อย. ระบุแร่ใยหินเป็นอันตราย จัดเป็นวัตถุที่ห้ามใช้ในการผลิตเครื่องสำอาง หากสูดดมเข้าสู่ร่างกายต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะสามารถก่อให้เกิดมะเร็งปอดได้ ขณะที่ทาง อย. ได้เฝ้าระวัง และลงพื้นที่เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์ เช่น แป้งเด็กโรยตัว แป้งพัฟ และบลัชออน เพื่อส่งตรวจวิเคราะห์แล้ว แต่ผลปรากฎว่าไม่พบการปนเปื้อนของแร่ใยหินในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแต่อย่างใด

            ภญ. วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้แร่ใยหิน หรือแอสเบสทอส (Asbestos) เป็นสารอันตรายที่สามารถก่อมะเร็งปอดในคนได้ หากหายใจเอาสารนี้เข้าไปมาก ๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน แต่กว่าจะแสดงอาการเจ็บป่วยก็เมื่อเวลาผ่านไปแล้วหลายปี ดังนั้น ในประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป อาเซียน รวมทั้งประเทศไทยได้ห้ามใช้แร่ใยหินเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางแล้ว โดยได้กำหนดในบัญชีท้ายประกาศกระทรวงสาธารณสุข  เรื่อง  กำหนดวัตถุที่ห้ามใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง  ลงวันที่ 26  มีนาคม  พ.ศ. 2551  ลำดับที่ 757 ส่วนที่เคยมีข่าวว่าพบเครื่องสำอางปนเปื้อนของสารดังกล่าวนั้น  อย.ได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จำนวน  36  รายการ  เช่น  แป้งเด็กโรยตัว แป้งพัฟ บลัชออน  เป็นต้น ส่งตรวจวิเคราะห์หาแร่ใยหิน ซึ่งผลการตรวจสอบไม่พบการปนเปื้อนของสารนี้ในทุกตัวอย่างผลิตภัณฑ์

            รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวต่อไปว่า ได้เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่วางจำหน่าย ทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ มีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจสอบหาสารห้ามใช้ที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า อย. ดำเนินการอย่างเข้มงวดและสม่ำเสมอ แต่เพื่อความปลอดภัย ขอให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างระมัดระวัง ต้องมีข้อความตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภทสารที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต ปริมาณสุทธิ และต้องซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีหลักแหล่งแน่นอน รวมทั้งมีหลักฐานการซื้อขายที่ระบุที่ตั้งผู้ขายอย่างชัดเจน

ที่มาของข้อมูล : กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา