กระทรวงสาธารณสุขจีนได้ยื่นข้อมูลเหตุการณ์นมผงเจือปนสารเมลามีนที่ทำให้เด็กจำนวนมากป่วยด้วยโรคนิ่วในไต ต่อองค์การอนามัยโลกพร้อมร้องขอความช่วยเหลือในด้านประสบการณ์และเทคนิคในการรับมือ
สำนักข่าวซินหัวได้รายงานว่า นายเริ่น หมิงฮุย ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือระหว่างประเทศของกระทรวงสาธารณสุขจีนได้ติดต่อนายหาน จั๋วเซิง ตัวแทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศจีน เพื่อรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับกรณีนมผงซานลู่ และนมผงชื่อดังของจีนหลายยี่ห้อที่มีการเจือปนสารเมลามีน พร้อมขอความช่วยเหลือด้านประสบการณ์และวิธีในการตรวจสอบและวิจัยเกี่ยวกับเมลามีน
"ทางองค์การอนามัยโลกยินดีให้ความช่วยเหลือในด้านเทคนิคและประสบการณ์อย่างเต็มที่" หาน จั๋วเซิง ระบุ
นอกจากนั้นในขณะนี้ ทางสำนักงานวิจัยความปลอดภัยและคุณค่าทางอาหารของศูนย์ควบคุมและกักกันโรคของจีน ได้เริ่มต้นในการออกสำรวจผู้ป่วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้ระบุว่าจะต้องทำการตรวจสอบวิจัยถึงปริมาณการบริโภคนมผงของเด็กที่มีอาการป่วย และวิธีการรักษาที่แพทย์แต่ละแห่งได้ใช้ในการรักษา เพื่อสรุปรายงานส่งต่อองค์การอนามัยโลก
ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสารพิษระบุว่า การที่มีการบริโภคสารเมลามีนเข้าไปแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ทำให้ในขณะนี้ยังไม่มีผลการวิจัยถึงผลกระทบของสารเคมีดังกล่าวต่อร่างกายมนุษย์
อย่างไรก็ตามผู้ปกครองของเด็กที่ป่วยจำนวนมากต่างเชื่อว่า การที่เด็กเป็นนิ่วในไตนั้นเกิดจากการที่เด็กได้บริโภคนมผงที่เจือปนสารเมลามีนมาเป็นเวลานาน และมีผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยที่เรียกร้องให้ภาคประชาสังคมเข้ามาช่วยเหลือ ในการจัดสถานที่รักษาเด็กที่ป่วยในกรณีนี้โดยเฉพาะ และจัดตั้งหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบคุณภาพอาหารของจีนขึ้น
ในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขจีนได้เปิดเผยว่า จะให้ทุกมณฑลเร่งรีบเปิดฮอตไลน์สายด่วน เพื่อรับแจ้งปัญหา ช่วยเหลือแก้ไขและตอบปัญหาเกี่ยวกับนมผงที่ใช้บริโภคของเด็ก
ทั้งนี้ ล่าสุดมีเด็กจำนวน 12,892 ราย ที่ล้มป่วยด้วยโรคนิ่วในไต ในจำนวนนี้เสียชีวิตไป 4 ราย และอีก 158 ราย มีอาการไตวายเฉียบพลัน ในขณะที่ทางมาเก๊ามีเด็กที่รับการตรวจ 48,211 ราย และพบว่ามีเด็กที่ป่วยเป็นนิ่วในไตจำนวน 1,085 คน ด้านฮ่องกง มาเลเซีย อินโดนีเซียได้หยุดการนำเข้านมจากจีน และพม่าก็สั่งให้เรียกเก็บและทำลายนมที่นำเข้าจากจีนแล้ว
ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ประจำวันที่ 22 กันยายน 2551 |