สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

เร่งขนย้ายสารเคมีอันตราย นอภ.ลั่นเล่นงานผู้ลอบทิ้ง

ผู้เขียน: มติชน
วันที่: 28 ส.ค. 2558
        ที่ริมถนนสายหนองตะพาน-คลองช้างตาย หมู่ 6 ต.หนองตะพาน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ นายอำเภอบ้านค่าย นายอดุลย์ บำรุงสุนทร นายก อบต.หนองตะพาน นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ์ หน.ฝ่ายโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ตรวจความคืบหน้าการขนย้ายดินปนเปื้อนสารเคมีอันตราย หลังมีการลักลอบทิ้งสารเคมีเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการขนย้าย สร้างความหวาดวิตกกังวลให้กับชาวบ้าน เนื่องจากเป็นฤดูฝน เกรงสารเคมีปนเปื้อนน้ำซึมลงใต้ดินและแหล่งน้ำ

      ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้เช่าพื้นที่ดังกล่าวได้ดำเนินการขุดฝังบ่อซีเมนต์บ่อละ 10 ปลอก ลึก 3 เมตร กว่า 10 บ่อ ลักลอบขนสารเคมีอันตรายชนิดเหลวทิ้งลงบ่อแล้วใช้ฝาปิดและเอาดินกลบ ต่อมาฝาปิดบ่อเกิดแตกร้าว ทำให้กลิ่นสารเคมีฟุ้งกระจายเหม็นแสบตา จมูก เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านไปทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดระยองเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านค่าย ให้ดำเนินคดีกับผู้เช่าที่ทำการลักลอบทิ้งสารเคมีอันตรายแล้ว

      นายอลงกรณ์กล่าวว่า ผู้ที่ลักลอบทิ้งสารเคมีอันตรายจะต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญา หลังจากนี้ทางอำเภอบ้านค่ายจะแจ้งประกาศให้ทางโรงงานในพื้นที่ อย่าให้มีการลักลอบทิ้งสารเคมีอันตราย รวมทั้งเจ้าของที่ดินให้ตรวจสอบว่าผู้เช่าที่ดินทำอะไรกับที่ดินบ้าง

      ด้านนายพุทธิกรณ์กล่าวว่า ผู้ว่าฯระยองได้ประสานกระทรวงอุตสาหกรรม ขออนุมัติงบประมาณในการขนย้ายสารเคมีอันตรายดังกล่าว ซึ่งทางปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมได้อนุมัติงบประมาณจำนวน 2 ล้านบาท ให้เร่งดำเนินการขนย้าย โดยว่าจ้างให้บริษัทเอกชนเป็นผู้ดำเนินการขนย้ายสารเคมีดังกล่าวนำไปบำบัดอย่างถูกวิธีที่ จ.สระบุรี คาดว่าจะขนย้ายเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้

      สำหรับผู้กระทำผิดได้ถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย และได้ให้การรับสารภาพโดยไม่ได้ให้การซัดทอดว่าสารเคมีดังกล่าวมาจากที่ใด หรือมีบุคคลอื่นใดที่ร่วมกระทำความผิดด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายในการขนย้ายสารเคมีอันตรายดังกล่าวในคราวนี้ทั้งหมด จะต้องฟ้องแพ่งให้ศาลพิพากษาให้ผู้กระทำผิดชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น

 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น