วันนี้ 15 มีนาคม 2554 บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ ของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า เกิดไฟไหม้ที่บริเวณชั้น 4 ของอาคาร ปฏิกรณ์ที่ตั้งเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ หมายเลข 4 ที่โรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ หมายเลข 1 ในจังหวัดฟุกุชิมะเมื่อเวลา 9.38 น.เช้านี้ตามเวลาท้องถิ่น และหลังคาชั้น 5 ได้รับความเสียหายด้วย นอกจากนี้โฆษกรัฐบาลแถลงว่า ระดับการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีใกล้อาคารปฏิกรณ์หมายเลข 4 ดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่สถานีโทรทัศน์NHK รายงานว่า เตาปฏิกรณ์หมายเลข 4 นี้ กำลังเข้าสู่ภาวะที่มีเกิดการหลอมละลาย และมีกัมมันตภาพรังสีรั่วไหลออกมา
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นและศูนย์เตือนภัยคลื่นสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้กว่า 70% ที่จะเกิดแรงสั่นสะเทือนครั้งรุนแรงถึง 7.0 ริกเตอร์ และเกิดคลื่นสึนามิตามมาภายใน 1-2 วันนี้ หลังพบว่ามีการเคลื่อนไหวของโครงสร้างเปลือกโลกเพิ่มขึ้นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหว 9.0 ริกเตอร์นอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งหลังจากนั้นเป็นต้นมาได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกกว่า 150 ครั้ง โดยวานนี้ที่กรุงโตเกียวก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในกรุงโตเกียวยังต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก รถไฟโดยสารกว่า 100 เส้นทางปิดให้บริการบางส่วน บางพื้นที่ปิดให้บริการทุกเส้นทาง รัฐบาลต้องประกาศให้ประชาชนหยุดอยู่กับบ้านวานนี้และในวันนี้ เนื่องจากเกรงว่าระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่พร้อมเนื่องจากขาดแคลนไฟฟ้า อาจไม่สามารถรองรับผู้ใช้บริการจำนวนมากได้
ทางด้านนายนาโอโตะ คัน นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงผ่านทีวี ว่า ให้ประชาชนอยู่ห่างจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟุกุชิมะ ไดอิจิ ระยะรัศมี 30 กิโลเมตร และให้อยู่แต่ภายในบ้าน ในอาคาร ห้ามออกภายนอก หลังเหตุระเบิดใกล้เตาปฏิกรณ์ครั้งล่าสุด ค่ากัมมันตรังสีรอบโรงไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นสูง
ตำรวจญี่ปุ่น เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ หลังเกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 9.0 ริคเตอร์ ตามด้วยสึนามิ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เพิ่มเป็น 2,414 คน โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงสุดอยู่ที่จังหวัดมิยางิ ที่มีการยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 1,254 คน ส่วนตัวเลขผู้สูญหายอย่างเป็นทางการ อยู่ที่ 3,118 คน แต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เชื่อว่า อาจจะผู้เคราะห์ร้ายหลายหมื่นคนที่ถูกคลื่นยักษ์กวาดลงทะเลในบริเวณชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ตัวเลขผู้บาดเจ็บในขณะนี้ อยู่ที่ 1,647 คน ซึ่งเมื่อวันอาทิตย์ ตำรวจที่จังหวัดมิยางิ ระบุว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเฉพาะที่จังหวัดมิยางิเพียงแห่งเดียว อาจสูงถึง 1 หมื่นคน ซึ่งหลังจากใช้ปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ ได้มีสิ่งบ่งชี้ถึงการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาะฮอนชู ที่คลื่นยักษ์ซัดเข้าสร้างความเสียหายให้อาคารบ้านเรือนกว่า 55,380 หลังคาเรือน นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนกว่า 3 พันหลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมหลังสึนามิ และอีก 130 หลังถูกไฟไหม้ กับถูกดินถล่มทับอีก 68 หลังคาเรือน
ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2554 |
