง แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยังมีหินปูน ต้องขูดต้องขัดหินปูน กลิ่นปากก็มีบางครั้งมากกว่าเดิม ขัดฟันก็ขัดทุกวัน กินเนื้อสัตว์หรือท้องผูกก็ไม่ใช่ แต่มีกลิ่นปาก บางทีเป็นร้อนใน กินข้าวลำบาก แปรงฟันลำบาก กินอะไรก็แสบปาก เมื่อก่อนไม่รู้จักขายตรง เจอหน้าทีไรจะชวนสมัครท่าเดียว เจอเพื่อนที่ทำงานบอกแอมเวย์ดีเราก็ว่าดี อีกสองปีให้หลังเขาก็หายไปเลยไม่เอามาขายอีก แต่เราก็ยังอยากได้ยาสีฟันที่ไม่ต้องขูดหินปูน ขูดทีไรเลือดกลบปากทุกที เสียฟันไปหมด วันนึงพี่ที่ทำงานบอกว่าช่วยอุดหนุนกาแฟพี่หน่อยสิ เราก็ไม่กินกาแฟเลยถามด้วยความเกรงใจว่าขายยังไง 10 ซอง 150 โอ้โหแพงแต่เราปวดหัวบ่อย ล้มฟาดพื้นบ่อยเพราะเส้นเลือดสมองตีบ แต่พอเอากาแฟมาชงกินเอ้อดีหอมดี กินแล้วโล่ง ไม่ปวดหัว ตามไม่พร่ามัวเหมือนทุกวัน แต่บางคนบอกเหม็นแต่เราโอเคทั้งที่ไม่ใช่คนกินกาแฟ สรุปว่าชอบ

แต่ยาสีฟันนี่สิ ปกติทุกเดือนไปซื้อของโลตัสใกล้ที่ทำงาน เข็นรถเข็นเต็มรถ น้ำมันพืช น้ำปลาซื้อยกลัง จิปาถะ อยู่ๆมีคนไม่รู้จักทักและถามว่า ซื้อเยอะทุกเดือนอย่างงี้ เคยได้เงินคืนบ้างรึป่าว งง? ส่วนลด คะแนน พอได้นะ แต่มีเงินคืนด้วยหรอ เขาก้ยิ้มๆ แล้วทิ้งนามบัตรให้มีตราสินค้า ชื่อบริษัทไม่เคยได้ยิน ZHULIAN บางคนอ่าน ซูเหรียญ ทุเรียนบ้าง ที่ถูกคือ ซูเลี่ยน เขาบอกว่าถ้าอยากได้เงินคืนว่างๆโทรมาคุยนะวันนี้พี่ไม่ว่าง อ้าว หลอกให้อยากแล้วจากไปๆแบบรีบๆซะด้วย สรุปก็คาใจกลับไป

นานจนเกือบลืมคนที่ยื่นนามบัตรใบนั้นเพราะเก็บซุกไว้ในกระเป๋า อยู่ๆค้นกระเป๋าแล้วเจอเลยลองโทรไปหา เขาก็นัดวันให้มาเจอ แล้วเขาก็แนะนำตัว พาไปเดินดูสินค้า เอ๊ะมีกาแฟที่เคยกินด้วยอยู่ที่นี่เอง แต่เราต้องการยาสีฟันที่ไม่ต้องขูดหินปูน ถามเขามีไหมเขาตอบว่า ยาสีฟันนี้พี่ก็มช้ไม่เคยมีปัญหาอะไรนะ หินปูนก็ไม่มีพี่ใช้มาตั้งนาน เลยลองซื้อไปใช้ดู เพราะมีทั้งฟลูออไรด์ ทั้งว่าหางจระเข้ แต่หลอดใหญ่ยาว หนัก 250 กรัมหลอดใหญ่มาก เขาบอกว่านอกจากแปรงฟันแล้วยังใช้ทาภายนอกได้อีก สรรพคุณสุดยอดเลยลองไปซัก 1 หลอด แต่ติดใจผงซักฟอกประทับใจผ้าขาวทำจนเปื้อนกลายเป้นผ้าดำ แค่แช่ธรรมดาๆไม่ขยี้เลยมันขาวจั๊วะขาวมากๆ แถมยังเอามือจุ่มน้ำมาทาหน้าอีก วันนั้นเลยสมัคร ซื้อกาแฟอร่อยมากและไม่ปวดหัว หน้ามืด ตาลายหาย ซื้อยาสีฟัน และผงซักฟอกไป ราคาก็ไม่แพงจนซื้อไม่ลงใกล้เคียงท้องตลาด แต่ยาสีฟันหลังจากซื้อไปใช้แล้วจนถึงปัจจุบันก้ยังไม่ต้องขูดหินปูนอีกเลย ไม่เสียว ไม่มีกลิ่นปาก เด็กมหาลัยวัยรุ่นบอกหนูเคยใช้แต้มสิวดีมากสิวหายไวด้วย ยาสีฟันเขาราคาสมาชิก 155 บาท ราคาไม่ทำบัตรสมาชิก 179 บาท มี 10 คะแนนสะสมได้ ไม่ตัด ไม่ต้องแลกสแตมป์ให้ยุ่งยากเอ้อดีเหมือนกัน สินค้าซูเลียนถ้าไม่ลองซื้อไปใช้เองไม่มีวันรู้จักหรอก เพราะซื้อตามห้างที่โฆษณาผ่านทีวีอย่างเดียว สรุปว่า คุ้ม เกินคุ้ม เพราะใช้ทน ใช้นาน ซักผ้าก็ไม่ต้องซื้อปรับผ้านุ่ม ไฮเตอร์  ไฮยีน น้ำยารีดผ้าให้เสียเวลา ไม่ยุ่งยากเลย

ใครไม่เชื่อว่าดีจริง ลองเอารหัส 41-1832994 ไปซื้อได้ที่ห้างซูเลียนใกล้บ้าน หรือทำบัตรสมาชิกเขาเรียกบัตรส่วนลด ด้วยรหัสที่ว่านี้ ถ้าไม่ดีจริงอย่างที่เขาพูดเขาลือกันก็โทรมาที่เบอร์นี้ได้เลย 09-2691-2945 เพราะลองมากับตัวเองแล้ว ใช้ดีแล้วบอกต่อเพื่อนที่ทำงาน คนรู้จัก ไม่รู้จักเห็นด้วยเลยฝากบอกความประทับใจครับ

โดย:  ผู้บริโภคฉลาดเลือก  [15 ธ.ค. 2557 00:33]
ข้อคิดเห็นที่ 46:127

ลองแค่หลอดเล็ก ของ กลิสเทอร์ ราคา 95 บาท มาแปรงดูครับ ใครที่สงสัยในคุณภาพ ผมว่าอาทิตย์เดียวก็รู้เรื่องได้คำตอบแล้วแหละ  ทีนี้อยู่ที่เราพอใจแค่ไหนแล้วครับ แต่สำหรับผมตอบโจทย์ทุกอย่าง แล้วก็คงไม่กลับไปใช้ยี่ห้อที่เคยใช้แล้วแหละครับ สารอะไรบ้างในกลิสเทอร์ไม่รู้อ่านไม่ออกโง่ครับ  แต่ที่รู้ สกปรก เสียว เหม็น จัดการได้หมดครับ ไม่เกิน 100 ลองดูแล้วคุณจะรู้สึกไม่ต่างกับผม มันกลับไปใช้ยี่ห้อเดิมไม่ได้จริง  แต่ยี่ห้ออื่นที่ราคาสูงๆ ตามห้างก็อาจจะดีกว่ากลิสเทอร์ก็ได้นะครับ แต่ผมยังไม่เคยใช้เท่านั้นเอง  ลองดูจะได้ไม่ต้องตอบโต้กันรุนแรงครับ ดีก็บอกว่าดี ไม่ดีก็บอกว่าไม่ดีครับ ขอบคุณครับ

โดย:  สัมผัสได้  [14 ต.ค. 2559 01:18]
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้

หากท่านต้องการแสดงข้อคิดเห็นหรือแสดงความคิดเห็นที่อยู่ในประเด็นเดียวกับหัวข้อนี้ ให้กรอกข้อมูล แล้วกดปุ่มส่งข้อความด้านล่างนี้