|
ข้อคิดเห็นที่
1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ : ความสนใจของคุณวรพินิตเกี่ยวกับการลดการใช้สารเคมีอันตราย และการทดแทนสารแคมีอันตรายเป็นสิ่งที่ควรได้รับการสนับสนุนอยู่แล้ว คงไม่ต้องกังวลเรื่องคำจำกัดความ เพราะในระดับสากลก็ยังมีความเห็นหลากหลาย ลองใช้คำว่า “Non-Toxic Chemical” ถามอาจารย์ google ก็จะได้คำตอบถึง 18.8 ล้านคำตอบ และหนึ่งคำตอบในนั้นคือ สารทำความสะอาดบ้าน http://www.sensible-house-cleaning-solutions.com/non-toxic-alphabetic.html เมื่อสืบค้นด้วยคำว่า “ Green Chemical ” ยิ่งได้คำตอบมากกว่าคือ 74.4 ล้านคำตอบ เมื่อมองในเชิงบวก คงพูดได้ว่าทุกคนที่สนใจเรื่องการลดการใช้สารเคมีอันตราย มีเป้าหมายเดียวกัน ยิ่งความหมายกว้างก็จะมีผู้คิดและลดการใช้สารเคมีอันตรายมากขึ้น ผู้ที่อยู่ในวงการค้าจะใช้ประโยชน์จากคำว่า “ Green” มาก ซึ่งผู้ซื้อต้องระวังไม่ให้ถูกหลอกได้ การหาสารที่สามารถนำมาทดแทนสารละลายกลุ่มที่ใช้กันมากในโรงงานอุตสาหกรรมสำหรับทำความสะอาดชิ้นส่วนหรือพื้นผิวปนเปื้อนน้ำมัน จารบี …นั้น เป็นปัญหาหนักและท้าทายโดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ผู้ที่สามารถตอบคำถามได้ว่าควรเลือกสารอะไรมาใช้แทนสารกลุ่มเดิมสำหรับทำความสะอาด ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ที่ให้ผลพอกันหรือดีกว่าโดยที่อันตรายน้อยกว่า ค่าใช้จ่ายน้อยกว่า จะเป็นผู้ได้เปรียบในเชิงการค้าโดยเฉพาะในการค้าระหว่างประเทศ สหภาพยุโรปใช้เวลาหลายปีในการพัฒนากฏหมาย REACH และประกาศบังคับใช้เมื่อปี ค.ศ. 2007 กฎหมายดังกล่าวนอกจากมีข้อกำหนดหลักให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าที่มีถิ่นฐานอยู่ในสหภาพยุโรปต้องจดทะเบียนสารเคมีที่ตนผลิตและนำเข้าแล้ว ยังมีข้อกำหนดให้มีการสื่อสารข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีตลอดห่วงโซ่อุปทาน และมีการจำกัดการใช้สารเคมีที่มีอันตรายสูงพร้อมทั้งการหาสารที่มีอันตรายน้อยกว่ามาใช้ทดแทนสารเดิม ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมีความจำเป็นต้องศึกษาวิจัยหาสารทดแทนมาใช้ในกิจการของตนซึ่งทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น ขอให้กำลังใจคุณวรพินิตในการค้นคว้าต่อไป และหากได้คำตอบดีๆ ขอเชิญนำมาเผยแพร่ที่เว็บไซต์นี้นะคะ โดย: วราพรรณ ด่านอุตรา [25 ธ.ค. 2554 15:51] |