|
ข้อคิดเห็นที่
3: ดิฉันกำลังดูรายการพิเศษในทีวีที่ฝรั่งเศสถึงมหันตรายของแร่ใยหิน รุ้สึกเป็นห่วงที่เมืองไทยเลยเข้าเนตหาดู เจอเวปนี้เลยมาโพสต์สนับสนุน คห2 พี่เล็ก ในระยะแรกที่มีการใช้แร่ใยหินในอุตสาหกรรมต่างๆ พวกคนงานไม่ได้รับการป้องกันใดๆต้องใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะมัการตระหนัก และยอมรัยถึงมหันตภัยนี้ในฝรั่งเศสตัวเลขการเสียชีวิตจากมะเร็งที่แร่ใยหินเป็นเหตุมีมากกว่า100000รายไม่นับผู้ป่วยในปัขขุบัน นับแต่ปี1997ฝรั่งเศสห้ามการใช้แร่ใยหินทุกชนิดอย่างเด็ดขาด แต่อัตราการตายยังอยุ่ที่3000ต่อปี เพราะการสร้างอาคารบ้านเรือนต่างก็ใช้แร่ใยหินทั้งสิ้นก่อนปี1997 พวกเราทุกคนต่างก็หายใจเอาฝุ่นของแร่ใยหินเข้าไปแล้วทั้งสิ้น ขอให้ทางการไทยและคนไทยเฝ้าระวังด้วยค่ะ โดย: คนไทยต่างแดน [29 ม.ค. 2553 06:00] |
ข้อคิดเห็นที่
4: Hi, my Aunt was diagnosed with Mesothelioma about 10 weeks ago, she isn't doing all right and her family unit is going to work at the matter in court against the insurance company of her former employer. I'm curious how mesothelioma settlements work as a result of I know they might much rather settle than move to court and pay out all that money in legal fees. Are there different varieties of damages that can be awarded? โดย: Teektwene [28 ก.พ. 2553 19:52] |
ข้อคิดเห็นที่
5: ผมทะยอยอ่านบทความเรื่องอันตรายจากแร่ใยหินก็ได้ความรู้ว่าของบ้านเราจะใช้ใยหินสีขาวที่เรียกว่าasbestos ขณะที่ตัวที่อันตรายเป็นแบบสีฟ้าและยังไม่มีความชัดเจนในการใช้วัสดุทดแทนว่าทดแทนได้จริงอย่างที่กล่าวอ้างซึ่งในมุมของนักเศษฐศาสตร์ก็ต้องยอมรับว่า ผลกระทบที่จะต้องนำเข้าวัสดุทดแทนใยหินอาจจะสูงกว่า มากและไม่ได้ตอบโจทย์ว่าอย่างนักวิชาการและ NGOทั้งหลายท่านจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการสร้างบ้าน1หลังของผู้มีรายได้น้อยจะลดลงได้อย่างไรผมจึงฝากข้อคิดเรื่องความสมดุลย์ของธรรมชาติเราต้องยอมรับว่าประเทศไทยไม่ได้ยิ่งใหญ่เท่าจีนแต่เรากำลังพยายามจะไปเทียบเท่าประเทศที่เจริญแล้วขออย่ามองมุมเดียวช่วยกันมองต่างมุมด้วยครับ เดินสายกลางและค่อยเปลี่ยนแปลงตามข้อเท็จจริง โดย: MBE [24 มี.ค. 2553 01:13] |
ข้อคิดเห็นที่
6: ประเทศจีน อินเดีย มีฐานะทางเศรษฐกิจและมีความเจริญด้านเทคโนโลยียังไม่มีแนวคิดเรื่องการยกเลิกการใช้ใยหินเพราะยังไม่มีการพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าโอกาสที่จะเข้าสู่รายการมีมากจริง และ ปริมาณที่สูดเข้าไปจะมีปริมาณมากพอทำให้เกิดอันตรายจริง ในมุมของนักเศรษฐศาสตร์ เรากำลังนำพาประเทศชาติลงเหวเหมือนโครงการมาตพุด และก็จะทำให้ความสามารถในการแข็งขันของประเทศชาติเสียไป ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่บริโภคสินค้าราคาที่ถูกก็จะต้องมีภาระมากขึ้น อย่าตกเป็นเหยื่อของระบบทุนนิยมที่ไม่สามารถแข่งขันอย่างเป็นธรรม โดย: MBE [24 มี.ค. 2553 01:21] |
ข้อคิดเห็นที่
7: ผมดูรายการจากประเทศออสเตรเลีย เห็นว่าผลกระทบของมันอาจใช้เวลานานตั้งแต่ 20 ปีถึง 50 ปี นั่นหมายความว่าหากเราสัมผัสกับมัน มันอาจส่งผลกระทบในอีก 30 ปีข้างหน้า มีครอบครัวหนึ่งที่มีการจ้างคนมาปรับปรุงบ้านของตัวเอง มีการตัดแผ่นผนังที่มส่วนผสมของ asbertos เผอิญครอบครัวนี้มีลูกอายุ 5 ขวบ เวลาผ่านไป 20 ปีลูกเขาตายเพราะมะเร็งที่เกิดจาก asbertos สิ่งนี้ผมว่าน่ากลัวกว่าต้นทุนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงวัสดุซะอีก ต้องอย่าลืมว่าสิ่งสุดท้ายที่มนุษย์มีชีวิตอยู่ก็เพื่อคนรุ่นหลัง ลูกหลาน ผมยอมจ่ายมากขึ้นเพื่อเลี่ยงการใช้วัสดุอันตรายครับ โดย: Newbie [20 มิ.ย. 2553 16:14] |
ข้อคิดเห็นที่
9: ประเทศไทยยังไม่มีการเสียชีวิตของผู้ที่ใช้แร่ใยหินนะครับ และแร่ใยหินไม่ได้มีอันตรายทุกชนิดอ่านข้อมูลได้ที่ http://www.chrysotile.co.th ครับ ข้อเท็จจริงอีกด้าน โดย: chrysotile [27 ธ.ค. 2555 21:56] |