ชาวนาจะรู้จักโฟลิดอน 605 ซึ่งใช้คลุกกับข้าวสุกหว่านในนาข้าวหลังปักดำ เพื่อฆ่าปูนาที่มากัดกินต้นกล้า ขณะที่ชาวไร่ถั่วเหลืองใช้พ่นกำจัดหนอนม้วนใบและหนอนกระทู้ สำหรับถั่วลิสง เขาจะพ่นตอนที่ถั่วเริ่มออกดอก เพื่อกำจัดด้วงน้ำมันและเสี้ยนดิน สารตัวนี้ฆ่าแมลงได้โดยการสัมผัส แมลงที่มีปากดูด จะดูดสารเข้าไปในกระเพาะ จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับสารฆ่าแมลงพวกออร์แกนโนฟอสเฟต ซึ่งเข้าไปรบกวนการทำงานของเอนไซม์ชื่อ โคลีนเอสเตอร์เรส ที่ทำให้ระบบประสาทของทั้งคน สัตว์และแมลงทำงานได้อย่างปกติ
พิษของมันเกิดจากการสูดเข้าไป หรือเข้าถึงกระเพาะ และยังซึมเข้าทางผิวหนังได้ด้วย อาการขั้นแรกอาจมีน้ำมูกหรือเลือดกำเดาไหล ไอ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก ผิวหนังส่วนที่สัมผัสสารอาจมีเหงื่อออกมาก และเกิดอาการกล้ามเนื้อหดตัว ถ้าเข้าตาจะปวดแสบ น้ำตาไหล มองเห็นไม่ชัด อาการเหล่านี้อาจเกิดภายใน 2-3 นาที หรืออาจไปแสดงออกหลายชั่วโมงหลังจากนั้นก็ได้ นอกจากอาการดังกล่าว ยังมีคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน ถ้ามากจะมีผลต่อระบบประสาท ทำให้พูดไม่ชัด กระตุก อ่อนเปลี้ย จนถึงขั้นกล้ามเนื้อแขนขาไม่มีแรง และอาจตายได้จากหัวใจหยุดเต้น
โชคดีอยู่บ้างที่สารตัวนี้สลายได้เร็วในน้ำ ประมาณ 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน สลายได้เกือบหมด และจะสลายได้เร็วยิ่งขึ้นเมื่อมีตะกอนดิน หรือเมื่อมีแสงแดด และเมื่ออุณหภูมิสูง จึงมักไม่พบการตกค้างในสิ่งแวดล้อม เมื่อฉีดพ่นบนใบพืช มันจะหมดไปได้ภายใน 1 สัปดาห์ ชาวไร่ชาวนา และคนผสมสารที่เข้มข้นจึงมีความเสี่ยงสูง
อย่างไรก็ดี เมื่อจะใช้ฆ่าแมลงก็ควรระวัง ฉีดพ่นอยู่เหนือลม อย่าให้ถูกผิวหนัง เมื่อเสร็จงานต้องอาบน้ำ และนำเสื้อผ้าไปซักให้สะอาด จึงจะนำมาใช้ใหม่ได้...
หมายเหตุ
|
เมทิล พาราไทออน
|
เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ตามพรบ. วัตถุอันตราย ควบคุมโดยกรมวิชาการเกษตรและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
|
|