สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

กรมอุทยานฯ กร้าวไม่ปิดอันดามัน

ผู้เขียน: หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์
วันที่: 19 ม.ค. 2554

            กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชยืนยันไม่ปิดอันดามัน ระบุ ถึงปิดก็ไม่ทำให้ปะการังฟื้นขึ้นมาได้ ขณะที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำสื่อลงพื้นที่อันดามัน พบปะการังตายเรียบ เห็นคาตาทัวร์นอกย่ำยีหักปะการังขึ้นมาอวดกันเล่นครื้นเครง ชี้บริษัททัวร์ไม่ชี้แจงนักท่องเที่ยว เร่งประสานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทำความเข้าใจ

            นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้ส่งข้อมูลเรื่องปะการังฟอกขาวในบริเวณทะเลอันดามันมาให้ รวมทั้งเสนอให้ปิดอุทยานแห่งชาติทางทะเลเกือบทั้งหมด เพื่อให้ปะการังที่ฟอกขาวได้ฟื้นตัวนั้น ตนได้สั่งให้เจ้าหน้าของกรมอุทยานเข้าไปสำรวจเพิ่มเติมในส่วนของพื้นที่ที่ทางกรมทรัพยากรทางทะเลฯ แจ้งมา และในวันที่ 20 มกราคม นี้ เจ้าหน้าที่จะมารายงานผลการไปสำรวจในที่ประชุมของกรมอุทยานฯ ซึ่งตนได้เรียกหัวหน้าอุทยานทางทะเลทั้งหมดมาประชุมร่วมกับนักวิชาการมหาวิทยาลัย เพื่อร่วมหารือในเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไรดี

            เบื้องต้นแล้วผมเห็นว่า เรายังไม่จำเป็นถึงขั้นต้องปิดอุทยานทางทะเล เพราะถึงปิดก็ไม่ได้ทำให้ปะการังฟอกขาวฟื้นขึ้นมาได้ในเวลานี้ แต่ควรจะหามาตรการที่จะลดผลกระทบ ไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนมากกว่า การปิดอุทยานทางทะเลจะทำให้เกิดผลกระทบหลายอย่าง นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ กล่าวเพิ่มเติม

            เมื่อถามว่า แสดงว่ากรมอุทยานฯ จะไม่ทำตามที่ทางกรมทรัพยากรทางทะเลฯ เสนอให้ปิดอุทยานใช่หรือไม่ นายสุนันต์ อรุณนพรัตน์ กล่าวว่า ต้องรอฟังจากที่ประชุมในวันที่ 20 มกราคมนี้ก่อน ว่าทั้งเจ้าหน้าที่และนักวิชาการจะว่าอย่างไร แต่ตนเห็นว่า การหามาตรการที่เข้มงวดและเหมาะสมในการป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปรบกวน พื้นที่ที่มีความวิกฤตเรื่องปารังฟอกขาวน่าจะเป็นเรื่องที่ควรทำมากกว่าปิดอุทยานทั้งหมด อย่างไรก็ตามพื้นที่ที่วิกฤตมากๆ อาจต้องปิดบางส่วนก็ได้

            ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ เกาะเฮ และเกาะแอล จังหวัดภูเก็ต โดยสื่อมวลชนประจำกระทรวงทรัพยากรฯ ได้ดำน้ำลงไปสำรวจปาการังรอบเกาะดังกล่าว พบว่า มีปะการังกิ่ง ปะการังก้อน ปะการังเขากวาง ปะการังโขด ฟอกขาวทั้งหมดมากกว่า 90% โดยบริเวณเกาะแอลนั้น ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปดูปะการังเลย เพราะไม่มีปะการังสวยงามให้ดูอีกต่อไป ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

            ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า สำหรับบริเวณเกาะเฮ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนักนั้น เกาะดังกล่าวมีรีสอร์ทของเอกชนตั้งอยู่ มีบริษัททัวร์แห่งหนึ่งได้นำนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ประมาณ 500 คน มาดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น ปรากฏว่านักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งดำน้ำและเดินดูปะการัง โดยมีการเหยียบย่ำบนปะการังอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้มีนักท่องเที่ยวหลายคนได้หยิบก้อนปะการังดอกเห็ดที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งเหลือเป็นส่วนน้อยขึ้นมาอวดกันและถ่ายรูปด้วยความสนุกสนาน ต่อหน้าต่อตาสื่อมวลชนและทีมงานของกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ทั้งนี้ทางกลุ่มสื่อมวลชนพยายามห้ามปราม ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง

            ทางด้าน นายนิพนธ์ พงศ์สุวรรณ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากบริษัททัวร์ไม่ได้อธิบายให้ลูกทัวร์ รู้ว่าข้อควรปฏิบัติในการดำน้ำดูปะการังควรทำอย่างไร ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน คือ จัดอบรมสร้างความเข้าใจให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และผู้ประกอบการบริษัทดำน้ำ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมนี้ โดยเน้นใน4 จุด คือจังหวัดภูเก็ต ทับละมุ จังหวัดพังงา เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ และเกาะไข่นอก เพราะเป็นพื้นที่ที่มีทัวร์จำนวนมาก ทั้งนี้นั้น ตนเองยอมรับว่าตกใจที่เห็นนักท่องเที่ยวจำนวนมากเกินไปที่ดำน้ำไปดูปะการังในช่วงน้ำทะเลกำลังลด โดยหลายรายขึ้นไปยืนบนปะการัง บางรายหยิบมาถ่ายรูปเล่น เราได้แต่ยืนมอง เพราะไม่มีอำนาจตามกฏหมาย เพราะกฎหมายของกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ยังไม่แล้วเสร็จ  ทั้งนี้พื้นที่ดังกล่าวเป็นของเอกชน แต่โดยหลักการทรัพยากรทางทะเลนั้นอยู่ในความดูแลของกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ก็จริง แต่เมื่อเห็นจะจะแบบนี้เราทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากได้แต่อึ้ง

ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ประจำวันที่ 19 มกราคม 2554

  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - เสนอปิดเกาะฝั่งอันดามันด่วน วิกฤตหนักปะการังฟอกขาว
 
  ข้อคิดเห็น
   
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

http://en.wikipedia.org/wiki/Coral_bleaching        

โดย:  ANS  [13 มี.ค. 2554 20:11]
 
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น