ใครที่เคยเดินเข้าไปในโรงพยาบาล มักจะได้กลิ่นน้ำยาถูพื้นที่ใช้เพื่อฆ่าเชื้อโรค ซึ่งสมัยก่อนที่น้ำยาฆ่าเชื้อยี่ห้อต่าง ๆ ยังไม่แพร่หลาย เขาจะใช้ฟีนอลผสมน้ำเป็นน้ำยาถูพื้น “ฟีนอล” มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่ากรดคาร์บอลิก เป็นสารที่ได้มาจากน้ำมันถ่านหิน ซึ่งรู้จักกันมาเกือบ 200 ปีแล้ว แต่เพิ่งมารู้วิธีสังเคราะห์ได้เมื่อประมาณ 70 กว่าปีมานี้เอง โดยเริ่มจากเบนซีนที่ได้จากปิโตรเลียม ฟีนอลเป็นสารที่สหรัฐอเมริกาผลิตมากติดอันดับ 50 ชนิดแรกของประเทศ
ฟีนอลเป็นของแข็งไม่มีสีถ้าบริสุทธิ์จะขาวขุ่น นอกจากใช้ในน้ำยาฆ่าเชื้อโรคแล้วส่วนใหญ่จะใช้เป็นสารตั้งต้นสำคัญในอุตสาหกรรมโพลิเมอร์ ที่ให้ผลิตภัณฑ์พลาสติกหลายรูปแบบออกมา เป็นต้นว่าไนลอนที่มาจากสารคาโปรแลคแทม เม็ดพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และในกาวที่ใช้กับไม้ ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวของเราหลายอย่างก็มีฟีนอลเป็นส่วนผสม เช่น เวชภัณฑ์ต่าง ๆ ขี้ผึ้ง ยาอมแก้เจ็บคอ น้ำยาบ้วนปาก ฯลฯ
อันตรายของฟีนอลที่ต้องระวังคือฟีนอลเข้มข้นเมื่อถูกผิวหนังจะกัดผิวหนังและซึมเข้าสู่กระแสโลหิตด้วย แผลที่ผิวหนังจะมีลักษณะพองขาว และเกิดอาการปวดแสบปวดร้อนแล้วชา ถ้าหกรดเป็นบริเวณกว้างหรือกลืนกินเข้าไปอาจถึงตายได้ เนื่องจากเป็นพิษต่อตับ ไต และไปกดระบบประสาทส่วนกลาง
ฟีนอลมีฤทธิ์กัดทำให้ระคายเคืองเยื่อเมือกต่าง ๆ เช่นเยื่อบุในปาก หลอดลม หลอดอาหาร และระบบลำไส้ วิธีแก้ไขขั้นต้นหากถูกผิวหนัง ให้ล้างออกด้วยของผสมพอลิเอทีลีนไกลคอล 350 ในเอทานอลอัตราส่วน 2 : 1 หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำปริมาณมากๆ ถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออกทันที การล้างออกจากผิวหนังควรระวังอย่าทำให้ผิวหนังต้องถูกสารขยายเป็นบริเวณกว้างขึ้น เช่นการรใช้สำลีชุบแอลกอฮอลเช็ด ก็ควรเช็ดเฉพาะบริเวณที่ถูกสารออกให้มากที่สุด ผิวหนังบริเวณอื่นจะได้ไม่สัมผัสกับสารโดยไม่จำเป็นแล้วจะเป็นแผลบริเวณกว้างออกไป ทำให้ฟีนอลมีโอกาสซึมเข้าสู่ผิวหนังเป็นบริเวณกว้างขึ้นอีก หากกลืนกินเข้าไปอย่าทำให้อาเจียน เพราะสารมีฤทธิ์กัดกร่อนจะเกิดการกัดทะลุได้ ต้องรีบให้กินผงถ่านกัมมันต์ 20-40 กรัมผสมน้ำ 200-400 มิลลิลิตร แล้วรีบนำส่งแพทย์ทันที
ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกับสารฟีนอลคือ คนงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ฟีนอลในกระบวนการผลิต ซึ่งต้องรับทราบถึงอันตรายและมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่นถุงมือ และเสื้อคลุม เป็นต้น ขณะเดียวกันเจ้าของโรงงานต้องรับผิดชอบในเรื่องการฝึกอบรมและจัดหาอุปกรณ์ที่จำเป็นให้กับคนงาน และพร้อมรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น มียาแก้พิษเตรียมเอาไว้ด้วย
อนึ่งฟีนอลเป็นสารตกค้างในดินและในน้ำเป็นเวลานาน จึงต้องระมัดระวังการทิ้งลงระบบสุขาภิบาลหรือที่สาธารณะทั่วไป...
หมายเหตุ
|
Phenol
|
เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 2 ตามพรบ. วัตถุอันตราย ควบคุมโดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม
|
|
|
เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ตามพรบ. วัตถุอันตราย ควบคุมโดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และกรมปศุสัตว์
|
|