เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม… พระปฐมบรมราชโองการของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงเข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ซึ่งจวบจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 60 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์แห่งชาติ และมหาชนชาวสยามอย่างแท้จริง พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกายและพระราชหฤทัยอย่างหนักในการปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทุกหมู่เหล่าในประเทศนี้ โดยทรงพระราชทานแนวทางการพัฒนาต่าง ๆ ผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ รวมทั้งแนวทางการบริหารจัดการ เช่น เกษตรทฤษฎีใหม่ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่พสกนิกรให้พ้นจากสภาพความยากจนฝืดเคืองไปสู่ความพออยู่พอกิน และนำไปสู่การพึ่งพาตนเอง
เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตให้แก่พสกนิกรชาวไทยมาเป็นระยะเวลานาน โดยมีแนวคิดที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท คำนึงถึงความพอประมาณ ซึ่งปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปใช้ได้กับประชาชนในทุกระดับ รวมถึงในทุกอาชีพ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจึงเป็นปรัชญาที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการขจัดความยากจน และลดความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจของคนในชุมชนและการพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเป็นฐานรากของการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่ปวงชนชาวไทยและเพื่อเป็นการเผยแพร่พระเกียรติคุณในโอกาสมหามงคลครบรอบปีที่ 60 แห่งการบรมราชาภิเษก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจัดทำ โครงการหมู่บ้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง โดยการคัดเลือกหมู่บ้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบจังหวัดละ 1 หมู่บ้าน รวม 75 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 75 จังหวัด เพื่อเป็นแบบอย่างของการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพตามวิถีทางเศรษฐกิจพอเพียง จนสามารถทำให้เกษตรกรตลอดจนประชาชนในหมู่บ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับรูปแบบการคัดเลือกหมู่บ้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงนั้น มีการตั้งคณะกรรมการดำเนินงานระดับจังหวัดที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นกรรมการ ซึ่งจะร่วมกันพิจารณา กลั่นกรองและคัดเลือกหมู่บ้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง ที่มีความโดดเด่นในด้านการนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพได้เป็นอย่างดี สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีผู้นำที่ยึดแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และได้รับการยอมรับนับถือจากคนในชุมชน ที่สำคัญประชากรในหมู่บ้านต้องมีความสามัคคี ร่วมแรง ร่วมใจกัน เมื่อคัดเลือกได้ แล้วก็จะมีการจัดทำแผนพัฒนาหมู่บ้านของแต่ละแห่งขึ้นมา โดยให้สอดคล้องกับความต้องการของคนในหมู่บ้าน เพื่อต่อยอดความสำเร็จนั้น ๆ ก่อให้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนมากขึ้น
จากนั้นกระทรวงเกษตรฯ จะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์หมู่บ้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงทั้ง 75 หมู่บ้าน ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สำหรับให้เกษตรกรและผู้สนใจได้เข้าไปศึกษา เรียนรู้แนวทางการดำเนินชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ มีความมุ่งหวังว่าโครงการดังกล่าวจะทำให้ประชาชนสามารถน้อมนำแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันในการพึ่งพาตนเองได้ ทำให้ชุมชน ท้องถิ่นเกิดความเข้มแข็ง เพื่อเป็นฐานรากในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
โครงการหมู่บ้านเกษตรเศรษฐกิจพอเพียงนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยการฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชนท้องถิ่น ตั้งแต่ขั้นตอนการฟื้นฟูและขยายเครือข่ายเกษตรกรรม เป็นการพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตและบริโภคอย่างพอ อยู่พอกิน จนถึงขั้นตอนการแปรรูปอุตสาหกรรมครัวเรือน สร้างอาชีพและทักษะวิชาการที่หลากหลาย เกิดตลาดซื้อขาย และการสะสมทุน ซึ่งจะทำให้แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงขยายผลได้อย่างกว้างขวาง อันจะนำไปสู่ความผาสุกของปวงชน ชาวไทยทั้งชาติ
ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2553 |