สนับสนุนโดย 
สนับสนุนโดย
|
สนับสนุนโดย
|
ถาม-ตอบ
|
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่
1: End product เป็นอะไรครับ >> substance, preparation หรือ article โดย: ปั๊ป 
[6 มิ.ย. 2551 13:13]
|
| ข้อคิดเห็นที่
2: End product เป็น Substance ค่ะ โดย: เอ [6 มิ.ย. 2551 15:36] |
| ข้อคิดเห็นที่
3: คุณเอครับ จาดคำถามคิดว่าคุณเอสับสน ไม่งั้นผมก็คงสับสนเองครับ "แต่ทางเรา​ไม่​รู้​ Tonnage Band ​ของ​ Raw Materials" >> คุณเอ สั่ง Raw material มาใช้ แต่ไม่ทราบว่าสั่งมาเท่าใด ?? "ใน​ End product ​ของเรา​ไม่​มีตัว​ Raw Materials ​หลงเหลือ​อยู่" >> คุณเอ ครับ โรงงานคุณเออยู่ที่เมืองไทยใช่หรือไม่ครับ ถ้าอยู่เมืองไทยสนใจเฉพาะสารที่จะส่งไปขายครับ ถ้าอยู่ใน EU ก็ต้องสนใจ raw mat ด้วย วันที่ 25 จะอธิบายเรื่องนี้ด้วยครับ โดย: ปั๊ป
[8 มิ.ย. 2551 14:35]
|
ข้อคิดเห็นที่
1 ของผู้ทรงคุณวุฒิ  :สหภาพยุโรปให้จดทะเบียนสารเคมีที่นำเข้าไปในสหภาพ หากสินค้าที่นำเข้าไม่มีสารที่ใช้ผลิตสินค้านั้น ผู้ส่งสินค้าเข้าไปขายก็ไม่ต้องจดทะเบียนสารนั้น ( เห็นคุณบอกว่าไม่มีตัววัตถุดิบเหลืออยู่ในสินค้า) โดย: sos [9 มิ.ย. 2551 09:13](แก้ไขล่าสุด: 9 มิ.ย. 2551 09:13) |
| ข้อคิดเห็นที่
4: สำหรับ Raw Material ที่เราซื้อมาใช้ ทาง Supplier เค้าไม่จดทะเบียน REACH แล้วเรายังสามารถใช้ Raw Material นั้นได้อีกเหรอคะ โดย: เอ [9 มิ.ย. 2551 10:18] |
| ข้อคิดเห็นที่
5: ตรวจสอบบทบาทหน้าที่ของตนก่อนครับ จะได้ไม่ทำอะไรซ้ำซ้อน หรือทำในสิ่งที่ไม่ต้องทำ ควรรู้ก่อนว่า คุณอยู่ตำแหน่งไหนใน REACH เริ่มใหม่จาก http://reach.jrc.it/navigator_en.htm โดย: ปั๊ป
[9 มิ.ย. 2551 11:08]
|
| ข้อคิดเห็นที่
6: คือทางเรากำลังจะว่าจ้าง Consultant น่ะค่ะ เค้าถามกลับมาว่า มีจำนวน Substance ทั้งหมดเท่าไหร่ เพื่อเป็นการต่อรองราคา ก็เลยจะรวบรวมจำนวนที่ต้องจดทะเบียนจริงๆ แน่ๆ ชัวร์ๆ โดย: เอ [9 มิ.ย. 2551 12:35] |
| ข้อคิดเห็นที่
7: ครับ ที่ปรึกษา เค้าไม่ดูให้หรือครับว่าควรจดอะไรบ้าง ก่อนเซ็นว่าจ้าง แบบดู pre-lim ให้ก่อน ผมว่าน่าจะ fair กว่านะครับ ถ้าให้ที่ปรึกษาดูให้ก่อน เค้าคิดค่าดูแพงหรือครับ ไหนไหนก็จ้างแล้ว คงเพิ่มเงินอีกไม่มากมั๊งครับ ถ้าจะให้ดูตั้งแต่ตั้น ปล. การมีความรู้เพื่อเท่าทันที่ปรึกษาก็เป็นสิ่งจำเป็นครับ โดย: ปั๊ป
[9 มิ.ย. 2551 14:01](แก้ไขล่าสุด: 9 มิ.ย. 2551 14:09)
|
| ข้อคิดเห็นที่
8: ค่าที่ปรึกษาแพงมากๆค่ะ คิดเป็น ต่อ Substance ต่อ เดือน ค่า SIEF คิดราคาเป็นต่อชั่วโมง และทางบริษัทมี substance ทั้งหมด 70 substances ซึ่งจะเป็นเงินมหาศาลมากๆ และ Consultant ทุกเจ้าราคาจะต่างกันไม่มากนัก REACH เป็นการตั้งกำแพงการค้าของ EU และเป็นการหางาน หาเงินเข้า EU อย่างแท้จริง แถมยังขูดเลือดขูดเนื้อ Non-EU อีกต่างหาก โดย: เอ [9 มิ.ย. 2551 16:00] |
| ข้อคิดเห็นที่
9: ต่อเดือน เหรอครับ ?? โอ้ !! อันนี้แพงครับ เค้าทำอะไรให้ถึงคิดต่อเดือนครับ ่ค่า SIEF ต่อชั่วโมง นี่ เห็นเกือบทุกที่ครับ อย่าลืม ค่าเครื่องบิน ค่าโรงแรม และค่าพาหนะด้วยนะครับ ถ้าต้องไปประชุมเห็นหน้ากัน OR เค้าคิดอยู่แล้วครับ แต่อันนี้ตอบฟรีนะครับ ว่า คุณเอ เป็นโรงงานในประเทศไทย จดทะเบียนเฉพาะสารเคมีที่ถึงเกณฑ์ที่ส่งไปยัง EU เช่น A + B -> C ส่ง C ไป EU ก็ดูเฉพาะ C ว่าถึงเกณฑ์หรือเปล่า ขอย้ำซักนิดว่า C คือ compound เกิดใหม่จากปฏิกริยาของ A และ B กล่าวนี้ในที่นี่ C คือ substance ไม่ใช่ preparation กระจ่างขึ้นมั๊ยครับ คาดว่าอาจจะลดจาก 70 นะครับ ที่ว่า REACH เป็นกำแพงการค้านี่ขึ้นกับมุมมองครับ เพราะทาง EU เองไม่ถือว่าเป็นการกีดกัน แต่เป็นการรักษาสุขอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม และบางอย่างก็ทำเองได้ไม่ยาก เพียงศึกษาข้อมูลให้ถ้วนทั่ว และขยันอ่านครับ เพราะไม่งั้น consult อยากได้อะไร ก็ต้องให้เค้า ถ้าไม่รู้ ทั้งๆที่อาจจะไม่จำเป็น โดย: ปั๊ป
[9 มิ.ย. 2551 21:26](แก้ไขล่าสุด: 9 มิ.ย. 2551 21:27)
|
| ข้อคิดเห็นที่
10: ขอแสดงความคิดเห็นเรื่อง REACH เป็นกำแพงการค้าอีกหน่อยนะคะ ที่คิดว่าเป็นกำแพงภาษี ก็เพราะว่าทุกกระบวนการของ REACH ต้องใช้เงินเยอะมากๆๆ ถ้า EU อยากดูแลสุขอนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจริงๆ ต้องเป็นราคาที่สมเหตุสมผลกว่านี้ แล้วยิ่งถ้าเป็นพวก Non-EU ต้องเสียเงินไปจ้าง Only Representative ซึ่งเป็นการเสียเงินทั้ง 2 ด้าน ทำให้ต้นทุนเรามากขึ้น ของที่เราขายก็ต้องแพงกว่า Manufacturer ใน EU อยู่แล้ว ถ้า EU จริงใจจริงๆ Non-EU ต้องสามารถยื่นจดทะเบียนเองได้ ทำไมต้องให้เราไปเสียเงินหลายด้านด้วย คำที่บอกว่า เพื่ออนามัยของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นข้ออ้างที่ดูดี เท่านั้นเอง ปล. ความคิดอาจจะดูรุนแรงมากไปหน่อย แต่สุดท้ายเราก็ต้องทำตามเค้าอยู่ดี ...เฮอๆๆๆ ใช่มั๊ยคะ โดย: เอ [10 มิ.ย. 2551 14:15] |
| ข้อคิดเห็นที่
11: คำถามนี้ ตอบได้ง่ายๆ ครับ EU จะตอบว่า ชั้นบังคับใช้กฎหมายในบ้านของชั้นไม่เกี่ยวกับเธอ เพราะ ECHA ยังตอบอยู่เสมอว่า non-EU ไม่มีหน้าที่ตาม REACH โดย: ปั๊ป
[11 มิ.ย. 2551 19:31]
|
| ข้อคิดเห็นที่
12: คำถามนี้ ตอบได้ง่ายๆ ครับ EU จะตอบว่า ชั้นบังคับใช้กฎหมายในบ้านของชั้นไม่เกี่ยวกับเธอ เพราะ ECHA ยังตอบอยู่เสมอว่า non-EU ไม่มีหน้าที่ตาม REACH >>> เป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุด เพราะว่า ถาม ECHA ไป จะได้คำตอบแบบนี้เสมอ ตามนี้..... REACH only applies to actors established in the European Community and therefore non-Community companies are not bound by the obligations of REACH. The responsibility for fulfilling the obligations of REACH, such as pre-registration or registration lies with European importers or ‘only representatives’ established according to Article 8 of the REACH Regulation. โดย: เอ [12 มิ.ย. 2551 13:20] |
| ข้อคิดเห็นที่
13: แล้วถูกมั๊ยครับ ? โดย: ปั๊ป
[12 มิ.ย. 2551 14:47]
|
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้