สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

เจ้าหน้าที่พยาบาลประมาทหยอดน้ำกรดใส่ปากเด็ก 2 ขวบ

ผู้เขียน: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
วันที่: 25 มิ.ย. 2551

            เมื่อเวลา 17:00 น. วันที่ 24 มิถุนายน นายเดชา เครือโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.คลองควาย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากนางบุญชู ปั้นสิน อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/3 หมู่ 8 ต.คลองควาย ว่า ด.ช.ธนกร ปั้นสิน หรือน้องเฟรม หลานชายวัย 2 ขวบ ถูกพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.เมือง หยอดน้ำกรดใส่ปากแทนยาสลบ จนหลานชายได้รับบาดเจ็บภายในลำคอ ขณะนี้นอนรักษาอยู่ที่ห้องพิเศษเลขที่ 405 ของโรงพยาบาลดังกล่าว ทั้งนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน ที่ผ่านมา

            หลังจากรับแจ้ง นายเดชาจึงไปตรวจสอบ พบ น.ส.จันทรา ปั้นสิน อายุ 22 ปี แม่ของ ด.ช.ธนกร นั่งปลอบลูกชายที่นอนอยู่บนเตียง เนื่องจากเจ็บบาดแผลซึ่งถูกพยาบาลหยอดน้ำกรดใส่ปากให้แทนยาสลบ โดยมีนางบุญชูซึ่งเป็นยาย ยืนน้ำตาคลอเบ้าอยู่ด้านข้าง เพราะสงสารหลานที่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดจากพิษบาดแผล นอกจากนี้ยังต้องคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ด้วย และจากการสังเกตบาดแผลของน้องเฟรม พบว่ามีรอยไหม้ทั่วปาก ลิ้นและลำคอบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด

            น.ส.จันทรา กล่าวว่า น้องเฟรมมีฝีที่ใต้ตา 1 จุด นับวันฝีดังกล่าวโตขึ้นเรื่อยๆ ตนและมารดาจึงพาน้องเฟรมไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อรักษาฝี แพทย์เจ้าของไข้บอกว่า ฝีดังกล่าวจะต้องผ่าตัดจึงจะหายดี ตนและมารดาปรึกษากันและตกลงใจให้โรงพยาบาลดังกล่าวผ่าตัดฝีของน้องเฟรม

            จากนั้นแพทย์และพยาบาลนำน้องเฟรมเข้ารับการผ่าตัดที่ห้องไอซียู ตนและนางบุญชูยืนคอยให้กำลังใจอยู่นอกห้อง ยังไม่ทันถึง 5 นาที ก็ได้ยินเสียงน้องเฟรมร้องไห้เสียงดัง ตะโกนเรียกชื่อตนและนางบุญชู ด้วยความเป็นห่วงลูก ตนจึงรีบเปิดประตูเข้าไป พบพยาบาลและแพทย์กำลังช่วยกันจับน้องเฟรม ที่กำลังดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลซึ่งเป็นรอยไหม้แดงเถือกรอบๆ ปาก ที่ลิ้นและคอ ตนเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าไปกอดและปลอบลูก

            น.ส.จันทรา กล่าวอีกว่า ตนได้สอบถามอาการของบุตรชายจากแพทย์และพยาบาลที่อยู่ภายในห้อง โดยแพทย์กล่าวว่า เกิดจากความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ไปหยิบยาที่เป็นสารเคมีลักษณะคล้ายน้ำกรดมาหยอดใส่ปากแทนยาสลบสำหรับเด็ก จึงทำให้น้ำกรดกัดกินผิวหนังที่บริเวณปาก ลิ้น และลำคอ จนน้องเฟรมร้องไห้เพราะความเจ็บปวด

            ในเบื้องต้นแพทย์รีบล้างสารเคมีดังกล่าวแล้ว โชคดีที่น้ำกรดยังไม่ไหลเข้าไปในท้อง ไม่เช่นนั้นอาการอาจจะหนักกว่านี้ แพทย์และพยาบาลก็ได้ขอโทษตน และพร้อมที่จะรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด จนกว่าน้องเฟรมจะหายดี

            น.ส.จันทรา แม่ของน้องเฟรม กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าแพทย์เจ้าของไข้จะบอกว่าอาการของลูกชายปลอดภัยแล้ว แต่ตนกลัวว่าอนาคต หากลูกชายเกิดเป็นอะไรขึ้นมาเนื่องจากบาดแผลของพิษสารเคมีดังกล่าว แล้วใครจะมารับผิดชอบ ในเบื้องต้นตนจะให้นายวีระ ปั้นสิง อายุ 24 ปี พ่อของน้องเฟรมไปแจ้งความที่โรงพัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีทางกฎหมายกับพยาบาลคนดังกล่าวที่สะเพร่าและประมาท เป็นเหตุให้บุตรชายของตนได้รับบาดเจ็บสาหัส

            น.ส.สตรีรัตน์ แจ้งประจักษ์ ผช.ผอ.ฝ่ายบริการโรงพยาบาลดังกล่าวกล่าวว่า จากการสอบสวนแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลที่รักษาน้องเฟรม ในเบื้องต้นพบว่าเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่เบิกยามาผิด และกำลังตรวจสอบว่าเกิดเพราะสาเหตุอะไรกันแน่ และเป็นตัวยาชนิดไหน ที่โรงพยาบาลก็ไม่เคยเกิดเหตุอย่างนี้มาก่อน

            หลังจากเกิดปัญหา ทางโรงพยาบาลรู้สึกเสียใจ และจะช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างเต็มที่ โดยการส่งตัวเด็กไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เพื่อส่องกล้องตรวจสอบอวัยวะภายใน ว่าบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน และพยาบาลจะประชุมผู้บริหารว่าจะช่วยเหลือต่อไปอย่างไร


ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ประจำวันที่ 25 มิถุนายน 2551

  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - สุดสลดหนูน้อยวัย 3 ขวบ ดื่มน้ำมันเบนซินดับ
เรียนรู้จากข่าว - ปล่อย 3 ขวบอยู่บ้านคว้าน้ำกรดดื่มดับอนาถ
 
  ข้อคิดเห็น
   
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

เป็นพยาบาลภาษาอะไรทำอะไรไม่รู้จักคิดสงสารเด็ก เวลาเบิกยามาทำไมไม่ตรวจสอบยาก่อนวางบนโต๊ะใช้งานถ้าเป็นลูกตัวเองจะคิดอย่างไรรู้สึกอย่างไรถามหน่อยเถอะ

โดย:  auy  [25 มิ.ย. 2551 20:45]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 2:2

คงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเสียใจและไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย

โดย:  now  [25 มิ.ย. 2551 22:17]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 3:3

ทำไมต้องว่าพยาบาลคนเดียวอ่ะ ทุกคนก็มีส่วนผิดนะ
ทั้งโรงพยาบาลแล้วก็หมอด้วย
ไม่รู้จักระวังเรียนมาเยอะกว่าพยาบาลไม่ใช่หรอ
ความรู้เยอะนิ

โดย:  ..............  [13 ธ.ค. 2551 11:42]
 
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น