ประเทศจีนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติที่เมืองท่าเทียนจิน (เทียนสิน) ในสัปดาห์หน้า โดยหวังแค่ลดข้อแตกต่างระหว่างชาติสมาชิก ก่อนหน้าการประชุมนัดสำคัญที่แดนจังโก้ในสิ้นปีนี้
นายเซี่ย เจิ้นหวา รองประธานคณะกรรมการการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีน แถลงการจัดการประชุมซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 4 - 9 ตุลาคม 2553 ว่า ในการประชุมครั้งนี้จีนจะมุ่งลดจุดยืนที่แตกต่างกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อช่วยให้การประชุมสุดยอดที่เมืองแคนคูน ประเทศเม็กซิโกในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้ประสบความคืบหน้า
อย่างไรก็ตาม นายเซี่ย เจิ้นหวา ยอมรับว่า ซัมมิตที่ประเทศเม็กซิโกคงไม่สามารถบรรลุสนธิสัญญาซึ่งมีผลผูกมัดได้ แต่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการเจรจา จากนั้นชาติสมาชิกจะเดินหน้าผลักดัน เพื่อให้บรรลุสนธิสัญญาร่วมกันให้ได้ในการประชุมสุดยอดที่แอฟริกาใต้ปีหน้า
นายเซี่ย เจิ้นหวา ยังหวังว่า ชาติที่ร่ำรวยจะมีบทบาทมากขึ้นในการลดการใช้พลังงานและมลพิษ ขณะเดียวกันก็ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ชาติกำลังพัฒนา เพื่อการแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดยในส่วนของชาติกำลังพัฒนาเอง ซึ่งรวมทั้งจีน จะพยายามดำเนินมาตรการอย่างโปร่งใส และร่วมมือกับนานาชาติมากขึ้น นอกจากนั้น จีนและสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่างก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนมากถึงร้อยละ 40 ของทั้งหมดในโลก ยังจำเป็นต้องเข้าร่วมกระบวนการเจรจาอย่างเต็มที่ต่อไป
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วจีนให้คำมั่นลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ต่อหน่วยจีดีพีลงร้อยละ 40 - 45 จากระดับเมื่อปี 2548 ภายในปี 2563 นอกจากนั้น ยังพยายามบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้ถึงร้อยละ 20 ตั้งแต่ปี 2548 - 2553 อีกทั้งค่อยๆ ปิดโรงงานที่ก่อมลพิษอย่างหนักหลายร้อยราย ตลอดจนกำลังดำเนินการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ
การประชุมสุดยอดว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กเมื่อปีที่แล้วสร้างความผิดหวังแก่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และผู้นำทางการเมืองมากมาย เนื่องจากไม่สามารถบรรลุสนธิสัญญาในการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีผลผูกมัดทางกฎหมาย และมีความคาดหวังกันน้อยสำหรับการประชุมสุดยอดในปีนี้ เนื่องจากประเทศต่างๆ ยังคงขัดแย้งกันในประเด็นเดิม ทำให้ซัมมิตที่กรุงโคเปนเฮเกนล้มเหลว
ที่มาของข้อมูล : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 4 ตุลาคม 2553 |