สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

กรีนพีซเสนอรัฐออกมาตรการปกป้องเจ้าพระยา เนื่องในวันลอยกระทง

ผู้เขียน: กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทย
วันที่: 2 พ.ย. 2552

            เนื่องในประเพณีวันลอยกระทงของคนไทยที่ส่งเสริมให้เรากตัญญูต่อพระคุณของสายน้ำ กรีนพีซเสนอรัฐบาลให้ออกมาตรการเข้มงวดเพื่อปกป้องแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้องรองรับน้ำทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ปนเปื้อนสารเคมีอันตราย

            แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นแม่น้ำที่มีความสำคัญและหล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของคนไทยมาช้านาน คุณภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่แย่ลงเป็นเรื่องที่น่ากังวล ในประเพณีวันลอยกระทงที่จะถึงนี้ กรีนพีซเสนอว่ารัฐบาลควรเริ่มแสดงความกตัญญูต่อสายน้ำอย่างแท้จริง โดยเน้นแก้ปัญหามลพิษจากภาคอุตสาหกรรม เช่น การสนับสนุนการประยุกต์เทคโนโลยีการผลิตที่สะอาด วางนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เฝ้าระวังและจัดทำข้อมูลปริมาณสารเคมีอันตรายต่างๆ ที่ปล่อยทิ้งปนเปื้อนมากับน้ำทิ้งของแต่ละโรงงาน รวมถึงการออกกฎหมายที่นำไปสู่การลดปริมาณการปล่อยมลพิษ นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

            ประเทศไทยมีปริมาณน้ำจืดต่อประชากรน้อยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นั่นคือ 6,460 ลูกบาศก์เมตร ต่อปี แต่เหลือประมาณร้อยละ 22 ของปริมาณดังกล่าวเท่านั้นที่ยังคงมีคุณภาพดี และเนื่องจากความต้องการใช้น้ำที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดมีปริมาณลดลง กรีนพีซเชื่อว่าการปกป้องแหล่งน้ำจากภัยคุกคามมลพิษจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำสะอาดในอนาคต

            ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของประชากรนับล้าน และมีประชากรจำนวนมากต้องอาศัยคุณภาพน้ำที่ดีเป็นปัจจัยในการดำรงชีวิต ในขณะนี้มีโรงงานบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาที่ก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางน้ำในระดับปานกลางและระดับสูงมากถึง 5,620 แห่ง และในแต่ละวัน มีปริมาณน้ำเสียระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา 304,581 ลูกบาศก์เมตร

            หน่วยศึกษาและเฝ้าระวังมลพิษทางน้ำของกรีนพีซพบสารเคมีอันตรายปนเปื้อนมากับน้ำทิ้งอุตสาหกรรม ซึ่งสารเคมีเหล่านี้ทั้งมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ไม่สามารถย่อยสลายได้ และยังสามารถสะสมได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิต เมื่อต้นปีที่ผ่านมา กรีนพีซได้เปิดเผยรายงานพื้นที่และแหล่งน้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำในประเทศไทย ซึ่งชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่าความเสี่ยงของการเกิดมลพิษในแหล่งน้ำมักอยู่ในพื้นที่อุตสาหกรรม

            นอกจากนี้ ในเดือนมีนาคม 2551 กรีนพีซได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับปัญหามลพิษทางน้ำ ที่จัดทำร่วมกับศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC POLL) ซึ่งพบว่า ร้อยละ 86.5 ของชาวกรุงเทพฯและปริมณฑลมีความคิดเห็นว่ามลพิษทางน้ำเป็นปัญหาสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ร้อยละ 67.8 มีความคิดเห็นว่ากฎหมายเกี่ยวกับการปล่อยน้ำทิ้งหย่อนยาน ไม่ครอบคลุมสารเคมีอันตรายหลายชนิดและยังไม่เพียงพอในการแก้ปัญหา   

            กฎหมายควบคุมการปล่อยน้ำทิ้งในปัจจุบันนั้นล่าสมัย แทนที่จะเน้นเอาผิดกับผู้ก่อมลพิษแต่กลับไม่มีมาตรการที่ชัดเจน ซ้ำยังเป็นการอนุญาตให้มีการปล่อยน้ำทิ้งปนเปื้อนสารพิษได้อย่างถูกกฎหมาย แม้ว่าประชาชนจะมีความกังวลต่อปัญหามลพิษทางน้ำที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แต่รัฐบาลก็ยังไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรและไม่มีมาตรการใหม่ ๆ ที่ชัดเจนในการปกป้องแม่น้ำ นายพลาย ภิรมย์ กล่าวปิดท้าย

ที่มาของข้อมูล : กรีนพีซเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำประเทศไทย www.greenpeace.org

  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - กระทงโฟม 1 ใบ ใช้เวลาย่อยสลายมากกว่า 50 ปี
 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น