น้ำยาขัดพื้นและเฟอร์นิเจอร์ มักมีส่วนผสมของสารเคมีหลัก ๆ อยู่ 2-3 ชนิดคือ ไดเอธิลีนไกลคอล (Diethylene Glycol) น้ำมันปิโตรเลียม และไนโตรเบนซีน ทั้งหมดเป็นสารไวไฟและให้ไอระเหย แต่ส่วนใหญ่คือ 2 ชนิดแรก ส่วนไนโตรเบนซีนมีน้อย ไดเอธิลีนไกลคอลและนํ้ามันปิโตรเลียมทำหน้าที่เป็นตัวทำละลาย
ความเป็นพิษของทั้งสองตัวนี้ไม่รุนแรงและไม่มีพิษเฉียบพลัน นอกจากกลืนกินเข้าไป อันตรายจึงอยู่ที่ความไวไฟและไอระเหยที่อาจสูดดมเข้าไประยะยาว แต่เมื่อมันมาอยู่ในบ้านเราก็ต้องระวังเด็กกินเข้าไปเท่านั้น ถ้ากลืนกินเข้าไปจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง ต้องให้ผู้ป่วยดื่มน้ำมาก ๆ ล้วงคอให้อาเจียนแล้วส่งแพทย์
สำหรับไนโตรเบนซีนที่อาจเป็นส่วนผสมอยู่นั้น ด้วยตัวของมันเองจะมีพิษมากกว่า เพราะเมื่อสูดดมหรือซึมซับเข้าผิวหนังเป็นเวลานาน จะเป็นพิษต่อเม็ดเลือด อาการรุนแรงอาจถึงขั้นปวดศรีษะ ชีพจรเต้นไม่เป็นจังหวะ ความดันเลือดลดลง หายใจลำบาก เกิดอาการตัวเขียว และระบบส่วนกลางผิดปกติ เมื่อเกิดไฟไหม้ให้ใช้โฟมสำหรับดับไฟ หรือผงเคมี หรือคาร์บอนไดออกไซด์ดับไฟได้ แต่ถ้าน้ำยาปริมาณไม่มากก็ใช้น้ำได้ การถูกผิวหนังไม่มีอันตรายมากนักเพียงแต่ล้างออกทันทีด้วยน้ำมาก ๆ ที่สำคัญไม่ควรปล่อยไนโตรเบนซีนสู่สิ่งแวดล้อม
การที่เราต้องพึ่งพาน้ำยาต่างๆ ตั้งแต่น้ำยาขัดพื้นห้องน้ำทั้งกรดและด่าง แล้วยังน้ำยาขัดเฟอร์นิเจอร์อีก น่าจะหยุดคิดว่ามีความจำเป็นสักเพียงใด ลดลงได้หรือไม่ อาจหาสิ่งอื่นทดแทนก็ได้ เช่นอาจใช้น้ำมันผสมน้ำมะนาว (2:1) ขัดเฟอร์นิเจอร์แทน หรือถ้าท่อตันลองใช้วิธีทะลวงท่อหรือล้างด้วยน้ำร้อน ก่อนหันไปใช้โซเดียมไฮดรอกไซด์ หรือแทนที่จะใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นกรดไฮโดรคลอลิก อาจใช้แค่น้ำผสมผงซักฟอกแล้วขัดด้วยแปรงก็ได้ หรือถ้าอย่างอ่อน ๆ ก็หันไปใช้ผงฟู (โซเดียมไบคาร์บอเนต) แทน ดังนั้นก่อนจะซื้อน้ำยาทำความสะอาดใด ๆ มาใช้ หยุดคิดถึงสิ่งแวดล้อมสักนิด ภัยใกล้ตัวก็อาจลดลงด้วย
|