สนับสนุนโดย 
สนับสนุนโดย
|
สนับสนุนโดย
|
ถาม-ตอบ
|
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่
1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ  : อันดับแรก เราควรศึกษาก่อนว่า กระบวนการผลิตน้ำประปาเป็นอย่างไร เช่น ผ่านการตกตะกอน การกรอง การเติมคลอรีน เป็นต้น (ข้อมูลการผลิตน้ำประปา: http://www.pwa.co.th/service/treatment.html) แล้ววิธีการข้างต้นเหล่านี้ สามารถกำจัดสิ่งปนเปื้อนในน้ำ อย่างมีประสิทธิภาพได้แค่ไหน สิ่งนี้เป็น เรื่องที่เราต้องตระหนักอย่างมาก โดยปกติ จะมีคำแนะนำในการใช้น้ำประปาเอาไว้ให้ประชาชนได้รับรู้อยู่แล้ว แต่การนำน้ำประปามาบริโภคดื่มหรือประกอบอาหาร จะต้องคำนึงถึงสุขภาพขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง โดยเฉพาะ "สมบัติของน้ำที่ใช้ดื่ม" วิธีการวิเคราะห์เรื่องน้ำบริสุทธิ์/น้ำดื่ม จะมอง 2 เรื่องหลัก คือ 1. ลักษณะทางกายภาพ เช่น สี กลิ่น รส 2. ลักษณะทางชีวภาพ คือ มีจุลินทรีย์ปนเปื้อน หรือไม่ ลักษณะทั้งสองอย่างนี้ จะสามารถบอกได้ว่า น้ำนั้นเหมาะสมที่จะดื่มหรือเปล่า จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย ระยะสั้นและยาวอย่างไร โดยดูจากสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในน้ำ เช่น ถ้าไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ก็จะมีเชื้อโรคหลงเหลือในน้ำ เราดื่มไป ก็เกิดโรคหรือไม่สบายเพราะติดเชื้อ เป็นต้น หรือเกิดการสะสมสารเคมีบางอย่างในร่างกายเรานาน ๆ จนเกิดความผิดปกติกับร่างกายเมื่อสารเคมีนั้นสะสมในระดับที่มากเกินไปและร่างกายกำจัดออกไปไม่ได้ สารเคมีที่ใช้ในการผลิตน้ำประปาทั้งหมด บางชนิดสามารถแยกออกได้ระหว่างกระบวนการผลิต บางชนิดไม่สามารถแยกออกได้ ซึ่งแน่นอนว่า การบริโภคโดยตรง คือ การที่เราดื่มสารเคมีที่เจือจางอยู่ในน้ำประปาโดยตรงเช่นเดียวกัน แล้วจะทำอย่างไร หากจะนำมาบริโภค คำแนะนำเบื้องต้น คือ วิธีง่าย ๆ เช่น การนำมาต้มก่อนหลาย ๆ รอบ จนกลิ่นคลอรีนหายไป หรือ วิธีที่ต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกหน่อย คือ การผ่านเครื่องกรองน้ำ ที่ขายทั่วไป (หมายเหตุ: การซื้อเครื่องกรองน้ำ ชนิดเครื่องกรองน้ำ ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน) คำตอบสั้น ๆ กว่าคือ ควรนำมาผ่านขั้นตอนทำให้น้ำบริสุทธิ์ก่อนทุกครั้ง ไม่ควรบริโภคโดยตรง โดย: ดร. เสาวรัตน์ จันทะโร [22 พ.ค. 2556 11:04] |
| ข้อคิดเห็นที่
1: -ขอบคุณมากครับ โดย: jiang [22 พ.ค. 2556 22:35] |
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้