เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2547 โรงงานบุญเหลือดอกไม้ไฟ ต.บ้านเกาะ จ.พระนครศรีอยุธยา ระเบิดมีผู้เสียชีวิต 14 ราย เป็นโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาต เหตุเกิดขณะลำเลียงพลุเตรียมนำส่งให้ลูกค้าสำหรับใช้ในเทศกาลลอยกระทง

          จากการรวบรวมสถิติการเกิดอุบัติเหตุตั้งแต่ปี 2527 พบว่ามีเหตุการณ์ที่เกิดจากวัตถุระเบิด 18 ครั้ง 7 ครั้งในจำนวนนี้เกิดจากพลุและดอกไม้ไฟ ตัวอย่างเช่น

           -  วันที่ 17 ตุลาคม 2543 โรงงานพลุประทัดดอกไม้ไฟย่านหนองจอกระเบิด ซึ่งดัดแปลงบ้านเป็นโรงงานมีผู้เสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 7 ราย

           -  วันที่ 22 สิงหาคม 2543 โรงงานดอกไม้ไฟในชุมชนหนองบัว จ.เชียงราย ระเบิดมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เกิดจากการใช้สว่านไฟฟ้าเจาะรูเพื่อใส่สายชนวน ขณะมีการบรรจุดินระเบิดใส่บั้งไฟยักษ์

           -  วันที่ 7 พฤศจิกายน 2543 ร้านขายพลุที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร ระเบิดไฟลุกเกิดจากการจุดประทัดสาธิตให้ลูกค้า ความตกใจทำให้โยนประทัดลงไปที่แผงขายเกิดการเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 84 ราย

          ทั้งหมดนี้ยังไม่ได้พูดถึงความเสียหายของบ้านเรือนที่มีอีกมากมาย จากเหตุการณ์เหล่านี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ได้ว่าเมื่อมีการเกี่ยวข้องกับวัตถุอันตรายที่ระเบิดได้ สิ่งที่พึงระวังคือ การเสียดสีและการใช้ประกายไฟหรือความร้อนในบริเวณที่มีวัตถุระเบิด เพราะเป็นสาเหตุของการเกิดปฏิกิริยาของวัตถุระเบิดโดยตัวของมันเอง แล้วเกิดแก๊สขยายตัวอย่างรวดเร็ว วัตถุระเบิดที่เกี่ยวข้องมีทั้งดินระเบิด โปแตสเซียมคลอเรต แอมโมเนียมไนเตรต ฯลฯ การควบคุมวัตถุระเบิดมี พรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์กำหนดให้มีการขออนุญาต สถิติการนำเข้าสารเคมีในพิกัดอัตราศุลกากรซึ่งเป็นสารกลุ่มที่นำมาใช้เป็นปุ๋ยและวัตถุ ระเบิดในปี พ.ศ. 2545 และ 2546 คือ 8,292 และ 7,615 ตัน ตามลำดับ 

          สำหรับดอกไม้เพลิง เป็นสินค้าเคมีภัณฑ์อันตรายในพิกัดศุลกากร 3604.10 0 009 มีสถิติการนำเข้าในปี พ.ศ. 2545 และ 2546 เป็นน้ำหนัก 4,559 และ 4,825 ตัน เป็นมูลค่า 94.9 และ 93.8 ล้านบาท ตามลำดับ

          ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้วัตถุระเบิดควรเป็นผู้มีความรู้และได้รับการอนุญาตเท่านั้น มิฉะนั้นยังจะมีการระเบิดจากการทำพลุและดอกไม้ไฟในชุมชนเกิดขึ้นได้อีกในชุมชนที่ได้ดัดแปลงบ้านเป็นโรงงานผลิต ตามข่าวโรงงานไม่มีใบอนุญาตและมีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำงานอยู่ด้วย  คำถามเกี่ยวกับการควบคุมดูแลตั้งแต่การมีอยู่ของโรงงานนี้ถึง 15 ปี   ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมการอุตสาหกรรมทหาร กรมโรงงานอุตสาหกรรม และกระทรวงมหาดไทย การติดตามตรวจสอบ จะต้องดูว่ามีใบอนุญาตในการทำพลุ การครอบครองวัตถุระเบิดและการเปิดเป็นโรงงานหรือไม่ นอกจากนั้นการจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ทำงานในที่อันตรายก็ยังผิดกฎหมายอีกด้วย