หนังสือพิมพ์วันนี้ 29 ต.ค. มีข่าวโรงผลิตดอกไม้ไฟที่สุพรรณบุรีระเบิดขึ้นอีกครั้ง เหตุการณ์สถานประกอบการเกี่ยวกับดอกไม้ไฟระเบิดเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา และคาดว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากเข้าใกล้เทศกาลลอยกระทงและฉลองปีใหม่ ซึ่งมักมีการใช้ดอกไม้ไฟในการเฉลิมฉลองตามสถานที่จัดงานต่าง ๆ ทำให้มีการผลิตมากขึ้นในช่วงนี้ ในการผลิตรวมทั้งการใช้งานดอกไม้ไฟต้องใช้ความระมัดระวังสูง เนื่องจากส่วนประกอบของดอกไม้ไฟเป็นสารอันตรายจำพวกที่ระเบิดได้ นอกจากนี้ ยังมีสารเคมีอีกมากที่เกี่ยวข้องในการผลิตดอกไม้ไฟ สารเคมีที่ใช้ การประกอบ ความเสี่ยงภัย และความปลอดภัยในการผลิตและใช้งานดอกไม้ไฟ มีรายละเอียดพอสังเขปดังนี้
สารเคมีที่ใช้ในการทำดอกไม้ไฟ
ดอกไม้ไฟมีการใช้สารเคมีซึ่งทำหน้าที่สำคัญ 6 ส่วนด้วยกันคือ
- เชื้อเพลิง สารที่นิยมใช้เป็นเชื้อเพลิงได้แก่ ดินปืน
-
สารออกซิไดซ์ทำหน้าที่ให้ออกซิเจนเพื่อให้เกิดการเผาไหม้ สารเคมีที่ใช้จะเป็นพวกไนเตรทคลอเรต หรือ เปอร์คลอเรต เช่น แอมโมเนียม เปอร์คลอเรต (Ammonium perchlorate) แบเรียม ไนเตรท (barium nitrate) โปแตสเซียม คลอเรต (potassium chlorate) โปแตสเซียม ไนเตรท (potassium nitrate) โปแตสเซียม เปอร์คลอเรต (potassium perchlorate) และสตรอนเทียม ไนเตรท (strontium nitrate)
-
สารรีดิวซ์ ทำหน้าที่เผาไหม้ออกซิเจนที่สารออกซิไดซ์ปลดปล่อยออกมา เพื่อให้เกิดก๊าซร้อน สารที่ใช้กันได้แก่ ซัลเฟอร์และดินปืน ซึ่งเมื่อเผาไหม้จะให้ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และคาร์บอนไดออกไซด์
-
สารควบคุมความเร็วของการเผาไหม้ โลหะบางชนิดจะถูกเติมลงไปเพื่อควบคุมความเร็วของปฏิกิริยาเผาไหม้ ความเร็วของปฏิกิริยาแปรผันตามพื้นที่ผิวของโลหะ
-
สารที่ทำให้เกิดสี ตัวอย่างเช่น สตรอนเทียม ให้สีแดง ทองแดงให้สีน้ำเงิน แบเรียมให้สีเขียว โซเดียมให้สีเหลืองและส้ม และแคลเซียมให้สีส้ม เป็นต้น
-
ตัวประสาน ทำหน้าที่ยึดส่วนผสมต่าง ๆ ให้เกาะติดกัน สารที่นิยมใช้ได้แก่ เด็กทริน
นอกจากนี้ยังมีสารที่ให้คุณสมบัติพิเศษอื่น ๆ เช่น แมกนีเซียมซึ่งจะให้แสงสว่างจ้ามาก ๆ ใช้เพื่อเพิ่มความสว่างไสวของดอกไม้ไฟ พลวงให้แสงแวววาวระยิบระยับ สังกะสีทำให้เกิดควัน ไทเทเนียมให้ประกายสีเงิน เป็นต้น
การประกอบดอกไม้ไฟ
ดอกไม้ไฟมีส่วนประกอบดังนี้ (ดูรูปที่ 1)
-
Lift Charge เป็นส่วนที่ทำให้ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นจากพื้นแล้วทำให้ดินปืนเผาไหม้ในพื้นที่จำกัด ส่งผลให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ เพราะมีความร้อนและก๊าซในกระบอกเพิ่มสูงมาก การระเบิดนี้สามารถทำให้ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นไปในอากาศได้สูงถึง 1,000 ฟุต
- Fuse ตัวจุดชนวน ให้ Lift Charge ทำงาน
- Launch Tube เป็นส่วนสำคัญของดอกไม้ไฟ ต้องทำให้ปิดสนิท ไม่ให้ก๊าซที่เกิดจากการเผาไหม้เล็ดลอดออกมาจากกระบอกได้ ซึ่งจะทำให้ความดันในกระบอกลดต่ำลง ดอกไม้ไฟจะไม่พุ่งขึ้น
- ดินปืน มีส่วนผสมดังนี้ โปแตสเซียมไนเตรท 75 % คาร์บอน 15% ซัลเฟอร์ 10%
-
Stars คือส่วนที่จะให้สี จะเป็นเม็ดสารผสมของสารให้สีกับดินปืน การจัดเรียงเม็ดสีมีผลต้อรูปร่างของดอกไม้ไฟตอนระเบิดในอากาศด้วย และสามารถทำให้ระเบิดในเวลาต่างกันได้
- Time Delay Fuse ระหว่างที่ดอกไม้ไฟพุ่งขึ้นไปในอากาศ การลุกไหม้จะต่อเนื่องไปยังตัวจุดระเบิดอีกตัวหนึ่งซึ่งจะทำให้เม็ดสีที่บรรจุในกระบอกระเบิดขึ้นเป็นส่วน ๆ ไป
- Break เป็นส่วนสุดท้ายที่ระเบิด จะเป็นส่วนที่ระเบิดแรงที่สุด ความแรงจะขึ้นกับความแข็งแรงของวัสดุที่ใช้ทำ
ความเสี่ยงภัยและอันตรายต่อสุขภาพจากดอกไม้ไฟ
ผลกระทบที่อาจเกิดจากดอกไม้ไฟต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมีดังนี้คือ
- อุบัติเหตุ อาจเกิดขึ้นได้ถ้ามีการเก็บรักษาไม่เหมาะสมระหว่างจำหน่ายหรือใช้งาน ในปี พ.ศ. 2549 ตั้งแต่ต้นปีมาจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม พบว่ามีเหตุระเบิดจากการผลิต เก็บและขนย้าย ดอกไม้ไฟที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ 7 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตรวม 10 คน
- เสียงดังรบกวนผู้อยู่ใกล้เคียง
- มลพิษทางอากาศ จากการเผาไหม้สารเคมีส่วนผสม ซึ่งจะให้ของแข็งออกมา เช่นการเผาไหม้ดินปืนจะให้โปแตสเซียม คาร์บอเนต โปแตสเซียม ซัลเฟต และโปแตสเซียม ซัลไฟด์ และซัลเฟอร์ที่ไม่ได้ทำปฏิกิริยา ของแข็งที่ได้นี้จะมีสารพวกออกไซด์ของโลหะผสมอยู่ และอาจมีคลอไรด์ ผสมอยู่บ้างด้วย ของแข็งที่ได้เหล่านี้จะกลายเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ การแสดงดอกไม้ไฟขนาดยิ่งใหญ่ยิ่งก่อให้เกิดฝุ่นละอองปริมาณมาก
- ปัญหาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเกิดต่อเนื่องจากการปลดปล่อยสารที่ได้จากการเผาไหม้ดอกไม้ไฟ เมื่อสารเหล่านี้ตกสะสมในดิน พืชผลต่าง ๆ หรือแหล่งน้ำ
- กากของเสีย
ข้อบังคับในการผลิตดอกไม้ไฟ
การผลิต การค้า การครอบครองและการขนส่งดอกไม้ไฟและวัตถุดิบในการผลิตอยู่ภายใต้ข้อบังคับตามประกาศกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงแรงงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง หลักเกณฑ์การควบคุมและการกำกับ ดูแลการผลิต การค้า การครอบครอง การขนส่งดอกไม้เพลิงและวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตดอกไม้เพลิงพ.ศ. 2547 ซึ่งในส่วนของการผลิตมีข้อบังคับโดยสรุปดังนี้
- ลักษณะของอาคาร สถานที่หรือบริเวณที่ผลิตดอกไม้ไฟ ได้แก่ ต้องไม่ตั้งอยู่ในชุมชน กำหนดระยะห่างจากอาคารอื่น ๆ (ตารางที่ 1) และห่างจากแนวรั้วอย่างน้อย 20 เมตรโดยรอบ ต้องเป็นอาคารเอกเทศชั้นเดียว ต้องติดสายล่อฟ้าที่มีประสิทธิภาพ อาคารต้องสร้างด้วยวัสดุไม่ติดไฟ มั่นคง แข็งแรง ป้องกันไฟจากภายนอกลุกลามเข้าภายในได้ พื้นต้องเป็นวัสดุที่ไม่ก่อประกายไฟ ราบเรียบ ไม่ลื่น ไม่แตก ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดซับของเหลวหรือสารเคมี ต้องถ่ายเทอากาศได้ดี
ตารางที่ 1 ระยะห่างระหว่างอาคารผลิตดอกไม้ไฟกับอาคารอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับดอกไม้ไฟ
น้ำหนักดอกไม้ไฟ
(กิโลกรัม)
|
ระยะห่างระหว่างอาคารผลิตดอกไม้ไฟชนิดพิเศษ* กับอาคารอื่น ๆ โดยไม่มีสิ่งขวางกั้น (เมตร)
|
ระยะห่างระหว่างอาคารผลิตดอกไม้ไฟชนิดพิเศษ* กับอาคารอื่น ๆ โดยมีสิ่งขวางกั้น (เมตร)
|
ระยะห่างระหว่างอาคารผลิตดอกไม้ไฟชนิดทั่วไป** กับอาคารอื่น ๆ (เมตร)
|
0-45
|
35
|
17
|
11
|
45-91
|
42
|
21
|
11
|
91-136
|
47
|
23
|
11
|
136-181
|
52
|
26
|
11
|
181-227
|
55
|
28
|
11
|
227-454
|
ไม่อนุญาต
|
ไม่อนุญาต
|
11
|
454-907
|
ไม่อนุญาต
|
ไม่อนุญาต
|
11
|
907-1361
|
ไม่อนุญาต
|
ไม่อนุญาต
|
15
|
1361-1814
|
ไม่อนุญาต
|
ไม่อนุญาต
|
18
|
มากกว่า 1814
|
ไม่อนุญาต
|
ไม่อนุญาต
|
20
|
* ดอกไม้ไฟชนิดพิเศษ หมายถึง ดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ ออกแบบให้เกิดแสงหรือเสียงโดยการเผาไหม้อย่างรุนแรงหรือการระเบิด รวมทั้งประทัดที่มีส่วนผสมเป็นวัตถุระเบิดมากกว่า 130 มิลลิกรัมหรือพลุแตกอากาศที่มีส่วนผสมสารเคมีที่เผาไหม้แล้วทำให้เกิดแสงหรือเสียงเกินกว่า 40 กรัมหรือดอกไม้ไฟอื่นที่มีวัตถุระเบิดมากกว่าดอกไม้ไฟชนิดทั่วไป
** ดอกไม้ไฟชนิดทั่วไป หมายถึง ดอกไม้ไฟขนาดเล็กซึ่งจะให้แสงเมื่อเกิดการเผาไหม้หรือดอกไม้ไฟขนาดเล็กที่ก่อให้เกิดเสียง เช่น เกิดเสียงหวีด ถ้าเป็นดอกไม้ไฟที่เล่นบนพื้นดินมีส่วนผสมที่เป็นวัตถุระเบิดไม่เกิน 50 มิลลิกรัม ดอกไม้ไฟที่เล่นในอากาศมีส่วนผสมที่เป็นวัตถุระเบิดไม่เกิน 130 มิลลิกรัม
- ข้อกำหนดเกี่ยวกับเครื่องจักรอุปกรณ์และระบบไฟฟ้าที่สำคัญได้แก่ เครื่องมือต้องทนแรงระเบิด และต้องต่อสายดิน
- ในส่วนกระบวนการผลิต กำหนดวิธีการทำงานหลัก ๆ ดังนี้ คือ ขั้นตอนหรือกรรมวิธีการผลิตต้องไม่ก่อให้เกิดประกายไฟ เปลวไฟ ความร้อน การชั่งวัตถุดิบต้องใช้แผ่นกระดาษที่สะอาดรองก่อน เมื่อชั่งและเทวัตถุดิบออกแล้วให้ทิ้งกระดาษที่ใช้แล้วลงในถังน้ำ ห้ามเปิดฝาภาชนะบรรจุวัตถุดิบทิ้งไว้ การผสมวัตถุดิบต้องผสมทีละครั้ง ครั้งละปริมาณน้อย ๆ การผสมต้องทำในที่อากาศระบายได้ดี ภาชนะที่ใช้ผสมต้องไม่ทำจากโลหะ ห้ามบด โม่ หรือป่นวัตถุดิบพร้อมกันในภาชนะเดียวกัน ห้ามอัด ตอก หรือกระทุ้งส่วนผสมวัตถุดิบในการผลิตดอกไม้ไฟในภาชนะรูปทรงกระบอก ห้ามเก็บวัตถุดิบไว้ในสถานที่ผลิตเด็ดขาด ต้องเก็บวัตถุดิบที่ผสมแล้วในภาชนะปิดสนิท และนำมาใช้ผลิตได้ไม่เกิน 200 กิโลกรัม ให้เก็บดอกไม้ไฟไว้ในอาคารผลิตได้ไม่เกิน 100 กิโลกรัม ต้องมีระบบกำจัดฝุ่นละอองในอาคาร ต้องจัดให้มีอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล ต้องจัดให้มีการอบรมผู้ปฏิบัติงาน ชุดปฐมพยาบาล
- การป้องกันการระเบิดและเกิดเพลิงไหม้ กำหนดว่าผู้ผลิตต้องไม่สูบบุหรี่ในอาคารผลิต ไม่มึนเมาจากแอลกอฮอล์หรือยาที่ทำให้ง่วงนอน มีชุดปฏิบัติงานให้เปลี่ยนก่อนเข้าทำงาน และห้ามสวมชุดปฏิบัติงานออกนอกอาคารผลิต จัดสถานที่เปลี่ยนเสื้อผ้า ล้างทำความสะอาดไว้เฉพาะ ทำความสะอาดอาคารสถานที่ให้ปราศจากฝุ่นและขยะ หากมีวัตถุดิบรั่วไหลต้องทำความสะอาดและเคลื่อนย้ายจากบริเวณที่หกทันที ใช้ทรายดูดซับวัตถุดิบที่หกแล้วนำไปฝังกลบ ต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับวิชาชีพหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับพื้นฐานจัดทำเอกสารความปลอดภัยในการทำงาน ต้องจัดหาเครื่องดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง ต้องจัดทำแผนฉุกเฉินกรณีเกิดเพลิงไหม้ และซ้อมแผนทุกปี
คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานดอกไม้ไฟ
o อ่านวิธีการใช้อย่างระมัดระวังก่อนจุดชนวน
o สวมเสื้อผ้าที่เหมาะสม โดยควรใส่กางเกงขายาว เสื้อผ้าฝ้าย แว่นป้องกันตา รองเท้าที่ปิดเท้าทั้งหมด
o ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขณะเล่นดอกไม้ไฟ
o เก็บดอกไม้ไฟให้ห่างจากเปลวไฟ ไม่สูบบุหรี่ใกล้ ๆ
o อย่าให้ดอกไม้ไฟเปียกน้ำ และ อย่าจุดดอกไม้ไฟที่เปียกน้ำ
o เก็บดอกไม้ไฟในที่แห้งและเย็น ห่างจากเด็ก และระวังอย่าให้เด็กเล็กกินดอกไม้ไฟหรือเอาเข้าปาก
o อย่าให้เด็กเล่นดอกไม้ไฟโดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล และต้องสอนให้เด็กเข้าใจวิธีการใช้ดอกไม้ไฟอย่างดีก่อนอนุญาตให้เล่น
o อย่าโยนดอกไม้ไฟใส่คนอื่นหรือสัตว์
o อย่าจุดดอกไม้ไฟในที่ที่มีคนหนาแน่น
o ใช้ที่จุดชนวนที่เหมาะสม ให้มีระยะห่างระหว่างคนจุดกับดอกไม้ไฟพอสมควร
o ไม่นำดอกไม้ไฟที่ด้านหรือไม่ระเบิดมาเล่นอีก ดอกไม้ไฟที่ไม่ทำงานพวกนี้ต้องแช่ไว้ในถังน้ำประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนทิ้ง
o อย่าจุดดอกไม้ไฟเมื่อมีลมพัดแรง ๆ
o ไม่จุดดอกไม้ไฟใกล้วัตถุไวไฟ
o เก็บดอกไม้ไฟที่ยังไม่ได้จุดในภาชนะปิดสนิทและวางไว้เหนือลมในขณะที่กำลังจุดดอกไม้ไฟ
o ไม่แกะดอกไม้ไฟ
o เตรียมถังน้ำไว้ใกล้ ๆ
o เตรียมชุดปฐมพยาบาลสำหรับแผลไหม้ไฟ ถ้าเกิดเหตุเป็นแผลไหม้ไฟเหนือไหล่ขึ้นไปต้องรีบรักษาทันที
o หลังจุดดอกไม้ไฟหมดแล้ว ต้องเก็บเศษซากดอกไม้ไฟตามพื้นให้หมด และทิ้งอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันเด็กเก็บดอกไม้ไฟที่ด้านมาเล่น
o ไม่จุดดอกไม้ไฟที่ถืออยู่ในมือหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย หรือถือดอกไม้ไฟที่จุดแล้ว
o จุดดอกไม้ไฟทีละอัน อย่าจุดหลาย ๆ อันในเวลาเดียวกัน
o อย่าจุดดอกไม้ไฟโดยวางไว้ในภาชนะที่เป็นโลหะหรือแก้ว
o ไม่ใส่หรือพกพาดอกไม้ไฟไว้ในกระเป๋าเสื้อหรือกางเกง
ที่มาของข้อมูล :
http://www.usfireworks.biz/safety.htm
http://www.chemsoc.org/ExemplarChem/entries/2004/icl_Gondhia/composition.html
http://www.chemsoc.org/ExemplarChem/entries/2004/icl_Gondhia/construction.html
|