สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

เพลิงไหม้โรงงานผลิตกระติกน้ำร้อน นิคมอุสาหกรรมบางชัน

ผู้เขียน: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่: 14 พ.ค. 2557

           เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ ( 14 พ.ค.) พ.ต.ท.วิเชียร เอี่ยมสะอาด พงส.ผนพ.สน.มีนบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้บริษัทสหยูเนียน จำกัด (มหาชน) สาขาบางชัน ตั้งอยู่เลขที่ 11/3 หมู่ที่ 14 ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ถ.เสรีไทย แขวงและเขตมีนบุรี กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับ พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก. สน.มีนบุรีและประสานรดน้ำดับเพลิง ของสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตบางชัน กทม. และหน่วยงานดับเพลิงใกล้เคียง จำนวน 20 คัน และรถกระเช้า 5 คัน

           ที่เกิดเหตุเป็นที่อาคาร 5 ชั้น ของบริษัทยูเนียน โชจิลุชิ จำกัด ผลิตกระติกน้ำสุญญากาศ ทั้งน้ำร้อน น้ำเย็น ภายใต้ชื่อการค้ายี่ห้อโชจิลุชิ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัทสหยูนียนฯ จุดต้นเพลิงเกิดที่บริเวณชั้น 3 มีเปลวไฟและกลุ่มควันจำนวนมาก เนื่องจากชั้นดังกล่าว เป็นชั้นพ่นสีผลิตภัณฑ์สินค้า มีสารเคมี ทินเนอร์ และสารไวไฟจำนวนมาก ส่วนภายนอกก็มีลมพัดแรง ไฟจึงลุกลามอย่างรวดเร็ว กลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าดำจำนวนมาก และมีกลิ่นสารเคมีโชยมาตามกระแสลม เจ้าหน้าที่พยายามนำรถน้ำและรถกระเช้าเข้าให้ถึงตัวอาคารมากที่สุด แต่มีปัญหาพื้นที่คับแคบ ทำให้ยากลำบากต่อการฉีดน้ำ รถกระเช้าก็ขึ้นไปฉีดน้ำไม่ได้ ได้แค่เพียงยืนฉีดน้ำที่บริเวณลานจอดรถรอบอาคาร เพลิงเผาผลาญอาคารเสียหายที่ชั้น 3 ชั้น 4 ชั้น 5 ซึ่งเป็นห้องเบิกจ่ายพัสดุอุปกรณ์ทั้งหมด ส่วนที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นห้องประกอบสินค้าเสียหายบางส่วน นอกจากนี้ตัวอาคารชั้นบนมีที่ท่าว่าจะทรุดตัวและถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ก็ระดมฉีดนำนานเกือบ 3 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่จึงหยุดการใช้น้ำ และให้ชุดตรวจสอบภายในอาคารเข้าไปดับเพลิงที่หลงเหลืออยู่

           นายเฉลิมชัย เดชะผล อายุ 32 ปี หน.งานขึ้นรูปกระติก กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุขณะกำลังทำงานขึ้นรูปกระติก อยู่ที่ชั้น 1ก็ได้ยินสัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้นที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องพ่นสี ขณะเกิดเหตุมีคนทำงานพ่นสีอยู่ ตนได้วิ่งขึ้นไปดูเพื่อช่วยเหลือ เพื่อนพนักงานด้วยงานก็วิ่งหนีสวนลงมาและบอกว่าไฟไหม้ที่ห้องพ่นสี บูท 2 ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าไฟไหม้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เมื่อมีการพูดคุยกับพนักงานประจำห้องพ่นสี คาดว่าขณะใช้ปืนพ่นสีอาจเกิดประกาย ไปตกใส่สารไวไฟ หรืออาจเป็นอุปกรณ์เครื่องพ่นสีเกิดความร้อนจัด และเกิดประกายไฟไปติดกับสารไวไฟก็ได้ยังไม่ชัดเจน

           พ.ต.อ.กัญชล กล่าวว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปถึงต้นเพลิงที่ชั้น 3 ได้ ตรงจุดเกิดเหตุยังมีความร้อนระอุอยู่ เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปตรวจสอบภายในไม่ได้ ทำได้แค่เพียงฉีดน้ำเลี้ยงไว้ไม่ให้ลุกลาม ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ คงต้องสอบสวนคนงานที่อยู่ห้องพ่นสีห้องต้นเพลิง และคาดว่าวันพรุ่งนี้ วันที่ 15 พ.ค.เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานคงเข้าไปตรวจหาหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนมูลค่าความเสียหายคงต้องรอสอบผู้บริหารอีกที่ แต่คาดว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้น่าเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ล่าสุดทาง กทม.ได้ประกาศห้ามใช้อาคารดังกล่าวแล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงคอยควบคุมเพลิงไว้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาของข้อมูล : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2557

 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น