นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรราชบุรี กรมวิชาการเกษตรได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีโรงงานผลิตวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งอยู่ที่ อ.เนินสะดวก จ.ราชบุรี จึงได้ประสานไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เข้าร่วมตรวจค้นสถานที่ได้รับแจ้งดังกล่าว พบของกลางจำนวนมาก ได้แก่ วัตถุอันตรายประเภทสารกำจัดวัชพืช สารกำจัดแมลง กลุ่มสารควบคุมและยับยั้งการเจริญเติบโตของพืช รวมจำนวน 25 ตัน ปุ๋ยเคมี 15.7 ตัน ธาตุอาการรองและธาตุอาหารเสริมจำนวน 1.7 ตัน รวม 17.4 ตัน รวมจำนวนของกลางที่ได้ทำการยึดอายัดไว้จำนวน 56 รายการ ปริมาณ 42.4 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดกว่า 12 ล้านบาท พร้อมกับได้ทำการยึดอายัดของกลางทั้งหมดไว้

           จากการตรวจสอบพบประเด็นความผิด ดังนี้ คือ ผลิตวัตถุอันตรายและมีไว้ในครอบครองวัตถุอันตรายโดยมิได้รับอนุญาต ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตวัตถุอันตรายและมีไว้ในครอบครองวัตถุอันตรายที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่มิได้ขึ้นทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผลิตวัตถุอันตรายและมีไว้ในครอบครองวัตถุอันตรายโดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก หรือการแสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขายปุ๋ยเคมีโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

          อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรมีนโยบายในการปราบปรามปัจจัยการผลิตที่ด้อยคุณภาพทั้งสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช ปุ๋ย และเมล็ดพันธุ์ที่เสื่อมคุณภาพ โดยได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และกรมสอบสวนคดีพิเศษ อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ได้จับกุมผู้กระทำความผิดในส่วนของโรงงานเถื่อนจำนวน 39 ราย ยึดของกลางจำนวน 8,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมจำนวนกว่า 300 ล้านบาท