สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
เรียนรู้จากข่าว

รถพ่วงเทรเลอร์ 18 ล้อบรรทุกกรดจาก อ.หาดใหญ่ เกิดพลิกคว่ำแถวถนนเพชรเกษม ต.นาหูกวาง ใกล้โรงพยาบาลทับสะแก

ผู้เขียน: รศ.สุชาตา ชินะจิตร
หน่วยงาน: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
วันที่: 2 มี.ค. 2548

          เป็นข่าวอีกแล้ว เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2548 มีรถพ่วงเทรเลอร์ 18 ล้อบรรทุกกรดจาก อ.หาดใหญ่ จะไปส่งที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เกิดพลิกคว่ำแถวถนนเพชรเกษม ต.นาหูกวาง ใกล้โรงพยาบาลทับสะแก รถเสียหลักพลิกคว่ำเมื่อถึงทางโค้งอันตรายลงจากเนินและมีฝนตกถนนลื่น ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้สั่งปิดถนนโดยให้รถวิ่งขาล่องใต้วิ่งทางเดียว และกันคนเข้าใกล้ในระยะ 200 เมตร ใช้เวลา 6 ชั่วโมงจึงยกซากรถบรรทุกออกได้ กรดที่รถคันนี้บรรทุกมาคือ กรดอะคริลิกข้างรถเขียนว่าวัตถุอันตราย

          เวลามีรถบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำและมีการรั่วไหล สิ่งที่ประชาชนทั่วไปควรทราบ คือ ให้สังเกตจากระยะห่างว่ามีป้ายเตือนอะไรที่ตัวถังรถบ้าง รถประเภทนี้คนขับจะต้องมีใบขับขี่ประเภทที่ 4 คือ ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะให้ขับรถบรรทุกสารอันตรายได้ คนขับจะต้องมีใบกำกับการขนส่งที่มีรายละเอียดว่าจะนำอะไรไปส่งที่ไหนพร้อมเอกสารความปลอดภัย MSDS (Material Safety Data Sheet) ซึ่งมีรายละเอียดของข้อมูลสารและวิธีการจัดการ ข้างรถจะเห็นป้ายเตือนอันตราย หมายถึง สารกัดกร่อนและไวไฟด้วยและมีหมายเลข UN No. เช่น 2218 (ตามข่าวไม่ได้รายงาน) ซึ่งเป็นรหัสบอกถึงวิธีการจัดการกับสารเหล่านี้เมื่อเกิดเหตุในการขนส่ง กรณีนี้จะบอกว่าต้องใช้ผลเคมีแห้งในการดับไฟ และใช้ทรายดูดซับแล้วนำไปกำจัด ส่วนพิษกัดกร่อนจะทำให้ระคายผิวหนังและตา  หากสูดดมเข้าไปมาก ๆ อาจเกิดอาการชัก กล่องเสียงและหลอดลมใหญ่อักเสบ บวมน้ำ ปวดแสบปวดร้อนข้อมูลเหล่านี้เปิดดูได้จาก http://www.chemtrack.org ผู้พบเหตุไม่ควรเข้าไปจัดการด้วยตนเองแต่ควรรายงานเครื่องหมายเตือนที่เห็น ชื่อสาร (ถ้ามี) หรือ UN No.

 

 
  ข้อคิดเห็น
   
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

ขับรถบรรทุกวัตถุอันตรายมีใบขับขี่ประเภท2ไม่มีที่4ผิดฐานอะไรโทษเท่าไรปรับที่ไหน

โดย:  ชัยยะ  [26 ม.ค. 2553 23:35]
 
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น