IFCS (Intergovernmental Forum on Chemical Safety) ฉบับที่ 5 เล่มที่ 10 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2548 ได้รายงานผลการตรวจหาสารพิษในเลือดของผู้หญิง 3 รุ่นจาก 13 ครอบครัวในยุโรป 12 ประเทศ โดยตรวจหาสารเคมีในเลือด 107 ชนิด ซึ่งรวม ดีดีที พีซีบี สารหน่วงการติดไฟจำพวกโบรมีน สารพวกฟลูออริเนตที่ใช้ในกระป๋องสเปรย์ ฯลฯ สารเหล่านี้ส่วนหนึ่งเป็นสารต้องห้ามที่ทุกประเทศจะดำเนินการตามมาตรการของอนุสัญญากรุงสต็อกโฮล์มว่าด้วยสารมลพิษที่ตกค้างยาวนาน (POPs) ผลการสำรวจพบว่าในรุ่นของยายพบสาร 63 ชนิด ในรุ่นแม่พบ 49 ชนิด แต่ในรุ่นลูกกลับพบมากกว่ารุ่นแม่ คือ พบถึง 59 ชนิด ทั้ง ๆ ที่ควรจะน้อยลงเพราะเป็นรุ่นหลังจากที่มีมาตรการหยุดใช้ไปแล้ว สำหรับรุ่นยายนั้นเป็นไปได้ว่าขณะนั้นยังมีการใช้สารเคมีเหล่านี้อยู่ ผลการศึกษานี้เตือนให้ทราบว่าแม้จะมีการหยุดใช้หรือระมัดระวังในการใช้สารเคมีเข้มงวดขึ้นแล้ว ยังมีการตกค้างและเด็กยังมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกาย สารกลุ่มที่อยู่ภายใต้อนุสัญญา POPs นี้มีสมบัติเป็นพิษ ย่อยสลายได้ยาก สะสมในสิ่งมีชีวิต และก่อผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์บ่งชี้ว่าการได้รับสารกลุ่มนี้เข้าสู่ร่างกายในปริมาณน้อยก็ทำให้เกิดมะเร็งได้ เป็นอันตรายต่อระบบประสาทส่วนกลาง มีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและระบบสืบพันธุ์และต่อการเจริญเติบโตของทารก จึงได้มีข้อตกลงระหว่างประเทศที่จะเลิกผลิต ใช้ นำเข้า และส่งออกสารเคมี 9 ชนิดก่อน |