สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
การจัดเก็บสารเคมีและวัตถุอันตราย

การจำแนกประเภทสารเคมีและวัตถุอันตรายสำหรับการเก็บรักษา

  (อ้างอิงจาก ประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม เรื่อง คู่มือเก็บรักษาสารเคมีและวัตถุอันตราย พ.ศ.2550)
          การจำแนกประเภทสารเคมีและวัตถุอันตรายสำหรับการเก็บรักษานั้น จะพิจารณาจากคุณสมบัติความเป็นอันตรายหลักของสารเป็นอันดับแรกก่อน ได้แก่ คุณสมบัติการติดไฟ การระเบิด และการออกซิไดซ์ จากนั้นจะพิจารณาคุณสมบัติรองของสารได้แก่ ความเป็นพิษ ความกัดกร่อน ส่วนความเป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมไม่นำมาพิจารณาในการจำแนกประเภทสำหรับการเก็บรักษา ประเภทสารเคมีและวัตถุอันตรายสำหรับการเก็บรักษา มีดังนี้

          1. ประเภท 1 วัตถุระเบิด (Explosive substances) หมายถึง วัตถุระเบิดตามเกณฑ์ของกฎหมายวัตถุระเบิดของกระทรวงกลาโหม หรือสินค้าอันตรายประเภทที่ 1 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I)

          2. ประเภท 2A ก๊าซอัด ก๊าซเหลว หรือก๊าซที่ละลายภายใต้ความดัน (Compressed, liquefied and dissolved gases) หมายถึง ก๊าซซึ่งมีสภาพก๊าซโดยสมบุรณ์ที่อุณหภูมิ 20 oC ที่ความดันปกติ 101.3 กิโลปาสคาล รวมถึงก๊าซตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายประเภทที่ 2 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) และก๊าซที่ถูกจำแนกให้อยู่ในประเภทอื่นตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตราย (เช่น ก๊าซ hydrogen fluoride ที่ถูกจัดไปอยู่ในประเภทที่ 8) แต่ไม่รวมถึงก๊าซอัดที่บรรจุอยู่ในกระป๋องสเปรย์ และไม่รวมถึงก๊าซเหลวเย็นจัด (Refrigerated liquefied gas or Cryogenic liquefied gas)

          3. ประเภท 2B ก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) (Pressurized small gas containers; aerosol can/aerosol container) หมายถึง ภาชนะปิดที่มีความดัน (Pressure Receptacles) อุปกรณ์ฉีดละอองลอย (Aerosol Dispensers) ภาชนะที่ทำด้วยโลหะ แก้ว หรือพลาสติกที่ออกแบบให้ใช้งานครั้งเดียว ซึ่งภายในบรรจุภัณฑ์นี้ประกอบด้วยก๊าซอัด หรือก๊าซเหลว หรือก๊าซที่ละลายภายใต้ความดันที่อัดลงไปในบรรจุภัณฑ์นั้น ซึ่งอาจมีหรือไม่มีส่วนผสมของสารเคมีอื่นที่อยู่ในรูปของเหลว ของเหลวข้น หรือผง ภาชนะบรรจุจะมีอุปกรณ์ฉีดพ่นสำหรับฉีดพ่นสารเคมีในรูปอนุภาคของแข็ง หรือของเหลว ที่แขวนตัวลอยอยู่ในละอองก๊าซ ลักษณะผลิตภัณฑ์ที่ฉีดพ่นออกมาเป็นรูปโฟม หรือของเหลวข้น หรือผง หรือของเหลว

          4. ประเภท 3A ของเหลวไวไฟ (Flammable liquids) หมายถึง ของเหลวที่มีจุดวาบไฟไม่เกิน 60 oC การทดสอบแบบถ้วยปิด (closed cup) ทั้งนี้ของเหลวที่มีความหนืดอาจจัอยู่ในประเภท 3A หรือประเภท 10 ก็ได้ขึ้นกับคุณสมบัติความหนืด ความสามารถในการลุกกระจายของไฟ และคุณสมบัติที่ก่อให้เกิดบรรยากาศที่พร้อมจะระเบิด

          5. ประเภท 3B ของเหลวไวไฟ (Flammable liquids) หมายถึงของเหลวที่มีตุดวาบไฟมากกว่า 60 oC ถึง 93 oC การทดสอบแบบถ้วยปิด (closed cup) และมีคุณสมบัติผสมเข้ากับน้ำไม่ได้

          6. ประเภท 4.1A ของแข็งไวไฟ (Flammable solids) ที่มีคุณสมบัติการระเบิด หมายถึง สารตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายประเภทที่ 4.1 ที่มีคุณสมบัติระเบิดใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) ได้แก่วัตถุระเบิดที่ถูกทำให้เฉื่อยด้วยน้ำหรือแอลกอฮอล์ หรือเจือจางโดยสารอื่นเพื่อข่มคุณสมบัติการระเบิด (solid desensitized explosive)

          7. ประเภท 4.1B ของแข็งไวไฟ (Flammable solids) หมายถึง สารตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายประเภทที่ 4.1 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) ที่ไม่มีคุณสมบัติระเบิด สามารถลุกไหม้ง่ายเนื่องจากการเสียดสีกัน หรือ เมื่อลุกไหม้สามารถลามออกไปได้อย่างรวดเร็ว โดยผลการทดสอบเวลาเผาไหม้น้อยกว่า 45 วินาที ในระยะทาง 100 มิลลิเมตรหรืออัดตราความเร็วการเผาไหม้มากกว่า 2.2 มิลลิเมตร/วินาที หากของแข็งนั้นเป็นผงโลหะหรือผงโลหะอัลลอยด์ต้องสามารถลุกไหม้และลุกลามไปตามความยาวของตัวอย่างที่นำมาทดสอบในเวลาไม่มากกว่า 10 นาที รวมทั้งสารที่ทำปฏิกิริยาได้ด้วยตัวเอง (Self reactive)

          8. ประเภท 4.2 สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกไหม้ได้เอง (Substances liable to spontaneous combustion) หมายถึง สารตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายประเภทที่ 4.2 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) ได้แก่

               8.1 สาร Pyrophoric ที่เกิดความร้อนจากที่ตัวสารเองทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ซึ่งภายใน 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนถึงอุณหภูมิที่สามารถลุกติดไฟได้ด้วยตนเอง (auto-ignition temperature)

               8.2 สาร Self-heating ที่เกิดความร้อนจากการที่ตัวสารเองทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศที่อุณหภูมิรอบตัว ความร้อนที่เกิดขึ้นไม่สามารถระบายออกไปได้ทันและสะสมอย่างต่อเนื่องอยู่ภายใน จนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นถึงอุณหภูมิที่สามารถลุกติดไฟได้ด้วยตัวเอง (auto-ignition temperature) สารเหล่านี้จะลุกติดไฟก็ต่อเมื่อมีขนาดใหญ่ (หลายกิโลกรัม) และอบอยู่เป็นเวลานานๆ (หลายชั่วโมงหรือหลายวัน)

          9. ประเภท 4.3 สารให้ก๊าซไวไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ (Substances which in contact with water emit flammable gases) หมายถึง สารตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายประเภทที่ 4.3 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) ซึ่งเมื่อสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นในอากาศสามารถให้ก๊าซไวไฟเป็นส่วนผสมของอากาศในระดับความเข้มข้นที่สามารถจุดระเบิดเป็นอันตรายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้

          10. ประเภท 5.1A 5.1 B 5.1C สารออกซิไดซ์ (Oxidizing substances) หมายถึงสารตามข้อกำหนดการขนส่งอันตรายประเภทที่ 5.1 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) เป็นสารที่ตัวเองไม่จำเป็นต้องติดไฟ โดยทั่วไปจะปล่อยออกซิเจนซึ่งเป็นสาเหตุหรือร่วมในการลุกไหม้ของวัสดุอื่น สารประเภทนี้บางชนิด อาจรวมอยู่เป็นสารผสมอื่นได้ด้วย

               10.1 ประเภท 5.1A เป็นสารออกซิไดซ์ที่มีความไวการทำปฏิกิริยามาก ได้แก่ สารดังต่อไปนี้
UN number
Name of material
1445
Barium chlorate
1447
Barium perchlorate
1450
Barium dioxide
1452
Bromates, inorganic, n.o.s.
1453
Calcium chlorite
1455
Calcium perchlorate
1461
Chlorates, inorganic, n.o.s.
1462
Chlorites, inorganic, n.o.s.
1470
Lead perchlorate, solid or Lead perchlorate, solution
1471
Lithium hypochlorite, dry or Lithium hypochlorite mixtures, dry
1472
Lithium peroxide
1475
Magnesium perchlorate
1479
Oxidizing solid, n.o.s.
1481
Perchlorates, inorganic, n.o.s.
1483
Peroxides, inorganic, n.o.s.
1484
Potassium bromate
1485
Potassium chlorate
1489
Potassium perchlorate, solid or Potassium perchlorate, solution
1491
Potassium peroxide
1494
Sodium bromate
1495
Sodium chlorate
1496
Sodium chlorite
1502
Sodium perchlorate
1504
Sodium peroxide
1506
Strontium chlorate
1508
Strontium perchlorate
1510
Tetranitromethane
1513
Zinc chlorate
1745
Bromine pentafluoride
1746
Bromine trifluoride
1748
Calcium hypochlorite, dry or Calcium hypochlorite mixtures dry with more than 39 percent available chlorine ( 8.8 percent available oxygen)
1873
Perchloric acid with more than 50 percent but not more than 72 percent acid, by mass
2015
Hydrogen peroxide, stabilized or Hydrogen peroxide aqueous solutions, stabilized with more than 60 percent hydrogen peroxide
2466
Potassium superoxide
2495
Iodine pentafluoride
2547
Sodium superoxide
2723
Magnesium chlorate
2741
Barium hypochlorite with more than 22 percent available chlorine
2880
Calcium hypochlorite, hydrated or Calcium hypochlorite, hydrated mixtures, with not less than 5.5 percent but not more than 10 percent water
3085
Oxidizing solid, corrosive, n.o.s.
3087
Oxidizing solid, toxic, n.o.s.
3098
Oxidizing liquid, corrosive, n.o.s.
3099
Oxidizing liquid, toxic, n.o.s.
3212
Hypochlorites, inorganic, n.o.s.
-
Potassium metaperiodate
-
Sodium metaperiodate
-
Periodine acid
               *ปรับปรุงข้อมูล UN number และชื่อสารตาม UN - RECOMMENDATIONS ON THE TRANSPORT OF DANGEROUS GOODS: MODEL REGULATIONS 2013
               10.2 ประเภท 5.1B เป็นสารออกซิไดซ์ที่มีความไวปานกลางในการทำปกิกิริยา ได้แก่ สารดังต่อไปนี้
UN number
Name of material
1438
Aluminium nitrate
1446
Barium nitrate
1448
Barium permanganate
1451
Caesium nitrate or Cesium nitrate
1454
Calcium nitrate
1456
Calcium permanganate
1457
Calcium peroxide
1458
Chlorate and borate mixtures
1459
Chlorate and Magnesium chloride mixtures, solid
1463
Chromium trioxide, anhydrous
1465
Didymium nitrate
1466
Ferric nitrate
1469
Lead nitrate
1473
Magnesium bromate
1474
 Magnesium nitrate
1476
Magnesium peroxide
1477
Nitrates, inorganic, n.o.s.
1479
Oxidizing solid, n.o.s.
1482
Permanganates, inorganic, n.o.s.
1486
Potassium nitrate
1487
Potassium nitrate and sodium nitrite mixtures
1488
Potassium nitrite
1490
Potassium permanganate
1492
Potassium persulfate
1493
Silver nitrate
1498
Sodium nitrate
1499
Sodium nitrate and potassium nitrate mixtures
1500
Sodium nitrite
1503
Sodium permanganate
1505
Sodium persulfate
1507
Strontium nitrate
1509
Strontium peroxide
1514
Zinc nitrate
1515
Zinc permanganate
1516
Zinc peroxide
1796
Nitrating acid mixtures, with more than 50 percent nitric acid or Nitrating acid mixtures, with not more than 50 percent nitric acid
1802
Perchloric acid with not more than 50 percent acid by mass
1826
Nitrating acid mixtures, spent with more than 50 percent nitric acid or Nitrating acid mixtures, spent with not more than 50 percent nitric acid
1872
Lead dioxide
2014
Hydrogen peroxide, aqueous solutions with more than 40 percent but not more than 60 percent hydrogen peroxide (stabilized as necessary) or Hydrogen peroxide, aqueous solutions with not less than 20 percent but not more than 40 percent hydrogen peroxide
2032
Nitric acid, red fuming
2208
Calcium hypochlorite mixtures, dry, with more than 10 percent but not more than 39 percent available chlorine
2427
Potassium chlorate, aqueous solution
2428
Sodium chlorate, aqueous solution
2429
Calcium chlorate aqueous solution
2464
Beryllium nitrate
2465
Dichloroisocyanuric acid, dry or Dichloroisocyanuric acid salts
2468
Trichloroisocyanuric acid, dry
2469
Zinc bromate
2573
Thallium chlorate
2626
Chloric acid aqueous solution, with not more than 10 percent chloric acid
2627
Nitrites, inorganic, n.o.s.
2719
Barium bromate
2720
Chromium nitrate
2721
Copper chlorate
2722
Lithium nitrate
2724
Manganese nitrate
2725
Nickel nitrate
2726
Nickel nitrite
2727
Thallium nitrate
2728
Zirconium nitrate
3084
Corrosive solid, oxidizing, n.o.s.
3086
Toxic solid, oxidizing, n.o.s.
3093
Corrosive liquid, oxidizing, n.o.s.
3122
Toxic liquids, oxidizing, n.o.s. or Toxic liquids, oxidizing, n.o.s. Inhalation Hazard, Packing Group I, Zone A or B
3139
Oxidizing liquid, n.o.s.
3210
Chlorates, inorganic, aqueous solutions, n.o.s.
3211
Hyperchlorates, inorganic, aqueous solution, n.o.s.
3213
Bromates, inorganic, aqueous solution, n.o.s.
3214
Permanganates, inorganic, aqueous solution, n.o.s.
3215
Persulfates, inorganic, n.o.s.
3216
Persulfates, inorganic, aqueous solution, n.o.s.
3218
Nitrates, inorganic, aqueous solution, n.o.s.
3219
Nitrites, inorganic, aqueous solution, n.o.s.
3247
Sodium peroxoborate, anhydrous,
-
Chromyl chloride
-
Potassium iodate
-
Sodium iodate
-
Sodium perborate
-
Iodine acid
-
Calcium iodate
-
Iodine pentoxide
               *ปรับปรุงข้อมูล UN number และชื่อสารตาม UN - RECOMMENDATIONS ON THE TRANSPORT OF DANGEROUS GOODS: MODEL REGULATIONS 2013
               10.3 ประเภท 5.1C คือสาร Ammonium nitrate และสารผสมที่มี Ammonium nitrate เป็นส่วนประกอบ

          11. ประเภท 5.2 สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์ (Organic peroxide) หมายถึง สารตามข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายประเภทที่ 5.2 ใน UN –Recommendations หรือข้อกำหนดการขนส่งสินค้าอันตรายของประเทศไทย เล่ม 1 (TP I) เป็นสารอินทรีย์ที่มีโครงสร้างออกซิเจน 2 อะตอม ดังนี้ –-O-O—(เปอร์ออกไซด์) ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นสารที่มีอนุพันธ์ของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ซึ่งอะตอมของไฮโดรเจนนี้ถูกแทนที่ด้วยอนุมูลอินทรีย์ 1 หรือ 2 ตัว และหมายถึงของผสมที่มีสารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์มากกว่าหรือเท่ากับ 5% ขึ้นไป สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์เหล่านี้เป็นสารไม่เสถียร เมื่อถูกความร้อนจะเกิดการแตกตัวรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากการคายความร้อนออกมา

         12. ประเภท 6.1A และ 6.1B สารพิษ (Toxic substances) หมายถึงวัตถุที่อาจทำให้เสียชีวิตหรือทำให้เกิดความเจ็บป่วยอย่างรุนแรงแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังเมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยการสัมผัสผิวหนัง หรือหายใจ หรือรับประทานเข้าไป

              12.1 ประเภท 6.1A คือ สารติดไฟที่มีคุณสมบัติความเป็นพิษ (Combustible toxic substances) ได้แก่
                    - ของเหลวไวไฟที่ผสมเข้ากับน้ำได้ มีจุดวาบไฟสุงกว่า 60 oC ถึง 93 oC ทดสอบแบบถ้วยปิด
                    - ของเหลวติดไฟที่ไม่สามารถผสมเข้ากับน้ำได้ จุดวาบไฟสุงกว่า 93 oC ทดสอบแบบถ้วยปิด
                    - ของแข็งติดไฟที่ไม่อยู่ในประเภทของแข็งไวไฟ 4.1B

              12.2 ประเภท 6.1B คือ สารไม่ติดไฟที่มีคุณสมบัติความเป็นพิษ (Non-combustible toxic substances) ได้แก่ ของเหลวไม่ติดไฟและของแข็งไม่ติดไฟ

         13. ประเภท 6.2 สารติดเชื้อ (Infectious substances) หมายถึงสารที่เป็นจุลินทรีย์หรือมีจุลินทรีย์เป็นส่วนประกอบ หรือพยาธิ ที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคในมนุษย์และสัตว์ จุลินทรียืเหล่านี้ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส ริคเก็ตเชีย (rickettsias) เชื้อรา รวมทั้งจุลินทรีย์ที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม

         14. ประเภท 7 วัสดุกัมมันตรังสี (Radioactive substances) หมายถึง ตุหรือสารประกอบใด ๆ ที่มีองค์ประกอบส่วนหนึ่งหรือมีโครงสร้างภายในอะตอมที่ไม่คงตัวและสลายตัวโดยการปลดปล่อยรังสีออกมา ทั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ

         15. ประเภท 8A และ 8B สารกัดกร่อน (Corrosive substances) หมยถึง สารซึ่งโดยปฏิกิริยาเคมี จะเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงเมื่อสัมผัสกับเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิตหรือในกรณีเกิดการรั่วไหลจะเกิดการเสียหายต่อวัสดุหรือแม้กระทั่งทำลายสินค้าอื่น ๆ หรือพาหนะที่ใช้ขนส่ง สารพวกนี้อาจทำให้เกิดอันตรายอย่างอื่นได้ด้วย แบ่งเป็น

              15.1 ประเภท 8A คือ สารติดไฟที่มีคุณสมบัติการกัดกร่อน (Combustible corrosive substances) ได้แก่
                   - ของเหลวไวไฟที่ผสมเข้ากับน้ำได้ มีจุดวาบไฟสุงกว่า 60 oC ถึง 93 oC ทดสอบแบบถ้วยปิด
                   - ของเหลวติดไฟที่ไม่สามารถผสมเข้ากับน้ำได้ จุดวาบไฟสุงกว่า 93 oC ทดสอบแบบถ้วยปิด
                   - ของแข็งติดไฟที่ไม่อยู่ในประเภทของแข็งไวไฟ 4.1B

              15.2 ประเภท 8B คือ สารไม่ติดไฟที่มีคุณสมบัติการกัดกร่อน (Non-combustible corrosive substances) ได้แก่ ของเหลวไม่ติดไฟและของแข็งไม่ติดไฟ

         16. ประเภท 10 ของเหลวติดไฟ (Combustible liquids) หมายถึง ของเหลวติดไฟที่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภท 3A และ 3B

         17. ประเภท 11 ของแข็งติดไฟ (Combustible solids) หมายถึง ของแข็งติดไฟที่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทของแข็งไวไฟ 4.1B

         18. ประเภท 12 ของเหลวไม่ติดไฟ (Non-combustible liquids) หมายถึง ของเหลวที่ไม่ติดไฟ

         19. ประเภท 13 ของแข็งไม่ติดไฟ (Non-combustible solids) หมายถึง ของแข็งที่ไม่ติดไฟ

รายละเอียดการจัดเก็บแต่ละประเภท

ประเภทการจัดเก็บ (Storage Class):

จัดเก็บแยกจากสารที่มีประเภทการจัดเก็บดังต่อไปนี้
Storage Class 1 : วัตถุระเบิด
Storage Class 4.2 : สารที่มีความเสี่ยงต่อการลุกติดไฟได้เอง
Storage Class 4.1A : ของแข็งไวไฟ
Storage Class 4.1B : ของแข็งไวไฟ
Storage Class 4.3 : สารที่ให้กาซไวไฟเมื่อสัมผัสกับน้ำ
Storage Class 5.1A : สารออกซิไดซ์
Storage Class 5.1B : สารออกซิไดซ์
Storage Class 5.2 : สารเปอร์ออกไซด์อินทรีย์
Storage Class 6.2 : สารติดเชื้อ
จัดเก็บแบบคละได้โดยมีเงื่อนไขกับสารที่มีประเภทการจัดเก็บดังต่อไปนี้
Storage Class 2A : ก๊าซอัด ก๊าซเหลว หรือกาซที่ละลายภายใต้ความดัน
เงื่อนไข: ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารอื่นในขณะเกิดอุบัติเหตุ สามารถเก็บคละกันได้โดยการจัดเก็บแบบแยกห่าง เช่น แยกออกจากกันโดยมีกำแพงกั้น เว้นระยะปลอดภัยให้ห่าง เก็บในบ่อแยกจากกัน หรือในตู้เก็บที่ปลอดภัย 
Storage Class 3A : ของเหลวไวไฟ
เงื่อนไข: การจัดเก็บของเหลวไวไฟ และก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) สามารถจัดเก็บได้โดยมีเงื่อนไขดังนี้ ต้องจัดให้มีการระบายอากาศ และปริมาณการจัดเก็บสารต้องไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการจัดเก็บทั้งหมด ทั้งนี้ปริมาณรวมของของเหลวไวไฟและก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) ต้องไม่เกิน 100,000 ลิตร 
Storage Class 3B : ของเหลวไวไฟ
เงื่อนไข: การจัดเก็บของเหลวไวไฟ และก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) สามารถจัดเก็บได้โดยมีเงื่อนไขดังนี้ ต้องจัดให้มีการระบายอากาศ และปริมาณการจัดเก็บสารต้องไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณการจัดเก็บทั้งหมด ทั้งนี้ปริมาณรวมของของเหลวไวไฟและก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) ต้องไม่เกิน 100,000 ลิตร 
Storage Class 5.1C : สารออกซิไดซ์
เงื่อนไข: อนุญาตให้เก็บคละกันได้ ยกเว้นก๊าซไวไฟ 
Storage Class 6.1A : สารติดไฟที่มีคุณสมบัติความเป็นพิษ
เงื่อนไข: ก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) เก็บคละกับสารพิษได้ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้ ห้องที่มีผนังทนไฟ ขนาดพื้นที่ต้องไม่เกิน 60 ตารางเมตร และปริมาณการจัดเก็บสารไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณการจัดเก็บทั้งหมด อุณหภูมิของห้องต้องไม่เกิน 50 องศาเซลเซียส ต้องมีการระบายอากาศและต้องมีทางออกฉุกเฉิน 2 ทาง ทางออกฉุกเฉินทั้งสองทางต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิงประเภทผงเคมีแห้ง ABC ขนาด 6 กิโลกรัม แห่งละ 1 เครื่อง ถ้าห้องเก็บมีขนาดใหญ่กว่า 60 ตารางเมตร การเก็บวัตถุอันตรายเหล่านี้ต้องจัดเก็บแบบแยกห่างด้วยวิธีการที่เหมาะสมหรือแยกบริเวณ 
Storage Class 6.1B : สารไม่ติดไฟที่มีคุณสมบัติความเป็นพิษ
เงื่อนไข: ก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์) เก็บคละกับสารพิษได้ โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้ ห้องที่มีผนังทนไฟ ขนาดพื้นที่ต้องไม่เกิน 60 ตารางเมตร และปริมาณการจัดเก็บสารไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณการจัดเก็บทั้งหมด อุณหภูมิของห้องต้องไม่เกิน 50 องศาเซลเซียส ต้องมีการระบายอากาศและต้องมีทางออกฉุกเฉิน 2 ทาง ทางออกฉุกเฉินทั้งสองทางต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิงประเภทผงเคมีแห้ง ABC ขนาด 6 กิโลกรัม แห่งละ 1 เครื่อง ถ้าห้องเก็บมีขนาดใหญ่กว่า 60 ตารางเมตร การเก็บวัตถุอันตรายเหล่านี้ต้องจัดเก็บแบบแยกห่างด้วยวิธีการที่เหมาะสมหรือแยกบริเวณ 
Storage Class 7 : วัตถุกัมมันตรังสี
เงื่อนไข: วัสดุกัมมันตรังสี ควรแยกจัดเก็บตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของหน่วยงาน IAEA และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
Storage Class 8A : สารติดไฟที่มีคุณสมบัติกัดกร่อน
เงื่อนไข: ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารอื่นในขณะเกิดอุบัติเหตุ สามารถเก็บคละกันได้โดยการจัดเก็บแบบแยกห่าง เช่น แยกออกจากกันโดยมีกำแพงกั้น เว้นระยะปลอดภัยให้ห่าง เก็บในบ่อแยกจากกัน หรือในตู้เก็บที่ปลอดภัย 
Storage Class 8B : สารไม่ติดไฟที่มีคุณสมบัติกัดกร่อน
เงื่อนไข: ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทำปฏิกิริยากับสารอื่นในขณะเกิดอุบัติเหตุ สามารถเก็บคละกันได้โดยการจัดเก็บแบบแยกห่าง เช่น แยกออกจากกันโดยมีกำแพงกั้น เว้นระยะปลอดภัยให้ห่าง เก็บในบ่อแยกจากกัน หรือในตู้เก็บที่ปลอดภัย 
Storage Class 10 : ของเหลวติดไฟที่ไม่อยู่ในประเภท 3A หรือ 3B
เงื่อนไข: อนุญาตให้เก็บคละได้ ถ้ามีข้อกำหนดความปลอดภัยสำหรับสินค้าคงคลังทั้งหมดโดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดเก็บวัตถุอันตรายประเภท 2B 
Storage Class 11 : ของแข็งติดไฟ
เงื่อนไข: อนุญาตให้เก็บคละได้ ถ้ามีข้อกำหนดความปลอดภัยสำหรับสินค้าคงคลังทั้งหมดโดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดเก็บวัตถุอันตรายประเภท 2B 
Storage Class 12 : ของเหลวไม่ติดไฟ
เงื่อนไข: อนุญาตให้เก็บคละได้ ถ้ามีข้อกำหนดความปลอดภัยสำหรับสินค้าคงคลังทั้งหมดโดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดเก็บวัตถุอันตรายประเภท 2B 
Storage Class 13 : ของแข็งไม่ติดไฟ
เงื่อนไข: อนุญาตให้เก็บคละได้ ถ้ามีข้อกำหนดความปลอดภัยสำหรับสินค้าคงคลังทั้งหมดโดยให้เป็นไปตามข้อกำหนดการจัดเก็บวัตถุอันตรายประเภท 2B 
จัดเก็บแบบคละได้กับสารที่มีประเภทการจัดเก็บดังต่อไปนี้
Storage Class 2B : ก๊าซภายใต้ความดันในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก (กระป๋องสเปรย์)

รวมบทความที่เกี่ยวข้อง

หน้าที่:    

การจำแนกประเภทสารเคมีและวัตถุอันตรายสำหรับการเก็บรักษา  (อ่าน  37,354 / ตอบ 0)
สัญลักษณ์แสดงความอันตรายของสารเคมีมีลักษณะอย่างไร  (อ่าน  88,783 / ตอบ 36)
มีข้อกำหนดสำหรับการจัดเก็บสารเคมีในอุตสาหกรรมหรือไม่  (อ่าน  61,347 / ตอบ 5)
การจัดเก็บสารเคมีแยกตามลักษณะอันตรายของ UN มีหลักเกณฑ์อย่างไร  (อ่าน  46,573 / ตอบ 6)
เก็บสารเคมีในห้องปฏิบัติการอย่างไรให้ปลอดภัย  (อ่าน  20,589 / ตอบ 2)
ควรจัดห้องปฏิบัติการอย่างไรให้เหมาะสม  (อ่าน  51,137 / ตอบ 9)
ลักษณะที่ดีของอาคารหรือโกดังเก็บสารเคมีเป็นอย่างไร  (อ่าน  24,093 / ตอบ 7)
สารเคมีที่เข้ากันไม่ได้ คืออะไร  (อ่าน  52,806 / ตอบ 2)
การจัดเก็บสารเคมีตามประเภททำได้อย่างไร  (อ่าน  42,430 / ตอบ 10)