เมลามีนยังเป็นกระแสข่าวต่อเนื่อง ก็เลยมีเรื่องที่ไปค้นมาเล่าต่อเป็นการเรียนรู้เพิ่มเติมในแง่ประโยชน์นั้นมีมาก เมลามีนเป็นสารประกอบที่นำไปทำเป็นเมลามีนเรซินกับฟอร์มัลดีไฮด์ ได้พลาสติกชนิด thermosetting หมายความว่าเป็นพลาสติกที่ไม่สามารถนำมาหลอมไปใช้ใหม่ได้เหมือนพวก thermoplastic เราจะพบการใช้ประโยชน์ของเมลามีนเรซินในการทำเป็นภาชนะที่ใช้ในครัว แต่ไม่เหมาะกับการใช้กับไมโครเวฟเพราะเก็บคลื่นไมโครเวฟได้ทำให้ร้อนขึ้น พื้นฟอร์เมกาที่เราเคยได้ยินบ่อยๆ ก็มาจากเมลามีนเรซิน ซึ่งเหมาะกับการใช้เคลือบผิวชนิดต่างๆ ด้วยเพราะรักษาความสะอาดได้ง่าย เมลามีนโฟมใช้เป็นวัสดุเพื่อเป็นฉนวนไฟฟ้าและเก็บเสียง ดังนั้นเมลามีนจึงมีประโยชน์ในการใช้งานมหาศาล แต่ที่เป็นเรื่องขึ้นมาเพราะเกิดจากการใช้ที่ผิดวัตถุประสงค์
เรื่องราวที่ถูกเปิดเผย (2008 Chinese Milk Scandal) เกิดจากมีรายงานจากกุมารแพทย์ว่าพบทารกในประเทศจีนป่วยมีอาการไตวาย ตั้งแต่เดือนกันยายน 2008 เป็นต้นมา ได้มีการรายงานจากสำนักข่าวและนานาชาติต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทำนองว่าจีนพยายามปกปิดการเสนอข่าวทั้งๆ ที่กุมารแพทย์และแพทย์เฉพาะทางได้รายงานต่อองค์กรตรวจสอบของรัฐที่เรียกว่า Administration of Quality Supervision Inspection and Quarantine (AQSIQ) แต่ถูกปฏิเสธปัดให้ไปรายงานต่อกรมอนามัย เมื่อกลุ่มสหกรณ์ของนิวซีแลนด์ชื่อ Fonterra ซึ่งมีหุ้นส่วนการผลิตผลิตภัณฑ์นมในจีนขนาดใหญ่ต้องแจ้งไปยังรัฐบาลนิวซีแลนด์ หลังจากที่บริษัทไม่ได้รับคำตอบจากหุ้นส่วน ชื่อบริษัทผู้ต้องสงสัยก็ไม่ได้รับการเปิดเผย อีกทั้งยังพบว่ามีความพยายามขอความร่วมมือจาก search engine รายใหญ่ให้ช่วยปิดบังข้อมูลที่เสียหายด้วย ในที่สุดก็มีการเพ่งเล็งไปยังกลุ่มบริษัทซันลูที่เป็นปัญหา เพราะเป็นบริษัทผู้นำในตลาดซึ่งปฏิเสธมาตั้งแต่ต้น ทั้งๆ ที่บริษัทเคยได้รับรายงานความผิดปกติมาตั้งแต่ปี 2007 แต่ไม่ได้ทำการตรวจสอบจนปี 2008 แล้ว ยังพยายามร้องขอให้เทศบาลเมือง Shijiazhuang เข้มงวดกับการเสนอข่าวทางลบอีก ในที่สุดวันที่ 15 กันยายน 2008 บริษัทจึงถูกสั่งหยุดการผลิต และทำลายผลิตภัณฑ์นม 2.76 ตัน ที่อยู่ภายในโกดัง รวมทั้งเรียกผลิตภัณฑ์กลับอีกด้วย ผลที่ตามมาแน่นอนมีผู้ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ ประธานบริษัท ผู้อำนวยการ AQSIQ ตลอดจนนายกเทศมนตรี และเจ้าหน้าที่เมือง Shijiazhuang ก็ถูกให้ออกฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
คำถามคือเรื่องนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ความเสียหายได้กระจายไปทั่วโลกก็ว่าได้ 25 ประเทศหยุดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์นมจากจีน ร้านกาแฟ อาหารและขนมดังๆ ทั้งหลายที่ใช้ผลิตภัณฑ์นมมีทั้ง Starbuck, Cadbury, White Rabbit, Lotte ล้วนถูกผลกระทบเพราะใช้วัตถุดิบจากจีน นอกจากบริษัทซันลูแล้ว ยังตรวจพบเมลามีนในผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นอีกด้วย แต่มีปริมาณไม่มากเท่า ได้แก่ บริษัท Mengniu, Yili, และYorhili ทั้งนี้จีนผลิตผลิตภัณฑ์นมถึง 30 ล้านตัน ในปี 2006 ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ของปริมาณที่ผลิตได้เมื่อ10 ปีก่อน ซึ่งสิ่งที่เป็นข้อสงสัยต่อมาคือราคาขายของบริษัทซันลู ถูกกว่าราคาตามท้องตลาดถึงครึ่งหนึ่ง เป็นไปได้ว่าทางบริษัทซันลูใช้เมลามีนคุณภาพต่ำซึ่งอาจมีสิ่งปนเปื้อนอื่นอีกด้วย ขณะที่ราคาเมลามีนเกรดบริสุทธิ์ 99% ราคาตันละ 11,000 หยวน ส่วนเกรดต่ำราคาเพียงตันละ 700 หยวน ซึ่งในเมลามีนเกรดต่ำจะมีสารปนเปื้อนอื่น เช่น ยูเรีย แอมโมเนีย โปแตสเซียมไนเตรต และโซเดียมไนไตรต์ ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย
องค์การอนามัยโลกได้รับแจ้งจากจีนเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2551 และได้ตั้งข้อตำหนิว่าเปิดเป็นประเด็นสาธารณะช้ามากด้วยความจงใจหรือไม่รู้ แต่ดูเหมือนเป็นความตั้งใจหลอกผู้บริโภคระดับชาติ เพื่อทำกำไรในระยะสั้น ทางด้านศาสตราจารย์ Hu Zingdoa แห่งสถาบันเทคโนโลยีปักกิ่งกล่าวว่า นี้คือผลของการขยายตลาดโดยไม่พยายามวางรากฐานทางจริยธรรม รัฐบาลจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดในการแก้ปัญหาทั้งระบบแทนที่จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทีละจุด ซึ่งสภาพนี้คงไม่แตกต่างกับประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทยด้วยที่กำลังเป็นสังคมที่อยากรวยเร็ว |