| 
                  
				  
                  
                    | - เมิ่อเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่ง รังสีทำให้เกิดความเสี่ยงน้อยมากต่อคนงาน บุคลากรโต้ตอบภาวะฉุกเฉิน และประชาชนทั่วไป ความทนทานของหีบห่อ เพิ่มขึ้นเมื่อศักยภาพการแผ่รังสีและอันตรายถึงจุดวิกฤตของวัตถุกัมมันตรังสีที่เพิ่มขึ้น | 
                  
				  
                  
                    | - หีบห่อที่ไม่ชำรุดจะปลอดภัย สิ่งบรรจุภายในหีบห่อชำรุดอาจแผ่รังสีออกมาภายนอก และแผ่รังสีมากขึ้นถ้าสิ่งบรรจุเล็ดลอดออกมาได้ | 
                  
				  
                  
                    | - ไม่น่าจะเป็นอันตรายจากการปนเปื้อนและการแผ่รังสีภายใน แต่ก็เป็นไปได้ | 
                  
				  
                  
                    | - หีบห่อชนิด A (กล่อง หีบ ถัง ชิ้น ฯลฯ) ที่มีการระบุบนภาชนะ หรือในเอกสารการขนส่ง ที่ไม่บรรจุสารในปริมาณที่เป็นอันตรายถึงชีวิต อาจมีการปลดปล่อยiรังสี หากภาชนะชนิด A ชำรุดโดยอุบัติเหตุ | 
                  
				  
                  
                    | - หีบห่อชนิด B และชนิด C (ใหญ่และเล็ก มักเป็นโลหะ) บรรจุสารอันตรายปริมาณสูงสุดจะมีการระบุด้วยเครื่องหมายบนภาชนะ หรือในเอกสารการขนส่ง สภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตอาจยังมีอยู่ในกรณีที่สารรั่วไหลออกมาหรือตัวป้องกันหีบห่อเสียหาย ด้วยการออกแบบ การประเมิน  | 
                  
				  
                  
                    | - ฉลาก Radioactive White-I บ่งชี้ว่าระดับรังสีภายนอกหีบห่อเดี่ยวที่ไม่ชำรุดว่าต่ำมาก (น้อยกว่า 0.005 mSv/h (0.5 mrem/h) | 
                  
				  
                  
                    | - หีบห่อติดฉลาก Radioactive Yellow-II และ Yellow-III มีระดับรังสีสูงกว่า ดัชนีขนส่ง (TI) บนฉลากแสดงระดับรังสีสูงสุดเป็น mrem/h ที่ระยะ 1 เมตรจากหีบห่อเดี่ยวที่ไม่ชำรุด | 
                  
				  
                  
                    | - รังสีจากสิ่งที่อยู่ในหีบห่อซึ่งปกติอยู่ในแคบซูลโลหะที่ทนทาน วัดได้ด้วยเครื่องวัดรังสีส่วนใหญ่ | 
                  
				  
                  
                    | - น้ำจากการดับไฟสินค้าไม่ก่อให้เกิดมลพิษ |