อันตราย (ตามระบบ GHS) |
อุปกรณ์ป้องกัน/ข้อควรปฏิบัติทั่วไป |
|
ก๊าซไวไฟสูงมาก / อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ หรือ อาจทำให้เกิดอาการมึนงงหรือเวียนศีรษะ / เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำ / เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำเกิดขึ้นในระยะยาว |
|
การควบคุมเชิงวิศวกรรม ต้องมีเครื่องระบายอากาศ. ฝักบัวนิรภัยและอ่างล้างตา. คำเตือน: การดูดกลับเข้าไปในท่ออาจทำให้เกิดการแตกได้ ใช้เครื่องป้องกันการไหลกลับในท่อ. สุขลักษณะทั่วไป ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่เปื้อนก่อนนำมาใช้ใหม่. ล้างให้สะอาดหลังการสัมผัส. เครื่องป้องกันส่วนบุคคล การป้องกันทางเดินหายใจ: เครื่องช่วยหายใจที่ผ่านการรับรองโดยรัฐในบริเวณที่ไม่มีการระบายอากาศและ/หรือการได้รับเหนือ TLV หรือ PEL การป้องกันมือ: ถุงมือชนิดที่ทนสารเคมี. การป้องกันดวงตา: แว่นตาแบบก๊อกเกิลส์ที่ป้องกันสารเคมี. การปฏิบัติงาน เก็บและใช้ในที่อากาศถ่ายเทได้เพียงพอ. |
|
ข้อปฏิบัติการใช้สาร คำแนะนำสำหรับการปฏิบัติที่ปลอดภัย: อย่าหายใจเอาแก๊สเข้าไป. ระวังอย่าให้เข้าตา, โดนผิวหนัง, หรือเสื้อผ้า. หลีกเลี่ยงการได้รับสารเป็นเวลานานหรือซ้ำหลายครั้ง. การเก็บรักษา สภาวะสำหรับการเก็บ: ปิดให้สนิท. เก็บให้ห่างจากความร้อน, ประกายไฟ, และเปลวไฟ. อุณหภูมิของท่อไม่ควรเกิน 125 องศาฟาเรนไฮซ์ (52 องศาเซลเซียส). สารที่เข้ากันไม่ได้: ของผสมระหว่างเอทิลีนและอะลูมินัมคลอไรด์ที่ความดัน 30-60 บาร์ จะเกิดความร้อนอย่างรวดเร็ว และระเบิดได้เมื่อมีตัวเร่งปฏิกิริยานิเกิลที่ถูกดูดซับ, เมทิลคลอไรด์หรือไนโตรมีเทน. การผสมเอทิลีนกับไตรฟลูออโรเมทิลไฮโปฟลูออไรต์โดยปราศจากตัวทำให้เจือจางทำให้เกิดการระเบิด. ปฏิกิริยากับ คลอรีน โอโซน หรือไนโตรเจนออกไซด์จะเกิดการระเบิดได้. เมื่อผ่านเอทิลีนไปยังลิเทียมที่ร้อนจะเกิดการลุกสว่าง และเกิดของผสมระหว่างลิเทียมไฮไดรด์และลิเทียมอะเซติไลด์. เมื่อใช้โมเลคิวลาร์ซีฟขนาด 5A สำหรับทำแก๊สเอทิลีนอัดให้แห้งจะเกิดปฏิกิริยาคายความร้อน และทำให้เกิดการระเบิด. โมเลคิวลาร์ซีฟ 3A ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าจะไม่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับ ethylene สิ่งที่ต้องมีเป็นพิเศษ: สารนี้บรรจุอยู่ภายใต้ความดัน. |
|
ข้อควรปฏิบัติสำหรับบุคคลในกรณีที่หก หรือรั่วไหล อพยพคนออกจากบริเวณและให้อยู่เหนือลม. ปิดแหล่งกำเนิดประกายไฟทุกแหล่ง. ปิดรอยรั่วไหลถ้าทำได้โดยไม่เสี่ยง. วิธีป้องกันภัยของบุคคล สวมอุปกรณ์ช่วยหายใจแบบครบชุด, รองเท้าบูท และถุงมือยางแบบหนา. วิธีการทำความสะอาดหลังการปนเปื้อน หรือรั่วไหล ระบายอากาศในบริเวณนั้น และล้างตำแหน่งที่สารหกรั่วไหลหลังจากเก็บสารออกหมดแล้ว. |
|
อุปกรณ์ผจญเพลิง เหมาะสม: ใช้ละอองน้ำหรือหัวฉีดละอองเพื่อทำให้ถังแก๊สเย็น. เคลื่อนย้ายถังแก๊สให้ห่างจากไฟถ้าไม่มีความเสี่ยง. ความเสี่ยงเฉพาะ อันตรายเฉพาะ: ไวไฟอย่างยิ่ง. ไอระเหยอาจเคลื่อนที่ไปในระยะทางที่ห่างไกลออกไปจากแหล่งกำเนิดประกายไฟและย้อนกลับมาติดไฟ. ปล่อยควันพิษออกมาภายใต้สภาวะที่เกิดไฟ. อันตรายจากการระเบิด: อาจเกิดของผสมที่ระเบิดได้กับอากาศ ไอระเหยอาจเคลื่อนที่เป็นระยะทางไกลถึงแหล่งที่เกิดไฟและเปลวไฟ. ภาชนะอาจระเบิดเมื่อโดนไฟ. อุปกรณ์ป้องกันพิเศษสำหรับผู้ผจญเพลิง สวมเครื่องช่วยการหายใจแบบครบชุดและเสื้อผ้าที่ใช้ป้องกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับผิวหนังและดวงตา. วิธีเฉพาะสำหรับผจญเพลิง ห้ามดับไฟที่เกิดจากแก๊สที่กำลังลุกไหม้ ถ้าไม่สามารถปิดแก๊สได้ทันที. ใช้ละอองน้ำหรือหัวฉีดละอองเพื่อทำให้ถังแก๊สเย็น. เคลื่อนย้ายถังแก๊สให้ห่างจากไฟถ้าไม่มีความเสี่ยง. |
|
เมื่อสูดดมสาร ถ้าสูดดมเข้าไป, ให้ย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์. ถ้าไม่หายใจ ให้การช่วยหายใจ. ถ้าหายใจลำบาก, ให้ออกซิเจน. เมื่อสัมผัสสาร ในกรณีที่สัมผัสกับสาร, ให้ล้างผิวหนังทันทีด้วยสบู่และน้ำปริมาณมาก. เมื่อสารเข้าตา ควรขจัดสิ่งปนเปื้อนจากดวงตาทันทีโดยล้างตาด้วยน้ำปริมาณมากเป็นเวลานาน. ต้องแน่ใจว่าได้ล้างตาอย่างเพียงพอ โดยใช้นิ้วมือแยกเปลือกตาออกจากกันระหว่างล้าง. เมื่อกลืนกิน เมื่อกลืนกิน, ให้ใช้น้ำบ้วนปากในกรณีที่ผู้ป่วยที่ยังมีสติอยู่. ไปพบแพทย์. |