สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

กรีนพีซต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ผู้เขียน: กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทย
วันที่: 30 มิ.ย. 2553

            นักกิจกรรมกรีนพีซเรียกร้องให้รัฐมนตรีพลังงานหยุดแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย ที่หน้ากระทรวงพลังงาน โดยนำสัญลักษณ์นิวเคลียร์ใส่ในถังแล้วปิดฝา พร้อมชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้น หากรัฐบาลยังคงเดินหน้าแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า พ.ศ.2553 - 2573 ที่จะผุดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ถึง 5 แห่งในประเทศไทย

            การลงทุนไปกับพลังงานนิวเคลียร์มีความเสี่ยงสูงในทุกด้าน กรีนพีซเรียกร้องให้นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ล้มเลิกแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย การประเมินแนวโน้มด้านต้นทุนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ชี้ให้เห็นว่าต้นทุนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่คาดการณ์ไว้ในแผนพีดีพี 2553 นั้นเป็นการประมาณที่ค่อนข้างต่ำและไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลกยังได้ตอกย้ำให้เห็นถึงงบประมาณการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่บานปลายเกินกว่าที่ตั้งไว้ และความเสี่ยงเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า พ.ศ.2553 - 2573 นี้ นายธารา บัวคำศรี ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ประจำประเทศไทย กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

            จากแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2553 ได้ระบุถึงต้นทุนชั่วข้ามคืนไว้ที่ 3,087 เหรียญสหรัฐ ต่อกิโลวัตต์ คิดเป็นต้นทุนรวมของการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาด 1,000 เมกะวัตต์ จำนวน 5 โรง เป็นเงินประมาณ 5 แสนล้านบาท หรือ 15,400 ล้านเหรียญสหรัฐ

            ในจดหมายที่กรีนพีซยื่นให้แก่รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ได้แสดงถึงการประเมินต้นทุนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้นสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การคาดการณ์ในปัจจุบันของต้นทุนชั่วข้ามคืนของการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ที่ประมาณ 4,000 เหรียญสหรัฐต่อกิโลวัตต์ ถ้าหากมีคำสั่งซื้อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในระยะสั้นมากขึ้นเท่าใด ต้นทุนที่มีการคาดการณ์ก็จะยิ่งเพิ่มสูงมากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ ต้นทุนรวมทั้งหมดจะสูงกว่านี้และต้นทุนดังกล่าวก็ยิ่งจะทวีคูณมากขึ้นอีก หากเกิดความล่าช้าในการก่อสร้าง

            กรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โอกิลูโอโต 3 หรือ OL3 ในประเทศฟินแลนด์ บริษัทอารีวา (Areva) ผู้ดำเนินโครงการจากประเทศฝรั่งเศสได้เปิดเผยถึงผลกำไร หรือผลการดำเนินงานทางการเงิน ของต้นปี พ.ศ.2553 ว่าอารีวาต้องจ่ายเพิ่มถึง 400 ล้านยูโรไปกับต้นทุนที่บานปลายของโครงการ OL3 หากรวมกับงบที่บานปลายของปีก่อนเป็นจำนวน 2.3 พันล้านยูโร ก็เท่ากับว่างบประมาณของโครงการนี้ได้สูงกว่าที่ประเมินไปแล้วถึง 2.7 พันล้านยูโร

            ต้นทุนมหาศาลที่จะบานปลายในการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในประเทศไทย ประกอบกับความกังวลของสาธารณชน และเสียงคัดค้านของชุมชนในพื้นที่ต่อกระบวนการวางแผนพลังงานที่ไม่โปร่งใส น่าจะเป็นเหตุผลที่เพียงพอที่จะทำให้รัฐบาลไทยและคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติยุติแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมด แล้วหันไปผลักดันแผนปฏิบัติการเพื่อปฏิรูปกระบวนการวางแผนพลังงานที่เอื้อต่อการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีความหมายและการพิจารณาถึงทางเลือกพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดอย่างกว้างขวางมากขึ้น และรัฐบาลควรนำเสนอวิสัยทัศน์ด้านพลังงานสะอาด ที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อให้อนาคตพลังงานของประเทศมีการใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากพลังงานหมุนเวียนที่มีความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์และศักยภาพด้านประสิทธิภาพพลังงาน นำไปสู่การเข้าถึงแหล่งพลังงานในราคาถูก รวดเร็วยิ่งขึ้นและช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมลพิษต่างๆ นายธารา บัวคำศรี กล่าวสรุป

ที่มาของข้อมูล : กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทย

  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - กรีนพีซเตือนนิวเคลียร์ไม่ใช่ทางออก
บอกข่าวเล่าความ - ไม่เคยมีประเทศไหนผ่านประชามติ เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
บอกข่าวเล่าความ - โรงไฟฟ้านิวเคลียร์... ความพร้อมจากฝรั่งเศสสู่ไทย
บอกข่าวเล่าความ - สว. ค้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
บอกข่าวเล่าความ - ทำไมต้องมี... โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น