สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

บึ้มโกดังเป็นระเบิดยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ตายเพิ่มรวม 8 ศพ

ผู้เขียน: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่: 3 เม.ย. 2557

           วันนี้ (3 เมษายน 2557) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อม ด้วย พล.ต.ต.สุรนิตย์ พรหมบุตร ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิระศักดิ์ ฝอยทอง ผกก.สน.บางเขน พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้เเละตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านรับซื้อของเก่าภายในซอยลาดปลาเค้า 72 แยก 14 หลังจากเกิดเหตุระเบิดจนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา
      
           พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากเหตุระเบิดร้านขายของเก่าอีกครั้ง พบว่าจากที่รายงานเบื้องต้นวานนี้ว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 7 รายนั้น ล่าสุดพบเศษชิ้นส่วนอวัยวะเพิ่มเติม เมื่อนำมาประกอบร่างพบว่าเป็นศพเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3 ขวบ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตขณะนี้มีทั้งหมด 8 ราย บาดเจ็บ 16 ราย โดยรัศมีการทำลายล้างของระเบิดดังกล่าวมีรัศมีอยู่ที่ 500 เมตร เป็นผลให้มีอาคารบ้านเรือนเสียหายกว่า 10 หลัง
      
           ในส่วนของคดีนั้นได้มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า ร้านขายของเก่าดังกล่าวเปิดทำการมาเเล้ว 3 ปี ได้มีการขอทำใบอนุญาตไปแล้วเบื้องต้น แต่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตดังกล่าว จึงจะมีการเเจ้งข้อหาต่อเจ้าของร้านขายของเก่ากรณีเปิดประกอบการโดยไม่มีใบอนุญาต สำหรับข้อหาอื่นๆ นั้นต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าเข้าข่ายการกระทำความผิดใดๆ อีกบ้าง ซึ่งถือว่าน่าเห็นใจมากเนื่องจากเจ้าของร้านขายของเก่าเองก็เสียชีวิตลงจากเหตุดังกล่าวด้วย
      
           พล.ต.อ.เอกกล่าวอีกว่า จากการสอบถามจากหน่วยอีโอดีทราบว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดอากาศที่มีอายุกว่า 70 ปีมาเเล้ว เเละใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นไปได้ว่าน่าจะมีการตกหล่นอยู่อีกมาก ทั้งนี้ยอมรับว่าเราไม่ได้มีวิธีในการค้นหาระเบิดตกค้างอย่างจริงจัง ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุน่าสลดนี้เคยเจอระเบิดลักษณะคล้ายกับลูกที่เกิดเหตุมาถึง 3 ครั้งแล้ว ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนว่าหากเจอวัตถุต้องสงสัยอย่าพยายามที่จะงัดแงะด้วยตัวเอง ให้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจะได้ไม่เกิดเหตุสลดเช่นนี้อีก
      
           เบื้องต้นคาดว่ายังคงมีระเบิดดังกล่าวหลงเหลือฝังอยู่ในดินอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นบริเวณของราชการ จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณซอยลาดปลาเค้า 72 นี้ไม่น่าจะใช่ยุทธศาสตร์ น่าจะเป็นการขุดดินมาจากที่อื่นแล้วนำมาถมที่ กระทั่งคนงานก่อสร้างขุดเจอ โดยเหตุการณ์นี้ถือให้เป็นกรณีศึกษาครั้งใหญ่สำหรับประเทศไทย
      
           ด้าน พ.ต.อ.วิระศักดิ์กล่าวว่า วันนี้ได้จัดพนักงานสอบสวนจำนวนกว่า 10 นายเข้ามารับแจ้งความลงบันทึกประจำวันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานในการดำเนินคดีต่อไป ซึ่งการดำเนินคดีต่อร้านรับซื้อของเก่าขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดบ้าง แต่เบื้องคาดว่าจะมีการแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอยู่ระหว่างประสานสำนักงานเขตหลักสี่ประธานชุมชน ถึงข้อมูลของบุคคลที่สูญหายว่ามีจำนวนเท่าใดก่อนจะเริ่มค้นหาต่อไป
      
           พ.ต.อ.กำธรกล่าวว่า จากการเข้าไปตรวจสอบบริเวณไซต์งานก่อสร้างไม่พบระเบิดอื่นๆ อีก จากการสอบถามผู้รับเหมาทราบว่าได้ซื้อดินซึ่งขุดเจอระเบิดดังกล่าวมาจากย่านบางซื่อ แต่ไม่สามารถระบุพิกัดได้ ซึ่งระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นมีลักษณะเหมือนกับกรณีเมื่อวันที่ 29 มีนาคม เวลาประมาณ 21.00 น. ได้รับเเจ้งว่ามีการตรวจเจอวัตถุระเบิดบริเวณสถานที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเเดง เขตบางซื่อ 2 จึงทำการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าเป็นระเบิดอากาศขนาด 500 ปอนด์ ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 50 กว่าปีก่อน ต่อมาเวลาประมาณ 12.00 น.วันที่ 30 มีนาคม จึงประสานให้กองทัพอากาศนำระเบิดลูกดังกล่าวไปทำลายเเล้ว
      
           น.ส.มาลิสา อุตส่าห์ อายุ 41 ปี ผู้เช่าบ้านเลขที่72/160 ซอยลาดปลาเค้า 72 แยก 14 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ซึ่งสามีชาวกัมพูชาทำงานอยู่ที่ร้านรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุระเบิด กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเชื่อว่าสามีเสียชีวิตเนื่องจากมีผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่าสามีอยู่ติดกับเหตุระเบิดภายในร้านรับซื้อของเก่า หลังเกิดเหตุพยายามตามหาสามีจนถึงขณะนี้ก็ยังหาไม่พบ แต่ลึกๆ ยังมีความหวังให้สามีรอดชีวิตอยู่ ส่วนตนเองรอดมาได้ถือเป็นปาฏิหาริย์ เพราะถูกสะเก็ดระเบิดทั้งตัวแต่กลับไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นเพราะตัวเองแขวนหลวงปู่แหวน
      
           ด้านนางสมมาตร จำเริญวรทศ อายุ 56 ปี ผู้เสียหายอีกรายหนึ่ง อยู่บ้านเลขที่ 72/215 ซอยลาดปลาเค้า 72 เเยก 14 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กล่าวว่า บ้านตนตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านรับซื้อของเก่าที่เกิดเหตุ ปกติบ้านตนจะอยู่ 4-5 คน แต่ในช่วงที่เกิดระเบิดขึ้นนั้นโชคดีที่ไม่มีใครอาศัยอยู่ในบ้านเพราะออกไปทำงานกันหมด หลังเกิดเหตุดังกล่าวเพื่อนลูกชายที่อาศัยอยู่บ้านใกล้เคียงโทร.มาแจ้งให้ทราบจึงรีบกลับมาดูที่บ้านพบว่าหลังคาบ้านถล่มลงมาพังยับ กระจกหน้าต่างและประตูแตกเสียหายแทบทุกบาน ประเมินเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 300,000 บาท ตอนนี้ต้องลงมานอนรวมกันที่ชั้นล่างเพราะชั้นสองไม่มีหลังคา ซึ่งร้านรับซื้อของเก่่าเปิดมาตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2547-2548 แล้ว แต่ไม่เคยเกิดกรณีดังกล่าวขึ้น เคยเพียงแค่เผายางในพื้นที่สร้างมลพิษรบกวนบ้างเท่านั้น ส่วนตัวแล้วไม่ได้รู้จักสนิมสนมกับเจ้าของร้าน มีเพียงแค่เคยทักทายกันตามประสาคนบ้านใกล้เรือนเคียงเท่านั้น ถ้าเป็นไปได้อยากจะขอให้ทางเจ้าของร้านดังกล่าวช่วยซ่อมบ้านให้เหมือนเดิมเท่านั้น ไม่อยากจะเรียกร้องมากมายเพราะทางเขาก็สูญเสียเหมือนกัน แต่เบื้องต้นตนคงต้องช่วยเหลือตัวเองไปก่อน เพราะหากรอทางรัฐบาลยื่นมือมาช่วยคงจะช้า
      
           น.ส.ณัฐนันท์ พานทอง อายุ 36 ปี ประธานชุมชนวัดไตรรัตวนาราม กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนภายในชุมชนมาแจ้งข้อมูลเรื่องบ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายแล้วกว่า 30 หลังคาเรือน ซึ่งยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ได้ และทางสำนักงานเขตบางเขนจะมีการตั้งโต๊ะรับเรื่องราวร้องทุกข์ รวมถึงตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือเยียวยาคนในชุมชน ซึ่งประชาชนสามารถนำหลักฐานมาแจ้งความจำนงในการขอรับความช่วยเหลือได้
      
           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทาง กทม.จะช่วยความเสียหายสำหรับบ้านที่เสียหาย ทั้งหลัง เป็นเงิน 3,000 บาท เสียหายบางส่วน 1,500 บาท ขณะที่กรณีผู้บาดเจ็บเข้า รพ.รายละ 3,000 บาท กรณีบาดเจ็บเล็กน้อยไม่เข้า รพ.รายละ 1,500 บาท ส่วนผู้เสียชีวิตจะช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท โดยขณะนี้ได้มีประชาชนทยอยเดินทางเข้าเขียนคำร้องต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาทางชุมชนก็ได้ร่วมกันกับสำนักงานเขตบางเขน และเจ้าหน้าที่่ สน.บางเขน จัดกำลังเฝ้าดูแลในจุดเกิดเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าที่ร้านรับซื้อของเก่านั้นยังคงมีไฟปะทุขึ้นมาเป็นระยะๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจได้มีการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้เพื่อไม่ให้ลุกลาม

ที่มาของข้อมูล : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 3 เมษายน 2557

  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - บึ้มสนั่น!!! โกดังเก็บของเก่าซอยลาดปลาเค้า 72 เสียชีวิต 7 เจ็บนับ 10
 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น