รายงานข่าวจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า จากกรณีเรือบรรทุกสินค้าของฮ่องกง ซึ่งเผชิญกับคลื่นลมแรงจากพายุไซโคลน จนทำให้ตู้คอนเทนเนอร์ตกลงในอ่าวนอกนครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย และมีน้ำมันรั่วไหลออกมาจากเรือ รุนแรงกว่าที่คิดไว้ถึง 10 เท่า
ทางด้านนายพอล ลูคัส รองมุขมนตรีรัฐควีนสแลนด์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า เหตุน้ำมันรั่วส่งผลกระทบต่อชายหาดท่องเที่ยวฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียรุนแรงกว่าที่คิดไว้ถึง 10 เท่า
ชายหาดหลายสิบแห่งถูกประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติแล้ว หลังจากพบว่าเต็มไปด้วยคราบน้ำมันที่รั่วไหลออกมาจากเรือแปซิฟิก แอดเวนเจอเรอร์ที่เผชิญสภาพอากาศแปรปรวนกลางทะเลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายลูคัสกล่าวว่า เบื้องต้นประมาณว่ามีน้ำมันรั่วไหลออกมาราว 20-30 ตัน แต่ล่าสุดคาดว่า อาจจะมากถึง 230 ตัน
ด้านบริษัทสไวร์ ชิปปิ้ง เจ้าของเรือแปซิฟิก แอดเวนเชอเรอร์ ที่จดทะเบียนในฮ่องกง เปิดเผยว่า จากการให้นักประดาน้ำตรวจสอบรอบลำเรือวานนี้ พบว่า ความเสียหายมากกว่าที่ประเมินไว้ และมีแนวโน้มว่าจะมีน้ำมันรั่วไหลออกมามากกว่าที่ประเมินในตอนแรก
ด้านผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า นอกเหนือจากผลกระทบจากคราบน้ำมัน ยังมีปุ๋ยแอมโมเนียมไนเตรทที่ใช้ในการทำปุ๋ยและวัตถุระเบิด ก็อาจจะเป็นอันตรายต่อสาหร่าย ปลา และถิ่นที่อยู่อาศัยในธรรมชาติ ทั้งนี้ มอร์ตันเบย์ เขตอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตใต้ทะเล ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกทะเล เต่า ปลาโลมา และนกกระทุง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีประชาชนนับร้อยระดมทำความสะอาดชายหาดและช่วยชีวิตสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันครั้งนี้
ที่มาของข้อมูล : สำนักข่าวไทย ประจำวันที่ 15 มีนาคม 2552 |