อุตฯ ฉีกข้อเสนอเลิกใช้ 2-5 ปี |
ผู้เขียน:
ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558 |
วันที่:
9 มี.ค. 2558 |
หลังคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่2 ธันวาคม 2557 มีมติให้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษารวบรวมข้อมูลเรื่องแร่ใยหินใหม่นั้น ล่าสุด
นายศักดา พันธ์กล้า รองอธิบดี กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังจาก นายมานพ เจริญจิตต์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลไครโซไทล์ (ซีไอซี) เข้าพบว่า ขณะนี้ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาและตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการใช้แร่ใยหินตามมติ ครม.แล้ว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมศึกษา ส่วนข้อเสนอเดิมที่จะทยอยยกเลิกการใช้แร่ใยหินในสินค้า 6 รายการหลักภายใน 2-5 ปี ต้องนำกลับมา ทบทวนใหม่
"เรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขเองยอมรับว่า ไม่ได้มีการจัดเก็บข้อมูลผลกระทบ ต่อสุขภาพอย่างแท้จริง โดยเฉพาะการก่อให้เกิดโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด การยกเลิกไปโดยไม่มีข้อมูลที่เพียงพออาจถูกฟ้องร้องได้ รวมถึงการศึกษาการใช้แร่บะซอลต์ทดแทนยังไม่มีผลการศึกษาชัดเจนว่า จะมีคุณสมบัติที่ดีกว่าไครโซไทล์ หรือจะมีอันตรายมากหรือน้อยกว่าหรือไม่"
นายเมธี อุทโยภาส ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารองค์กรซีไอซีกล่าวว่า ตน พร้อมด้วยนายมานพได้มายื่นหนังสือคัดค้านการยกเลิกการใช้แร่ใยหินต่อ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิชรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเห็นว่าคนไทยมีการใช้สินค้าจากแร่ใยหินมากว่า 70 ปีแล้ว โดยไม่มี ผลการศึกษาทางวิชาการที่น่าเชื่อถือยืนยันถึงผลกระทบของแร่ใยหินไครโซไทล์ ที่มีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และต่อผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมการผลิตที่ใช้ไครโซไทล์เป็นส่วนประกอบ สำหรับผลการศึกษาขององค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ระบุว่า การใช้แร่ใยหิน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพนั้นออกมาตั้งแต่ปี 2550 ถ้ามีผู้ป่วยจำนวนมากจริงต้องมีข้อมูลออกมาตลอด แต่เท่าที่ทราบแทบจะไม่ได้รับข้อมูลผู้ป่วย จึงไม่เห็นด้วยที่จะประกาศยกเลิก และได้เสนอให้กระบวนการใช้ที่ปลอดภัย โดยการควบคุมไม่ให้เกิดฝุ่นละออง ส่วนการเสนอให้มีการใช้วัสดุอื่นทดแทน ไม่มีผลการศึกษาทางวิชาการ ยืนยันว่า วัตถุดิบดังกล่าวจะไม่เป็นอันตราย ต่อสุขภาพ
-- -- -- --
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
โครงการรณรงค์ยกเลิกการใช้แร่ใยหิน
ศูนย์ข้อมูลไครโซไทล์ |
|
|
|