อันตราย (ตามระบบ GHS) |
อุปกรณ์ป้องกัน/ข้อควรปฏิบัติทั่วไป |
|
ทำให้เสียชีวิตเมื่อกินเข้าไป / ทำให้เสียชีวิตเมื่อสัมผัสทางผิวหนัง / ทำให้เสียชีวิตเมื่อหายใจเข้าสู่ร่างกาย / คาดว่าอาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อพันธุกรรม / ทำให้เกิดอันตรายต่ออวัยวะเป้าหมาย (ระบบประสาท) / เป็นพิษสูงต่อสัตว์น้ำ / เป็นพิษสูงต่อสัตว์น้ำเกิดขึ้นในระยะยาว |
|
การควบคุมเชิงวิศวกรรม ฝักบัวนิรภัยและอ่างล้างตา. ใช้เครื่องมือที่ไม่เกิดประกายไฟ. ต้องมีเครื่องระบายอากาศ. สุขลักษณะทั่วไป ล้างให้สะอาดหลังการสัมผัส. ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่เปื้อนก่อนนำมาใช้ใหม่. เครื่องป้องกันส่วนบุคคล ทางการหายใจ: เครื่องช่วยหายใจที่ผ่านการรับรองโดยรัฐ มือ: ถุงมือชนิดที่ทนสารเคมี. ตา: แว่นตาแบบก๊อกเกิลส์ที่ป้องกันสารเคมี. |
|
ข้อปฏิบัติการใช้สาร ข้อปฏิบัติขณะใช้สาร: อย่าหายใจเอาไอระเหยเข้าไป. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับดวงตา, ผิวหนัง และเสื้อผ้า. หลีกเลี่ยงการได้รับสารเป็นเวลานานหรือซ้ำหลายครั้ง. การเก็บรักษา เหมาะสม: ปิดภาชนะให้สนิท. เก็บให้ห่างจากความร้อน, ประกายไฟ, และเปลวไฟ. |
|
วิธีป้องกันภัยของบุคคล สวมอุปกรณ์ช่วยหายใจแบบครบชุด, รองเท้าบูท และถุงมือยางแบบหนา. วิธีการทำความสะอาดหลังการปนเปื้อน หรือรั่วไหล คลุมด้วยปูนขาวแห้ง, ทราย, หรือโซดาแอช. เก็บในภาชนะที่ปิดโดยใช้เครื่องมือที่ไม่ก่อให้เกิดประกายไฟและเคลื่อนย้ายออกสู่ที่โล่ง. ระบายอากาศในบริเวณนั้น และล้างตำแหน่งที่สารหกรั่วไหลหลังจากเก็บสารออกหมดแล้ว. ข้อปฏิบัติกรณีที่หก หรือรั่วไหล อพยพคนออกจากบริเวณ. ปิดแหล่งกำเนิดประกายไฟทุกแหล่ง. |
|
อุปกรณ์ผจญเพลิง เหมาะสม: ละอองน้ำ. Carbon dioxide, ผงเคมีแห้ง หรือโฟมที่เหมาะสม. จุดวาบไฟ 35.6 ?F 2 ?C อุณหภูมิที่ติดไฟได้เอง 525 ?C ความไวไฟ ไม่มีข้อมูล การผจญเพลิง อุปกรณ์ป้องกัน: สวมเครื่องช่วยการหายใจแบบครบชุดและเสื้อผ้าที่ใช้ป้องกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับผิวหนังและดวงตา. อันตรายเฉพาะเรื่อง: ของเหลวไวไฟ. ปล่อยควันพิษออกมาภายใต้สภาวะที่เกิดไฟ. อันตรายจากความไวไฟ อันตรายจากความไวไฟ: ใช่ อันตรายจากการระเบิด ไอระเหยอาจเคลื่อนที่ไปในระยะทางที่ห่างไกลออกไปจากแหล่งกำเนิดประกายไฟและย้อนกลับมาติดไฟ. ภาชนะจะเกิดการระเบิดได้หากอยู่ในสภาวะที่มีไฟ. กรณีที่ไฟไหม้รุนแรง ควรอพยพคนออกจากบริเวณและดับเพลิงจากตำแหน่งที่ห่างออกมาและกันระเบิดได้ด้วย. ขีดจำกัดของการระเบิด ต่ำกว่า: 3 % เกินกว่า 16 % |
|
กรณีที่ได้รับสารทางปาก เมื่อกลืนกิน, ให้ใช้น้ำบ้วนปากในกรณีที่ผู้ป่วยที่ยังมีสติอยู่. ไปพบแพทย์. กรณีที่ได้รับสารโดยทางสูดดม ถ้าสูดดมเข้าไป, ให้ย้ายผู้ป่วยไปที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์. ถ้าไม่หายใจ ให้การช่วยหายใจ. ถ้าหายใจลำบาก, ให้ออกซิเจน. กรณีที่ได้รับสารทางผิวหนัง ในกรณีที่ถูกผิวหนัง, ให้ล้างออกด้วยน้ำปริมาณมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที. ถอดเสื้อและรองเท้าที่เปื้อนสาร. ไปพบแพทย์. กรณีที่ได้รับสารทางตา ในกรณีที่เข้าตา, ให้ล้างด้วยน้ำปริมาณมาก เป็นเวลาอย่างน้อย 15 นาที. ต้องแน่ใจว่าได้ล้างตาอย่างเพียงพอ โดยใช้นิ้วมือแยกเปลือกตาออกจากกันระหว่างล้าง. ไปพบแพทย์. |