UN Number: 1008   Boron trifluoride

English

ระยะเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน
สัญลักษณ์
การหกรั่วไหลขนาดเล็ก
(จากภาชนะบรรจุขนาดเล็ก หรือการรั่วไหลเล็กน้อยจากภาชนะบรรจุขนาดใหญ่)
การหกรั่วไหลขนาดใหญ่
(จากภาชนะบรรจุขนาดใหญ่ หรือจากภาชนะบรรจุขนาดเล็กจำนวนมาก)
ระยะเขตอันตรายเบื้องต้นในทุกทิศทาง
ระยะเขตอันตรายในทิศทางใต้ลม ระหว่าง
ระยะเขตอันตรายเบื้องต้นในทุกทิศทาง
ระยะเขตอันตรายในทิศทางใต้ลม ระหว่าง
กลางวัน
กลางคืน
กลางวัน
กลางคืน
30 ม. (100 ฟุต) 0.1 กม. (0.1 ไมล์) 0.6 กม. (0.4 ไมล์) 300 ม. (1000 ฟุต) 1.9 กม. (1.2ไมล์) 4.8 กม. (3.0 ไมล์)
GUIDE 125 ก๊าซ - กัดกร่อน
อันตรายที่อาจเกิดได้
สุขภาพ
- สารพิษ;  อาจตายได้ถ้าสูดดมกลืนกิน หรือซึมผ่านผิวหนัง
- ไอระเหยทำให้เกิดการระคายเคืองและกัดกร่อนอย่างรุนแรง
- การสัมผัสก๊าซหรือก๊าซเหลวอาจทำให้เกิดการไหม้ บาดเจ็บอย่างรุนแรง และ/หรือ บวมเป็นน้ำเหลืองเนื่องจากความเย็นจัด
- ไฟจะก่อให้เกิดก๊าซที่ระคายเคือง กัดกร่อน และ/หรือเป็นพิษ
- น้ำจากการดับเพลิง อาจก่อให้เกิดมลพิษ
ไฟไหม้หรือระเบิด
- สารบางประเภทอาจไหม้ไฟ แต่ไม่มีสารใดลุกติดไฟทันที
- ไอระเหยจากก๊าซเหลวในระยะแรกหนักกว่าอากาศและกระจายอยู่ตามพื้น
- สารบางประเภทอาจทำปฏิกิริยารุนแรงกับน้ำ
- ท่อระเบิดอาจจะระบายและปล่อยก๊าซพิษ และ/หรือก๊าซกัดกร่อนผ่านท่อระบายความดัน
- ภาขนะบรรจุอาจระเบิดได้เมื่อถูกความร้อน
- ถังก๊าซที่ร้าวอาจพุ่งเป็นจรวด
ความปลอดภัยในที่สาธารณะ
- โทรศัพท์เรียกทีมฉุกเฉินตามเอกสารการขนส่ง ถ้าเอกสารการขนส่งไม่มีหรือไม่มีการตอบรับ, ตรวจสอบรายนามผู้ใช้โทรศัพท์จากปกหลังด้านใน
- มาตรการป้องกันที่ต้องทำทันทีคือ กั้นเขตบริเวณที่มีการหกรั่วไหลโดยรอบทันทีไม่น้อยกว่า 100 เมตร (300 ฟุต)
- กันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออก
- อยู่เหนือลม
- ก๊าซหลายชนิดหนักกว่าอากาศและจะกระจายตามพื้น และรวมตัวอยู่ในพื้นที่ต่ำ หรือจำกัด (ท่อระบายน้ำ ใต้ถุน ในถัง ฯลฯ)
- ออกห่างจากบริเวณต่ำ
- ระบายอากาศก่อนเข้าบริเวณที่อับ
ชุดป้องกัน
- สวมเครื่องช่วยหายใจที่มีความดันเป็นบวก SCBA
- สวมชุดป้องกันสารเคมีที่ได้รับการแนะนำจากผู้ผลิตสารเคมี อย่างไรก็ดี ชุดดังกล่าวอาจป้องกันความร้อนเล็กน้อยหรือไม่ป้องกันเลย
- ชุดผจญเพลิงให้การปกป้องในสถานการณ์ไฟไหม้ปกติเท่านั้น มันจะไม่มีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่มีสารเคมีรั่วไหลที่อาจต้องมีการสัมผัสกับสารโดยตรง
การอพยพ
หก
ดูตารางที่ 1 - ระยะเขตอันตรายและเขตควบคุมป้องกัน สำหรับวัสดุที่เน้นสีไว้ สำหรับวัสดุที่ไม่ได้เน้นสี ให้เพิ่มระยะในทิศทางใต้ลม หากจำเป็น ระยะเขตอันตรายต้องเป็นไปตามหลัก "ความปลอดภัยในที่สาธารณะ"
ไฟไหม้
- ถ้าถังก๊าซ รถตู้ หรือรถบรรทุกติดอยู่ในกองเพลิง กั้นเขตรัศมี 1600 เมตร (1 ไมล์) พร้อมทั้งอพยพออกนอกรัศมี 1600 เมตร (1 ไมล์)
การระงับอุบัติภัย
ไฟไหม้
ไฟไหม้ขนาดเล็ก
- ผงเคมีแห้ง หรือ คาร์บอนไดออกไซด์
ไฟไหม้ขนาดใหญ่
- ฉีดน้ำเป็นฝอย เป็นหมอก หรือ โฟมธรรมดา
- เคลื่อนย้ายภาชนะบรรจุออกจากที่เกิดเหตุ ถ้าสามารถทำได้โดยไม่เสี่ยงภัย
- อย่าให้น้ำเข้าภายในภาชนะ
- การเคลื่อนย้ายท่อก๊าซชำรุดจะต้องทำภายใต้การแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ถังที่มีไฟไหม้
- ผจญเพลิงจากระยะไกลหรือใช้สายฉีดน้ำที่ไม่ต้องมีคนถือ หรือใช้หัวฉีดที่มีระบบควบคุม
- หล่อเย็นภาชนะบรรจุ โดยฉีดน้ำปริมาณมาก ๆ จนกว่าเพลิงจะสงบ
- อย่าฉีดน้ำตรงรอยรั่ว หรืออุปกรณ์นิรภัย น้ำแข็งอาจจับได้
- ออกจากบริเวณทันทีที่อุปกรณ์นิรภัยระบายไอมีเสียงดังขึ้น หรือภาชนะบรรจุที่ไหม้เปลี่ยนสี
- อยู่ให้ห่างจากถังขณะไฟไหม้เสมอ
หกหรือรั่วไหล
- กรณีหกรั่วไหลที่ไม่มีไฟ ควรใช้ชุดป้องกันสารเคมีชนิดคลุมทั้งตัว และชุดป้องกันไอระเหยของสารเคมี
- ห้ามสัมผัสหีบห่อชำรุด หรือเดินผ่านสารที่หกรั่วไหล
- หยุดการรั่วไหล ถ้าสามารถทำได้โดยไม่เสี่ยงอันตราย
- ถ้าเป็นไปได้ ปล่อยให้ก๊าซรั่วดีกว่าให้ของเหลวรั่วออกมา
- ป้องกันการไหลเข้าทางน้ำ ทางระบายน้ำ ใต้ดิน และพื้นที่ที่จำกัด
- อย่าฉีดน้ำตรงที่รั่ว หรือรอยรั่ว
- ใช้น้ำฉีดเป็นฝอยเพื่อลดการระเหยไอ หรือเปลี่ยนทิศทางทำให้ไอลอยขึ้นไป อย่าให้น้ำสัมผัสกับสาร
- กั้นเขตบริเวณที่มีก๊าซรั่วไหลจนกว่าก๊าซจะระเหยไปหมด
การปฐมพยาบาล
- เคลื่อนย้ายผู้ประสบภัยไปยังบริเวณที่อากาศบริสุทธิ์
- เรียก 911 หรือหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน
- ถ้าผู้ประสบภัยไม่สามารถหายใจเองได้ ให้ใช้เครื่องช่วยหายใจ
- ถ้าผู้ป่วยกลืนกินหรือสูดดมสารเข้าไป อย่าใช้วิธีปากต่อปาก ช่วยให้หายใจด้วยหน้ากากชนิดที่มีทางเปิดด้านเดียวหรืออุปกรณ์ช่วยหายใจอื่นที่เหมาะสม
- ให้อ๊อกซิเจน ถ้าหายใจไม่ออก
- ถอดเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปื้อนสารออก
- กรณีสัมผัสก๊าซเหลว ค่อย ๆ อุ่นส่วนที่ถูกความเย็นจัดด้วยน้ำอุ่น
- กรณีสัมผัสกับสาร ให้รีบล้างผิวหนังและตาด้วยน้ำที่ไหลตลอดเวลาอย่างน้อย 20 นาที
- ในกรณีที่สัมผัสไฮโดรเจนฟลูออไรด์, แอนไฮดรัส(UN1052) ให้ล้างผิวหนังและตาด้วยน้ำที่ไหลตลอดเวลา 5 นาที แล้วทาผิวหนังด้วยแคลเซียม/เยลลี่ ส่วนตาล้างด้วยน้ำที่ไหลตลอดเวลา/สารละลายแคลเซียมเป็นเวลา 15 นาที
- ดูแลผู้ประสบภัยให้ได้รับความอบอุ่นและไม่ถูกรบกวน
- สังเกตอาการของผู้ประสบภัย
- ผลจากการสัมผัสหรือสูดดมอาจไม่เกิดทันที
- บอกแพทย์ ว่ามีสารอะไรเกี่ยวข้อง และระมัดระวังป้องกันตนเอง