สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
ถาม-ตอบ

ยาฆ่าหญ้า

เรียนถาม  กรณีตั้งครรภ์ได้ 4 เดือน  พอดีข้างบ้านฉีดยาฆ่าหญ้า จึงอยากสอบถามว่า สารพิษของยาฆ่าหญ้ามีอันตรายต่อครรภ์หรือไม่ และสารพิษของยาฆ่าหญ้ากี่วันจึงจะสลาย กรณีฝนตกน้ำฝนช่วยสลายได้หรือไม่   ขอบคุณครับ

โดย:  ผู้กำลังมีบุตร   [12 ก.ย. 2556 10:12]
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:  เมนูนานาสาระ และหมวด พิษวิทยา  /  สารป้องกันกำจัดศัตรูพืช/สารเคมีทางการเกษตร  /  อื่น ๆ
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

เรียน ท่านผู้กำลังมีบุตรครับ

ยินดีด้วยนะครับที่ท่านกำลังมีบุตร(หรือธิดาก็ตามแต่) ผมได้แต่หวังว่าภรรยาของท่านคงไม่ได้รับผลกระทบจากยาฆ่าหญ้านี้นะครับ

ปกติแล้ว ถ้าท่านไม่ได้สัมผัสกับสารนั้นๆโดยตรง ก็ไม่น่าจะมีผลมากนะครับ ผลกระทบเบื้องต้นที่เห็นชัดเจนที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องกลิ่นซึ่งผู้ที่ตั้งครรภ์ อาจไวต่อกลิ่นมากกว่าปกติและเกิดอาการไม่พึงประสงค์ได้ง่ายขึ้นครับ

แน่นอนอยู่แล้วว่ายาฆ่าหญ้า มีผลเสียต่อมนุษย์แน่นอน ถ้าเลี่ยง ไม่สัมผัสมันก็จะดีที่สุดครับ (กรณีของท่าน ผมเห็นใจจริงๆ ท่านจะย้ายบ้านหนีก็คงเป็นไปไม่ได้ เพื่อนบ้านกัน คุยกันปรึกษากันดีๆ มีวิธีกำจัดวัชพืชหรือหญ้าได้อีกมากมาย ที่ไม่ต้องมาเคืองกัน และจะทำให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขนะครับ) ท่านอาจต้องใช้วิธีเลี่ยงไปอยู่ที่อื่นก่อน เพื่อความสบายใจและมั่นใจ จนกว่าสารเคมีนี้จะสลายตัวไป

บอกยากครับว่าต้องใช้เวลากี่วัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับชนิดของสารนั้นๆ เท่าที่ผมค้นข้อมูลดูหลายๆตัว พบว่า
1. อายุครึ่งชีวิต(หมายถึง มันจะสลายตัวเหลือครึ่งหนึ่ง ของปริมาณตั้งต้น)ของสารพวกนี้ อยู่ระหว่าง 15-120 วัน (แล้วแต่ชนิดครับ)
  ครึ่งชีวิต15วัน หมายถึง ถ้าวันแรกมีปริมาณสารนี้ 100 กรัม อีก15วัน มันจะเหลือ 50 กรัม แล้วอีก15วันถัดไป มันจะเหลือครึ่งของ50 (คือ25กรัม) แล้วอีก15วันถัดไป มันก็จะเหลือครึ่งของ25 (คือ12.5กรัม) นั่นหมายถึง เริ่ม100กรัม 45วันเหลือ12.5กรัมครับ (ซึ่งก็ยังไม่หมดอยู่ดี)
 ถ้าครึ่งชีวิตยิ่งมาก ท่านก็พอเห็นนะครับว่ามันต้องใช้เวลามากขึ้น กว่าจะสลายหมด
2. การสลายตัวของสารพวกนี้ เกิดขึ้นได้หลากหลายแบบ และก็ขึ้นอยู่กับชนิดของสารนั้นๆด้วย มันอาจสลายโดยวิธีทางชีวภาพ (ถูกจุลินทรีย์ย่อยสลาย) วิธีทางกายภาพ(เกิดปฏิกริยากับแสงแดด) หรือวิธีทางเคมี(เกิดปฏิกริยากับกรด หรือด่างในสภาวะที่มีแบคทีเรียร่วมด้วย) เป็นไปได้ทั้งนั้นครับ ว่าแต่ยาที่เขาใช้นั้น คืออะไรล่ะครับ
3. ผมเข้าใจว่าผู้คิดหลักการผลิตสารฆ่าหญ้านั้น เขาต้องการให้หญ้าดูดซึมสารนั้นเข้าลำต้น แล้วค่อยไปทำลายตัวมันเอง มากกว่าจะให้มันไปทำลายหญ้าโดยตรงทันที ดังนั้นสารพวกนี้ ก็น่าจะคงทนพอควร คือไม่ระเหยหนีหายไปง่ายๆ แต่จะถูกดูดซึมเข้าต้นหญ้ามากกว่า
ถ้าดูจากข้อมูลทีค้นมานั้น สารพวกนี้มีค่าความดันไอค่อนข้างต่ำ(คือ ระเหยยากครับ) ท่านก็น่าจะสบายใจระดับนึงว่า มันไม่ระเหยให้ท่านสูดดมง่ายๆเท่าไรนัก แต่ ก็อีกแหละ ขึ้นอยู่กับว่ามันคืออะไร (หวังว่ามันคงไม่ใช่dichlobenil หรือชื่อการค้าคือCasoron ซึ่งตัวนี้ จะระเหยง่ายกว่าตัวอื่นๆเป็นสิบเป็นร้อยเท่าเลยครับ)

ก็ เรียนให้ทราบและหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมนะครับ ไม่ใช่ให้ท่านตระหนกตกใจครับ

โชคดีนะครับท่าน

โดย:  Prasit  [12 ก.ย. 2556 17:58]
ข้อคิดเห็นที่ 2:2

ขอขอบพระคุณครับที่กรุณาเสียสละเวลาอันมีค่า ของท่านมาตอบผม ข้อความที่ท่านกรุณาตอบมาเป็นเนื้อหาที่มีคุณค่าทางวิชาการและมีสาระมากครับ  และทำให้ผมและครอบครัวสบายใจขึ้นมาก ขอขอบพระคุณครับ

โดย:  ผู้กำลังมีบุตร  [13 ก.ย. 2556 17:23]
ข้อคิดเห็นที่ 1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ :3

ผมคิดว่ายังปลอดภัยอยู่ ถ้าหากได้รับเพียงครั้งเดียว
ะสารประเภทนี้อาจมีผลกระทบต่อระบบฮอร์โมนของแม่หรือการเติบโตของเด็กได้ แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน สำหรับเด็กในครรภ์การสร้างอวัยวะต่างๆ จะเสร็จในช่วงสามเดือนแรก ดังนั้นถ้าตั้งครรภ์ 4 เดือนจึงอาจไม่มีผลกระทบมาก เว้นแต่ได้รับหลายครั้งหรือรับครั้งละมากๆ

โดย:  นพ.พิบูล อิสสระพันธุ์ กรมควบคุมโรค  [19 ก.ย. 2556 14:35]
ข้อคิดเห็นที่ 3:4

ขอขอบพระคุณ คุณหมอพิบูลเป็นอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ที่กรุณาขยายความเพื่อความรู้ ความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้น

พร้อมกันนี้ ผมก็ขอเสนอแนะแนวทางปฏิบัติเพิ่มเติม เกี่ยวกับสารเคมีดังนี้

1. ถ้าท่านถูกสารเคมีใดก็ตาม ไม่ว่าจะทราบชนิด หรืออันตรายของมันหรือไม่ก็ตาม ขอให้ท่านคาดไว้ก่อนว่ามัน "อันตราย"
2. ท่านต้อง"กำจัด"สารเคมีที่สัมผัสถูกท่านโดยเร็ว (เร็วเท่าไร ดีเท่านั้น) วิธีกำจัดที่ปลอดภัยที่สุดคือ การใช้น้ำล้างออก และขอแนะนำว่าต้องล้างออกให้มากจริงๆ ไม่ใช่พอเปียกๆแฉะๆ ทั้งนี้เพื่อให้น้ำพาเอาสารเคมีออกไปให้มากที่สุด
หลายๆท่านมักจะสงสัยว่า ล้างออกมากๆนั้น มากขนาดไหน ซึ่งทั่วๆไปก็มักจะกำหนดให้ล้างออกเป็นเวลาอย่างน้อย 5-15นาที
3. ล้างตามด้วย"สบู่" ซึ่งเป็นตัวทำละลายอย่างอ่อน(ไม่อันตรายต่อร่างกาย) และจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างออกด้วยน้ำล้างสุดท้ายด้วย
4. พบแพทย์โดยด่วน พร้อมทั้งนำฉลาก(ถ้ามี) ของสารเคมีนั้นๆไปด้วย

ก็ หวังว่าคงเป็นข้อมูลเบื้องต้นเล็กๆน้อยๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกๆท่านด้วยนะครับ

ขอแสดงความนับถือ
Prasit

โดย:  Prasit  [23 ก.ย. 2556 11:59]
ข้อคิดเห็นที่ 4:5

บ้านที่รั้วติดกันไม่สมคควรใช้สารเคมีฆ่าหญ้า  เพราะทำให้กลิ่นคละคลุ้งปวดศรีษะ  จะไม่ให้เขาฉีดพ่นได้หรือไม่  เพราะเคยพูดคุยกับเขาแล้ว  เขาบอกว่าเป็นสิทธิของเขาเพราะฉีดในพื้นที่ของเขา  ไม่เกี่ยวกับคนข้างเคียง  ผมเป็นคนแพ้กลิ่นยาฆ่าหญ้ามาก  ฉีดทีไรต้องหาหมอทุกครั้ง  เวลาที่เขาฉีดเขาก็ไม่เคยแจ้งให้เรารู้ล่วงหน้า  ทนไม่ไหวแล้ว  แจ้งเจ้าหน้าที่แล้วเจ้าหน้าที่มาดูแล้ว  เจ้าหน้าที่บอกว่า  ๒-๓  วันกลิ่นก็จะหายไปเอง  ยาพวกหนี้ไม่มีอันตรายต่อคนเรา  เพราะคนเรามีกระดูกสันหลัง  มันจะฆ่าแต่หญ้า  เป็นความจริงหรือครับ    และถ้าเขาฉีดทุกปีผมก็ดมกลิ่นทุกปีก็คงจะชินกลิ่นไปเองใช่ไหมครับ  ระยะที่เขาฉีดยาห่างจากห้องนอนผมเพียง  ๑  เมตรเท่านั้นเอง    คงต้องขายบ้านพร้อมที่ดิน  ๒  งานกว่า  ทิ้งไปอยู่ที่อื่นน่าจะดี   หรือมีวิธีอื่นที่แก้ไขได้ช่วยแนะนำให้หน่อยเถอะครับจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง

โดย:  คนแพ้กลิ่น  [7 พ.ค. 2557 10:15]
ข้อคิดเห็นที่ 5:6

เรียน คนแพ้กลิ่น

เข้าใจ และน่าเห็นใจครับ
เขาพูดถูกครับ ว่าเป็นสิทธิของเขา ที่ฉีดในพื้นที่ของเขา ไม่เกี่ยวกับคนข้างเคียง

ทีนี้ ถ้าท่านลองๆเปิดเพลงในบ้านท่าน ให้ดังสุดๆเลย ในเวลาที่ข้างๆบ้านไม่ต้องการเสียง แล้วท่านก็ใช้เหตุผลเดียวกับที่เขาใช้ ท่านคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นครับ

การคำนึงถึงแต่สิทธิของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของผู้อื่น เป็นตัวการก่อปัญหาต่างๆมามากมายแล้วครับ

ท่านเองก็เหมือนมีเคราะห์กรรมอยู่ระดับนึง ที่แพ้กลิ่นสารชนิดนี้ แล้วก็มาบังเอิญเจอคนที่.....เข้าอีกด้วย

เอาเป็นว่า ท่านถ้าท่านลองใช้วิธีด้าน"นิติ" แล้วก็ยังไม่ได้ผล ท่านคงต้องป้องกัน/แก้ไขที่ตัวท่านเองครับ อย่างเช่น
- ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท ในระหว่างที่กลิ่นยังรุนแรงอยู่
- ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีระบบกำจัดกลิ่น
- เสนอทางออกให้เพื่อนบ้าน โดยท่านจะหาคนมากำจัดหญ้าให้ และคิดค่าใช้จ่ายเขาเทียบเท่าค่ายาฆ่าหญ้าเท่านั้น (ซึ่งเขาต้องจ่ายค่ายานี้อยู่แล้ว) ขอให้ถือว่า ท่านจ่ายไปเป็นค่าป้องกันกลิ่นยาฆ่าหญ้าครับ (จะเป็นไปได้ไม๊น๊อ และ จะเกิดปัญหาอื่นตามมาไม๊นะ)
- ถ้าท่านไม่มีทางเลือกจริงๆแล้ว คงต้องย้ายบ้านล่ะครับ (หวังว่าคงไม่ไปเจอยาฆ่าอะไรจากเพื่อนบ้านในที่ใหม่ๆอีกนะครับ)

ลองดูนะครับ หาทางออกที่ win-win กันทุกฝ่าย จะเป็นประโยชน์ที่สุดครับ

ขอแสดงความนับถือ
Prasit

โดย:  Prasit  [21 พ.ค. 2557 10:45]
ข้อคิดเห็นที่ 6:8

-แล้วถ้าเด็ก( ๕ ขวบ) ป่วยเพราะเขาฉีดยาฆ่าหญ้าในที่นาติดบ้านเราล่ะครับ ผิดใหม คนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้ก็เป็นเหมือนกัน อาเจียน ปวดหัว กว่าสองวัน ผู้ใหญ่ต้องไปฉีดยา เด็กทานอะไรไม่ได้อาเจียนออกหมด ไปพบแพทย์ก็ให้ยามาทาน ถ้าเป็นชุมชนน่าจะผิดนะครับ แบบนี้แจ้งความดำเนินคดีได้ใช่ไหมครับถ้าทำให้คนอื่นเจ็บป่วย จะได้ทำเป็นตัวอย่าง เพราะเป็นสิทธิของเราที่จะอยู่ด้วยความปลอดภัย เหมือนที่เขาอ้างว่าสิทธิในที่ดินของเขา

โดย:  สงสารลูก  [29 ก.ค. 2557 08:08]
ข้อคิดเห็นที่ 7:9

ผู้ที่ได้รับสารเคมีจรกยาฆ่าหญ้าจะมีอาการแบบไหนหรอค่ะแล้วมีวิธีแก้อย่างไร

โดย:  กนกพร คำพระวงศ์  [9 ส.ค. 2557 19:30]
ข้อคิดเห็นที่ 8:10

คือ อยากจะถามว่า ตั้งท้องได้ 2-3เดือน แล้ว สิ่งแวดล้อมแถวบ้านใช้ยาฆ่าหญ่าเปนส่วนใหญ่ แต่หนูไม่ได้สัมผัสหรือสูดดมโดยตรง แต่ก็พยายามเลี่ยงแล้วแต่เลี่ยงไม่ได้จิงๆ. บางครั้งอาจได้กลิ่นบ้างก็พยายามเอาผ้ามาปิดจมูกแล้วเดินหนี. อยากจะทราบว่าจะมีผลกระทบต่อลูกในท้องหรือไม่

โดย:  คุณแม่  [9 ส.ค. 2557 19:41]
ข้อคิดเห็นที่ 9:12

เท่าผมศึกษาและทดลองใช้จุลินทรีย์กลุ่มท่ีย่อยสลายซากพืชซึ่งรวมถึงเมล็ดของพืชเป็นการตัดวงจรชีวิตการเกิดวัชพืชน่าจะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับพ่ีน้องเราได้ โดยการใช้จุลินทรีย์จาวปลวกผสมกับกากน้ำตาล ฉีดพ่นลงในแปลงดิน ก่อนไถกลบเพื่อให้เกิดการย่อยสลายตามขบวนการธรรมชาติ ซึ่งการทำจุลินทรีย์จาวปลวกเราหาวีิธีทำได้ใน net 8yi[

โดย:  นายมานิต ทิพนัส  [2 ก.ย. 2557 10:59]
ข้อคิดเห็นที่ 10:14

มีคนมาฉีดยาฆ่าหญ้าข้างบ้านค่ะแล้วเราเป็นที่มองเรื่องแบบนี้เป็นเรื่ื่องสำคัญมากค่ะ คือเราเป็นหอบหืดค่ะแต่ไม่รุนแรง จะมีผลอันตรายมากน้อยแค่ไหนค่ะถ้าเราสูดดมเข้าไป แต่พอเขาฉีดยาฆ่าหญ้าเรารู้สึกเวียนหัวค่ะแล้วก็แน่นหน้าอกค่ะเหมือนน้ำลายจะฟูปากค่ะความรู้สึกแบบนั้นใครรู้บ้างค่ะ

โดย:  รักสุขภาพ  [16 ต.ค. 2560 16:53]
ข้อคิดเห็นที่ 11:15

อันนี้หนักสุดค่ะรอบบ้านห่างบ้านไม่ถึง30เมตร
พอดีเพิ่งคลอดลูกด้21วัน. สงสารลูกมากค่ะ
จะอันตรายมากมั้ยคะ..

โดย:  อิ๋ม  [13 เม.ย. 2561 22:27]
ข้อคิดเห็นที่ 12:16

มีกฎหมายกำหนดหรือป่าวครับว่า  การกำจัดหญ้าโดยใช้ยาพ่น ต้องห่างจากรั้วบ้านข้างเคียง ไม่ต่ำกี่เมตร  เพราะยามันจะปลิวเข้าบ้านคนอื่น
เราจะเอากฎหมายมาเล่นงานพวกคนเห็นแก่ตัวได้ป่าวครับ  ถ้าคุยแล้วเตือนแล้ว ยังเฉยอยู่อ่ะครับ

โดย:  Panupong  [16 ก.ย. 2562 18:01]
ข้อคิดเห็นที่ 13:17

วัตถุอันตราย มาฉีดพ่นห่างที่ผมนอน3ม. ผมนอนไม่ได้ครับ มีข้อกฎหมายบังคับได้ไหมครับ

โดย:  จุฬา รักษาศิลป์  [26 พ.ค. 2563 19:41]
ข้อคิดเห็นที่ 14:18

ตั้งครรภ์7สัปดาห์ค่ะ เมื่อเช้าขับรถผ่านตลอดข้างทางเพิ่งฉีดยาฆ่าหญ้ากลิ่นแรงมาก สูดดมเต็มที่ไป1ครั้งรีบอุดจมูกแต่ก็ยังได้กลิ่นประมาณเกือบ5นาที กลิ่นเหมือนขมอยู่ในลำคอ แบบนี้จะเป็นอันตรายไหมคะ กังวลใจมาก

โดย:  คุณแม่ตั้งครรภ์7 สัปดาห์  [16 มิ.ย. 2563 12:09]
ข้อคิดเห็นที่ 15:19

ตั้งครรภ์ได้12สัปดาห์ แต่ไปพ่นยาฆ่าหญ้าที่สวนหลายครั้ง แต่ใช้ผ้าปิดจมูกแต่สึกได้กลิ่นของยา แบบนี้จะมีผลกระทบต่อลูกในครรภ์ไหมคะ

โดย:  มาย  [27 ส.ค. 2565 18:44]
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้

หากท่านต้องการแสดงข้อคิดเห็นหรือแสดงความคิดเห็นที่อยู่ในประเด็นเดียวกับหัวข้อนี้ ให้กรอกข้อมูล แล้วกดปุ่มส่งข้อความด้านล่างนี้