|
ข้อคิดเห็นที่
1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ ![]() ![]() เรียน คุณmod, 1. Website นี้ไม่ใช่การตอบคำถามด้านสุขภาพโดยตรงนะครับ ท่านสามารถตรวจสอบได้จาก Website อื่นๆซึ่งมีอยู่มากมาย เช่น นิตยสารใกล้หมอ / หมอชาวบ้าน (www.publishing.doctor.or.th/_doctor) / โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร (www.abhaiherb.com) เป็นต้น ซึ่งท่านจะได้รับความรู้ความเข้าใจที่กระจ่างชัดและถูกต้องกว่านะครับ 2.อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการบรรเทาความรู้สึกทุกข์ของท่าน(บ้าง) ผมได้ลองหาข้อมูลมา และประกอบกับความรู้ที่พอทราบอยู่บ้างแก่ท่านดังนี้ครับ ผลของการดื่มน้ำกะเพราแดง (จาก http://th.wikipedia.org/wiki) ใบ บำรุงธาตุไฟธาตุ ขับลมแก้ปวดท้องอุจจาระ แก้ลมตานซาง แก้จุกเสียด แก้คลื่นเหียนอาเจียน และขับลม น้ำสกัดทั้งต้นมีฤทธิ์ลดการบีบตัวของลำไส้ สามารถรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ในใบมีฤทธิ์ขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมันและลดอาการจุกเสียด[http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=69778&NewsType=2&Template=1 ] ข้อมูลอื่นด้านสรรพคุณทางยา ท่านลองดูได้จาก http://www.the-than.com/samonpai/sa_4.html ครับ จากการที่กะเพราแดงมีฤทธิ์ดังกล่าวข้างต้นผมคิดว่ามันน่าจะมีสรรพคุณใกล้เคียงกับการรับประทานแกงเลียง (ซึ่งปกติ คนโบราณจะใช้เป็นอาหารสำหรับขับน้ำนม) ประกอบกับความสามารถในการตอบสนองต่อผลของอาหารของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ซึ่งท่านเองอาจไวต่อน้ำกะเพราแดงนี้มากกว่าคนอื่น และประกอบกับได้ดื่มติดต่อกัน2อาทิตย์ สมดุลของธาตุของท่านจึงถูกปรับเปลี่ยนไป จึงปรากฏผลออกมาทางกายภาพดังกล่าวครับ ผมอยากเสนอว่าท่านลองปรับการดื่ม/ทานอาหารต่างๆให้อยู่ในสายกลาง หลังจากท่านมีอาการท้องอืดดีขึ้นแล้ว หรือไม่ก็ลองเปลี่ยนชนิดของอาหารดู (เช่น ใช้ขมิ้นชันแทน) พร้อมทั้งอย่าลืมปรึกษาแพทย์(ตัวจริง)ด้วย จะเป็นผลดีต่อท่านมากที่สุดครับ ของอนุญาติอวยพรให้ท่านมีสุขภาพดีนะครับ โดย: Prasit [15 ก.ค. 2556 10:25] |