เพลิงลุกไหม้ท่วมรถ ควันดำพวยพุ่ง เจ้าหน้าที่ในชุดหมีสีส้มหลายคนที่กำลังควบคุมเพลิง และพื้นถนนที่นองไปด้วยโฟมสีขาว... ภาพจากข่าวเหตุการณ์อุบัติเหตุรถขนทินเนอร์พลิกคว่ำและเกิดพลิงลุกไหม้ บริเวณเชิงสะพานทางลงข้ามแยกวิภาวดีรังสิต ถนนงามวงศ์วาน เมื่อวันจันทร์ที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมา ทินเนอร์ที่ขนมากับรถคันนี้บรรจุอยู่ในปี๊บสังกะสี แล้วเรียงเป็นชั้นๆ เต็มกระบะบรรทุกด้านหลังรถ ลักษณะ ภาชนะบรรจุและการติดตั้งในรถขนส่งแบบนี้น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาได้ เนื่องจากเมื่อรถพลิกคว่ำเกิดแรงกระแทกอาจทำให้ภาชนะบรรจุฉีกขาดหรือแตกได้ ทำให้ทินเนอร์รั่วไหลออกมาได้ และทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นในที่สุด ดังนั้น การขนส่งสินค้าที่มีอันตรายเช่นนี้จะต้องดูแลในส่วนเหล่านี้ให้เหมาะสมก็จะช่วยลดความเสี่ยงหรือลดผลกระทบได้ระดับหนึ่ง
การดับเพลิงที่ไหม้ทินเนอร์ต้องใช้ โฟมดับเพลิง ผงเคมี คาร์บอนไดออกไซด์ ถ้าใช้น้ำต้องฉีดให้เป็นฝอยฟุ้งกระจายคล้ายหมอก ถ้าใช้น้ำฉีดเข้าไปตรง ๆ จะดับไฟไม่ได้ เนื่องจากทินเนอร์มีตัวทำละลายที่เป็นพวกไฮโดรคาร์บอนที่เบากว่าน้ำ สารพวกนี้จะลอยขึ้นมาเหนือผิวน้ำและลุกติดไฟต่อได้
การเผาไหม้ทินเนอร์จะให้ก๊าซที่เป็นพิษออกมา เช่น ก๊าซคาร์บอนมอกนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และที่สำคัญให้ก๊าซอินทรีย์ที่ไม่ทราบว่าคืออะไรบ้างอีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้นการเข้าไปควบคุมเพลิง เจ้าหน้าที่จะต้องใช้เครื่องช่วยหายใจและมีอุปกรณ์ป้องกันตัวอย่างครบถ้วน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตและสุขภาพ หากเข้าปฏิบัติงานโดยไม่มีเครื่องป้องกันก็จะได้รับผลกระทบดังในข่าวที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานสูดดมควันจนมีอาการเวียนศีรษะไป 7 คนด้วยกัน
ที่มาของข้อมูล : ผู้จัดการออนไลน์ 19 มีนาคม 2550
ภาพประกอบ : www.manager.co.th |