จากกรณีเกิดเหตุการณ์แก๊สรั่วในนิคมอุตสาหกรรมที่จังหวัดระยอง ทำให้มีผู้บาดเจ็บนับร้อยรายนั้น โดยเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10:50 น. ของวันที่ 10 มิถุนายน ได้เกิดเหตุท่อส่งสารคิวมีน (cumene) ขนาด 6 นิ้ว รั่วไหล ภายในบริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท. ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช เลขที่ 9 ซอยจี 9 ถนนปกรณ์สงเคราะห์ ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.ระยอง ทำให้คนงานก่อสร้างหรือผู้ที่สูดดมสารเคมีเข้าไปมีอาการแน่นหน้าอก เป็นลม อาเจียน ตาแดง จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามร่วมใจ ต้องระดมรถพยาบาลหลายสิบคัน ลำเลียงคนเจ็บส่งโรงพยาบาลมาบตาพุด และโรงพยาบาลระยองอย่างเร่งด่วน
นายสุทิน มาลีหวล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมาบตาพุด กล่าวว่า ได้ระดมแพทย์ให้การรักษาเบื้องต้น เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บสูดดมสารคิวมีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของสารฟีนอล มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท บางคนถึงกับมีอาการอ่อนเพลีย อาเจียน แพทย์ได้ให้น้ำเกลือ และรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลระยอง เพื่อรักษาอาการต่อไป เนื่องจากโรงพยาบาลระยองมียาแก้พิษสารคิวมีน โดยสารคิวมีนถ้าสูดดมเข้าไปมากๆ ก็จะมีผลกระทบต่อไตวายได้
ผู้ป่วยสาหัสนอนโรงพยาบาล 33 ราย
ด้าน นพ.สุนทร เหรียญภูมิภัย แพทย์อาชีวอนามัย โรงพยาบาลระยอง กล่าวว่า สารดังกล่าวจะเข้าไปมีผลต่อสมอง อยู่ที่ปริมาณว่าได้รับมากหรือน้อยเพียงใด แต่อาการผู้บาดเจ็บทั้งหมด อยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว เนื่องจากรักษาได้อย่างทันท่วงที โดยผู้ที่ได้รับสารมาก มีอาการหนัก ต้องให้นอนโรงพยาบาล เพื่อดูอาการอย่างใกล้ชิด แต่ส่วนใหญ่น่าจะให้กลับบ้านได้หลังจากดูอาการเป็นที่เรียบร้อย สารนี้จะถูกขับออกมาได้โดยไม่เป็นอันตรายในระยะยาว ผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ถูกนำส่งโรงพยาบาลมาบตาพุด 10 ราย โรงพยาบาลมงกุฎระยอง 4 ราย โรงพยาบาลระยอง 82 ราย และผู้ป่วยที่อาการสาหัสต้องนอนโรงพยาบาล 33 ราย
เวลาต่อมา นายชิดพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายสุนทร รัตนวราหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง เดินทางเข้าไปตรวจสอบภายในโรงงานดังกล่าว นายปิยะศักดิ์ ศานติเกษม ผู้อำนวยการโครงการบริษัท พีทีที ฟีนอล จำกัด แถลงข่าวสั้นๆ ว่า โรงงานเป็นผู้ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมี ผลิตสารฟีนอลและอะซิโตน โดยขณะเกิดเหตุมีผู้รับเหมาที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างได้รับสารคิวมีน ทำให้มีอาการมึนงง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่คาดว่าเกิดจากการรั่วไหลของสารคิวมีน สำหรับผู้ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของสารคิวมีนส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งบริษัทมิได้นิ่งนอนใจและจะดูแลอย่างเหมาะสม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สารเคมีดังกล่าวยังฟุ้งกระจายไปได้ไกลประมาณ 4-5 กิโลเมตร และไปถึงบริเวณโรงเรียนวัดมาบชะลูด ต.ห้วยโป่ง ทำให้ครูและนักเรียนกว่า 500 คน มีอาการวิงเวียน อาเจียน จนต้องอพยพไปอยู่ที่สำนักงานเทศบาลเมืองมาบตาพุดเป็นการชั่วคราว
เผยโรงงานยังอยู่ในช่วงทดลองเดินเครื่อง
ดร.จิตรพงษ์ กว้างสุขสถิตย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียม บมจ. ปตท. ซึ่งกำกับดูแลโรงงาน ปตท.ฟีนอล กล่าวว่า สาเหตุแก๊สรั่วนั้นเกิดขึ้นในช่วงการทดลองเดินเครื่อง และทดลองระบบต่างๆ ภายในโรงงาน โดยโรงงานแห่งนี้อยู่ในระหว่างการทดลองเดินเครื่องเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเปิดระบบผลิตแต่อย่างใด
"ปัญหาแก๊สที่เกิดการรั่วไหลออกมานั้น เป็นการรั่วไหลไม่ไกลมากนัก อยู่ในขอบเขตของโรงงาน และไม่มีการกระจายออกเป็นวงกว้าง ส่วนการตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงนั้น ก็จะมีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป" ดร.จิตรพงษ์กล่าว
ด้านนางสุรัสวดี จันทรัตน์ ประกันสังคมจังหวัดระยอง กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บจากกรณีนี้ถือว่าบาดเจ็บจากการทำงาน สามารถใช้สิทธิ์เบิกเงินจากกองทุนทดแทนได้ ไม่เกิน 4.5 หมื่นบาท และถ้าต้องนอนรักษาตัว ก็จะจ่ายเพิ่มให้อีก แต่ถ้าผู้บาดเจ็บยังไม่เคยแจ้งชื่อกับสำนักงานประกันสังคม ก็ถือว่าได้รับบาดเจ็บจากการทำงานยังคงได้รับค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิ์เช่นกัน
ชี้เป็นสารก่อมะเร็ง
นายสุเมธา วิเชียรเพชร หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินสารเคมี กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าได้ประสานงานให้เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ระยอง เข้าไปประเมินสถานการณ์ในพื้นที่แล้ว ทราบว่ากลิ่นเหม็นมาจากการรั่วไหลของเบนซีน ที่รั่วออกมาจากท่อ ซึ่งแม้จะเป็นหนึ่งในสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (VOCs) และเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ภัยแบบเฉียบพลันจะน้อยกว่าการรั่วของสารฟีนอล ที่ใช้ในการผลิตเม็ดพลาสติก เนื่องจากผู้ที่จะเป็นอันตรายต้องได้รับเบนซีนปริมาณมากกว่า 2,000 พีพีเอ็ม จึงจะเกิดอันตราย ส่วนระยะยาวโอกาสที่จะเกิดมะเร็งในกลุ่มผู้ป่วยนั้นมีโอกาสน้อยกว่าเพราะไม่ได้รับสารพิษซ้ำ ส่วนการฟื้นฟูพื้นที่นั้นถ้าสามารถปิดท่อที่รั่วได้แล้ว สารจะระแหยได้ภายในระยะเวลา 2 ชั่วโมง เพราะสารเบนซีนจะระเหยเจือจางไปได้เอง
"เบื้องต้นจะเข้าตรวจสภาพพื้นที่และชุมชนรอบๆ อย่างละเอียด แม้ว่าการระเหยของก๊าซจะไปไกลได้น้อยเพราะกลุ่มสารอินทรีย์ระเหยง่าย แต่ก็ต้องเฝ้าระวัง รวมทั้งติดตามอาการของผู้ที่สูดดมก๊าซเข้าไป" นายสุเมธากล่าว
เฝ้าอาการผู้ป่วยสาหัส 3 วัน
ด้าน นพ.ธวัช สุนทราจารย์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าได้รับรายงานแก๊สรั่วไหลที่ จ.ระยอง ว่าเป็นแก๊สโวเลไทล์ ออแกนิก คอมพาวนด์ (Volatile Organic Compounds : VOCs) ตระกูลเบนซีน เป็นสารประกอบอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติก หากรั่วไหลออกมาและสูดดมเข้าสู่ปอดในปริมาณมากจะทำให้เกิดอาการหลอดลมตีบหรือไตวายเฉียบพลันได้ ในผู้ป่วยที่อาการน่าเป็นห่วง ต้องสังเกตอาการอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน เพื่อเฝ้าระวังอาการหลอดลมตีบและไตวายเฉียบพลัน
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่าแก๊สที่รั่วไหลทางโรงงาน สามารถปิดวาล์วได้แล้วและสารเคมีที่รั่วไหลออกมาจะระเหยไปในอากาศ มีปริมาณความเข้มข้นน้อยไม่เป็นอันตรายกับประชาชนรอบๆ โรงงานดังกล่าว สำหรับโรงงาน ปตท. ฟีนอล อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช จ.ระยอง ผลิตสารเคมีชนิดนี้ใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก
นายรัชดา สิงคาลวณิช อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจสอบกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) แล้ว ในส่วนของกรมโรงงานจะเข้าไปดูว่าสาเหตุของก๊าซรั่วเกิดจากอะไร เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาว่ามีความจำเป็นต้องออกระเบียบเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้ก๊าซ ที่ผ่านมานั้นทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้ออกระเบียบเกี่ยวกับโรงงานที่ใช้ก๊าซ ซึ่งกำหนดรายละเอียดการจัดเก็บก๊าซและกำหนดให้เจ้าหน้าที่โรงงานต้องได้รับการอบรมตามหลักสูตรของกรมโรงงานอุตสาหกรรม
นายชิตพงษ์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง กล่าวว่าจังหวัดไม่มีอำนาจในการสั่งปิด ต้องให้การนิคมอุตสาหกรรมเป็นผู้พิจารณาและตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ขอยืนยันว่า อุบัติเหตุแก๊สรั่วดังกล่าว จะไม่ทำให้เกิดการระเบิดอย่างแน่นอน ซึ่งประชาชนทั่วไปต่างเป็นกังวลในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
|