เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่าพื้นที่ลุ่มน้ำแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีการปนเปื้อนของแคดเมียมในสภาพแวดล้อมในระดับที่น่าห่วงใยและต้องการการแก้ไขและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ วันนี้ผู้เดือดร้อนยังคงรวมตัวกันเรียกร้องการเยียวยาดังปรากฏเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เมื่อปี พ.ศ. 2547 เคยมีการตรวจสอบดินในนาข้าวพบว่ามีแคดเมียมอยู่ในช่วง 3.4 - 284 มิลลิกรัมแคดเมียม/กิโลกรัมของดิน ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานของยุโรปที่กำหนดไว้ คือ 3 มิลลิกรัมแคดเมียม/กิโลกรัมของดิน ส่งผลถึงพืชผลทางการเกษตรซึ่งพบว่า มีแคดเมียมในเมล็ดข้าวถึง 0.1 - 44 มิลลิกรัมแคดเมียม/กิโลกรัมของข้าว สูงกว่าค่ามาตรฐานของไทยที่กำหนดไว้ที่ 0.043 มิลลิกรัมแคดเมียม/กิโลกรัมของข้าว รวมถึงกระเทียม ซึ่งสูงเกินมาตรฐานถึง 126 เท่า และในถั่วเหลืองเกินมาตรฐาน 16 เท่า
หากผู้ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่แม่ตาวคิดว่าตัวเองรอดพ้นจากแคดเมียมแล้ว คงต้องคิดใหม่ เพราะหลายอย่างในชีวิตประจำวันใช่ว่าจะปลอดจากแคดเมียม เนื่องจากแคดเมียมถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางทั้งทางอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ผลิตภัณฑ์หลายชนิดถึงกับมีมาตรฐานกำหนดความเข้มข้นของแคดเมียมที่ยอมให้มีได้ เช่น ยาสำเร็จรูปที่เป็นสูตรยาแผนโบราณให้มีปริมาณแคดเมียมได้ไม่เกิน 0.3 ส่วนในล้านส่วน ในน้ำดื่มอนุญาตให้มีได้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร ส่วนที่สร้างผลกระทบมากๆ คือการปนเปื้อนของแคดเมียมในอาหารทะเลซึ่งเป็นสินค้าส่งออกของไทยที่สำคัญรายการหนึ่ง มาตรฐานปริมาณแดคเมียมระหว่างประเทศยังไม่ถึงกับกำหนดไว้แน่นอน แต่มีการเสนอค่าไว้เป็นแนวพิจารณาคือ สำหรับสัตว์น้ำมีเปลือก เช่น กุ้ง ยกเว้นล็อบเตอร์และเนื้อปูที่มีสีแดง (ส่วนก้ามปู) 0.5 มิลลิกรัม/กิโลกรัม. กลุ่มมอลลัสค์ส เช่น หอยและหมึก 1.0 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ส่วนมาตรฐานที่ประเทศไทยกำหนดไว้พวกมอลลัสค์สคือ 2 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ผลิตภัณฑ์กุ้ง 1 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
จากข้อมูลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์หมึกส่งออกประจำปี 2546 ของกองตรวจสอบรับรองมาตรฐานคุณภาพสัตว์น้ำและ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ กรมประมง พบว่า ค่าเฉลี่ยแคดเมียมที่ตรวจพบในหมึกกล้วย หมึกกระดอง และหมึกสาย คือ 0.28 0.32 และ 0.47 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ตามลำดับ และจากข้อมูลการศึกษาการปนเปื้อนของแคดเมียมในหมึกระหว่างปี พ.ศ. 2535 - 2543 ของภาควิชาเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พบว่า ค่าเฉลี่ยแคดเมียมที่ตรวจพบ คือ 0.89 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ส่วนอาหารทั่วไปมีแคดเมียมน้อยกว่า 0.05 มิลลิกรัม/กิโลกรัม ไตของสัตว์บก เช่น วัว ควาย ไก่ หมู มีการปนเปื้อนแคดเมียมสูงประมาณ 10 มิลลิกรัม/กิโลกรัม
นอกจากอาหารแล้ว สำหรับผู้ที่ยังสูบบุหรี่มีข้อมูลว่า บุหรี่ 1 มวนมีแคดเมียม 1 – 2 ไมโครกรัม และ 10% ของแคดเมียมจะถูกหายใจเข้าไปเวลาสูบ
อย่างไรก็ดี องค์การอนามัยโลก/องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (1989) ได้กำหนดปริมาณแคดเมียมสูงสุดที่ร่างกายรับได้ไว้ที่ 7ไมโครกรัม/กิโลกรัม/คน (สำหรับคนที่มีน้ำหนักตัว 60 กิโลกรัม) เราคงต้องเอาใจใส่เรื่องอาหารการกินรวมถึงการใช้ชีวิตด้านอื่นด้วย เพื่อสุขภาพที่ดีของเรา
ที่มาของข้อมูล :
http://www.dmr.go.th/news/17_01_47_2.html
http://www.fisheries.go.th/industry/news/art2Cadmium.htm
http://www.fisheries.go.th/rgm-samutsa/standard.htm
http://www.fisheries.go.th/quality/detail_knowledge/food_contaminant.htm
http://www.pcd.go.th |