|
แหล่งที่ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ หรือพูดง่ายๆว่าต้นตอของสารพิษในน้ำมาจากไหน จริงๆแล้ว แหล่งสำคัญเห็นจะหนีไม่พ้น 3 แหล่งต่อไปนี้คือ แหล่งชุมชน แหล่งอุตสาหกรรม และแหล่งเกษตรกรรม สำหรับการปนเปื้อนจากแหล่งธรรมชาติก็พอมีเป็นตัวอย่าง เช่น ปริมาณฟลูออไรด์สูงในน้ำใต้ดินบางพื้นที่ทางภาคเหนือ ที่พบว่าบ่อบาดาลในจังหวัดภาคเหนือตอนบน มีฟลูออไรด์เกินมาตรฐาน (มากกว่า 1 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือ ส่วนในล้านส่วน) ตั้งแต่ร้อยละ 5-22 เป็นสาเหตุของฟันตกกระ และยังพบการสะสมฟลูออไรด์ในกระดูกและอวัยวะอื่นด้วย แหล่งที่มีชุมชนหนาแน่นมักเป็นสาเหตุของการปนเปื้อนของเชื้อโรค ที่เป็นต้นเหตุของโรคอุจจาระร่วง นอกจากนั้นยังเป็นต้นเหตุของอุจจาระที่มีไข่พยาธิ พฤติกรรมการบริโภคปลาน้ำจืดโดยไม่ปรุงให้สุกของชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้โรคพยาธิใบไม้ตับเป็นปัญหารุนแรง มีอาการของท่อน้ำดีอักเสบ ตับโต และถึงขั้นเป็นมะเร็งท่อน้ำดีและมะเร็งตับ สำหรับแหล่งอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดการปนเปื้อนในน้ำนั้น กรณีสำคัญที่เกิดขึ้นในระยะไม่นานมานี้ ได้แก่ การเกิดมลพิษจากสารหนูที่อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช พบผู้ป่วยพิษสารหนูระดับต่างๆ ทั้งที่มีอาการโรคผิวหนังและมะเร็งผิวหนัง ที่เรียกว่าไข้ดำ บ่อน้ำตื้นที่สำรวจมีระดับสารหนูเกินกว่ามาตรฐาน การปนเปื้อนตะกั่วจากเหมืองและโรงแต่งแร่ลงสู่ลำห้วยคลิตี้ จังหวัดกาญจนบุรี พบว่าน้ำผิวดินมีปริมาณตะกั่วสูงกว่ามาตรฐาน และยังพบว่า เด็กในหมู่บ้านมีระดับตะกั่วในเลือดสูง ส่วนการปนเปื้อนจากแหล่งทางภาคเกษตรนั้น มักเป็นเหตุมากว่าการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืช สารเคมีเหล่านี้ถ้าไม่สลายตัว หรือสลายได้ช้า ก็จะปนเปื้อนในดิน การชะล้างจึงทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนไปด้วย
|
