สนับสนุนโดย 
สนับสนุนโดย
|
สนับสนุนโดย
|
ถาม-ตอบ
|
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่
1: คิดง่ายๆ นะครับ ตอบคำถามนี้ก่อนจะได้เข้าใจ คุณซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะตัวเคมี หรือ รูปร่าง รูปทรง ดีไซด์ (shape, surface and design) ครับ โดย: ปั๊ป 
[29 พ.ค. 2552 13:19]
|
| ข้อคิดเห็นที่
2: workshop การสัมมนา REACH 4 เดือนสุดท้ายของผู้ประกอบการไทย วันที่ 1 สิงหาคม 2551 http://www.chemtrack.org/Meeting/F27-11.pdf โดย: ปั๊ป
[29 พ.ค. 2552 13:27]
|
| ข้อคิดเห็นที่
3: ขอบคุณสำหรับ ลิงค์ที่ให้มานะคะ ได้ลองเข้าไปไปอ่านและทำความเข้าใจแล้วคะ ส่วนตัวเข้าใจดังนี้ คะ 1. น้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นผลิตภัณฑ์คะ ไม่แน่ใจว่าถูกหรือไม่ 2. หากดิฉัน เป็นผู้ส่งออกน้ำยาปรับผ้านุ่มไปอียู สิ่งที่ดิฉันต้องดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายตัวนี้ คือ เรียก/ขอ SDS ของสารเคมีที่อยู่ในตัวน้ำยาปรับผ่านุ่มนั้น และต้องทำการตรวจสอบถึงความถูกต้อง และ ข้อมูลอัพเดทหรือไม่ เพื่อเตรียมใช้ข้อมูลที่ได้มาทั้งหมดไว้เมื่อถูกเรียกจากผู้ซื้อในอียู เท่านี้ถือว่าครบถ้วน ใช่มั้ยคะ 3. หากพบว่า สารเคมีที่ผสมอยู่ในน้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่ครอบคุลมถึงการใช้เพื่อผลิตน้ำยาปรับผ้านุ่ม ต้องทำอย่างไร (เข้าใจว่ามีสองทางเลือกคือ จดเอาเองโดยผ่าน OR หรือไม่ก็ต้องแจ้งผู้ขายให้ทำการจดทะเบียน หรือขออนุญาตเพิ่มเติมใช่หรือไม่ ถ้าหากว่าผู้ขายไม่ทำให้ ควรทำอย่างไร 4. เคยอ่านพบว่า ในการตรวจสอบ SDS จากผู้จัดจำหน่ายนั้น ต้องดูว่า SDS นั้นของประเทศอะไร ด้วยเหตุผลอะไรคะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ โดย: kk [1 มิ.ย. 2552 14:53] |
| ข้อคิดเห็นที่
4: ขอถามเพิ่มเติมคะ ช่วยอธิบายให้เข้าใจง่ายๆได้มั้ยคะว่า article กับ sunstances/preparations in special container นี่มันต่างกันอย่างไร เพราะลองอ่านในเอกสารที่ให้มาแล้ว ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าเข้าใจถูก นอกจากนี้ช่วยยกตัวอย่างได้มั้ยคะว่า อะไรเป็นไม่เป็นบ้าง เผื่อจะเข้าใจมากยิ่งขึ้นหรือเห็นภาพชัดขึ้น โดย: kk [1 มิ.ย. 2552 15:00] |
| ข้อคิดเห็นที่
5: 1) ผิดครับ ดู ppt ที่ให้ไปหน้า 58 นะครับ ไม่ทราบว่า คุณซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะสมบัติของสารเคมี ที่มันทำให้ผ้านุ่มใช่มั๊ยครับ เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มมันก็เป็นของเหลว ไม่ shape / surface / design 2) ก่อนอื่นเลย ต้องดูว่า สารเคมีในน้ำยาปรับผ้านุ่มจดทะเบียนหรือยัง 3) ผู้ขายไม่ทำให้ ก็ต้องดูสภาพต่อรองของเราครับว่าเป็นอย่างไร 4) SDS ในแต่ละประเทศจะมีกฎหมายต่างกัน เช่น ใน US / EU ลองอ่าน Guidance on requirements for substances in articles ครับ http://guidance.echa.europa.eu/docs/guidance_document/articles_en.htm?time=1243850850 ลองตอบคำถามข้อ 1 - 5 ใน ppt ที่ให้ไปตอนต้นตั้งแต่หน้า 60 โดยใช้สินค้าเป็น thermometer, ปากกา อาจเข้าใจมากขึ้น โดย: ปั๊ป
[1 มิ.ย. 2552 17:14]
|
| ข้อคิดเห็นที่
6: หลังจากอ่าน guideline ที่ให้มาแล้วนั้น สามารลำดับความคิดในการจำแนกว่าสินค้าที่เราพิจารณานั้นเป็น เคมีภัณฑ์ หรือ ผลิตภัณฑ์ ได้ดังนี้คะ 1. ดูว่า รูปร่าง พื้นผิว หรือ การออกแบบนั้น มีความสำคัญต่อหน้าที่หลัก การทำงานหลัก ของผลิตภัณฑ์ มากกว่า ส่วนผสมทางเคมีหรือไม่ 2. ประเมินว่าการทำหน้าที่หลักของผลิตภัณฑ์นั้น เป็นเพราะลักษณะทางกายภาพหรือ ว่าคุณสมบัติทางเคมี 3. ดูวัตถุประสงค์ของผู้ผลิต และความต้องการใข้ของผู้บริโภคประกอบกัน ว่าสินค้าตัวนี้ใช้เพื่ออะไร ฉะนั้น น้ำยาปรับผ้านุ่มนั้น ถือว่าเป็นเคมีภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์ จึงไม่อยูในความหมายของผลิตภัณฑ์ ส่วนบรรจุภัณฑ์นั้นถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์แยกต่างหาก ซึ่งก็ต้องพิจารณาว่ามีสารเคมีที่ เป็นอันตรายหรือไม่ต่อไป โดย: kk [2 มิ.ย. 2552 10:56] |
| ข้อคิดเห็นที่
7: ครับ De facto หมายความว่าไงครับ โดย: ปั๊ป
[2 มิ.ย. 2552 11:59]
|
| ข้อคิดเห็นที่
8: De facto แปลว่า พฤตินัย คะ นั่นก็หมายถึงว่าดูข้อเท็จจริงเป็นหลัก โดย: kk [2 มิ.ย. 2552 14:35] |
| ข้อคิดเห็นที่
9: กฎหมาย หรือ เคมี ยากกว่ากันครับเนี๊ย โดย: ปั๊ป
[2 มิ.ย. 2552 15:10]
|
| ข้อคิดเห็นที่
10: ดีค่ะ โดย: กวาง [16 พ.ค. 2554 11:14] |
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้