สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
สารเคมีที่เป็นข่าวระดับโลก

Love Canal - เหตุการณ์จากกากของเสียอันตราย

ผู้เขียน: รศ. สุชาตา ชินะจิตร
วันที่: 16 ก.พ. 2554

            เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ Love Canal ซึ่งอยู่แถวไนแอกะรา (Niagara) มลรัฐนิวยอร์กของสหรัฐอเมริกา มีความเป็นมายาวนานที่เป็นประเด็นสิ่งแวดล้อม กรณีแรกที่ดังไปทั่วโลกชื่อ Love มาจากชื่อของ William T. Love ซึ่งเป็นผู้ทำให้มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำ 2 ระดับ หวังจะผลิตไฟฟ้าย่อยๆ ให้กับชุมชนแม่แบบ แต่โครงการพับไปเพราะเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทน คลองจึงถูกทิ้งกลายเป็นลำน้ำให้เด็กๆ มาเล่นน้ำ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1920 พื้นที่นี้ได้ถูกใช้เป็นพื้นที่ทิ้งขยะชุมชน ต่อมาปี ค.ศ. 1942 บริษัท Hooker Chemical ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่นี้ฝังกลบของเสียจากอุตสาหกรรม โดยมีการสูบน้ำออก และปูชั้นดินเหนียวโดยรอบเพื่อกั้นการรั่วซึม โรงงานนี้ผลิตผลิตภัณฑ์หลายประเภท เช่น สี ตัวทำละลายสำหรับยางและเรซินสังเคราะห์ จึงมีของเสียพวกด่าง กรดไขมัน และ Chlorinated hydrocarbon เก็บในถังแกลอน 55 ใบ รวมประมาณ 21,000 ตัน นำไปฝังกลบในระดับความลึกประมาณ 20 - 25 ฟุต ต่อมาคณะกรรมการโรงเรียน Niagara Fall ได้ขอซื้อที่ดินจากบริษัท ซึ่งได้รับแจ้งถึงความเสี่ยงต่อการฝังกลบแล้ว และได้ปฏิเสธการขอซื้อในครั้งแรก แต่ในที่สุดก็ขายให้ด้วยราคา 1 เหรียญ การก่อสร้างอาคารเรียนเสร็จสิ้นในปี ค.ศ. 1955 และรับนักเรียนเข้าเรียน 400 คน เนื่องจากเวลาผ่านมาเนิ่นนาน ประวัติความเป็นมาของพื้นที่นี้ก็ถูกลืมเลือนไป เทศบาลก็มีโครงการพัฒนาพื้นที่ใช้ประโยชน์ มีการสร้างทางด่วนยกระดับระหว่างการก่อสร้างต่างๆ ก็มีสัญญานอันตรายเกิดขึ้นเป็นระยะๆ เช่น เริ่มเห็นของเหลวสีคล้ำๆ หรือน้ำมันไหลออกมาที่ชั้นใต้ดินบ้าง ในสนามบ้าง เด็กนักเรียนก็เริ่มแสดงอาการด้านสุขภาพ เช่น ชัก หอบ แม้แต่พืชแถวนั้นก็ตาย ปลูกไม่ขึ้น ความผิดปกติเหล่านี้ยังหาสาเหตุไม่ได้

            ในปี ค.ศ. 1976 เรื่องราวถูกเปิดโปงโดยนักข่าวจาก Niagara Gazette ได้มีการนำตัวอย่างน้ำไปตรวจ และมีการติดตามข้อมูลสุขภาพของชุมชน สังเกตได้จากการแท้งลูก หรือคลอดลูกพิการ บทความที่ออกมาในปี ค.ศ. 1978 ชี้ให้เห็นว่าเหตุการณ์นี้คือระเบิดเวลาที่พร้อมจะระเบิดได้อย่างต่อเนื่อง ในที่สุดรัฐบาลได้เข้ามาตรวจสอบ แก้ปัญหา มีการย้าย 800 ครอบครัวออกจากพื้นที่ กระทั่งประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ ได้ประกาศเป็นเหตุฉุกเฉินระดับชาติ เป็นครั้งแรกที่อนุมัติให้ใช้กองทุนฉุกเฉินในเหตุการณ์ที่ไม่ใช่อุบัติภัยทางธรรมชาติ เข้ามาเยียวยาต่อผู้เสียหาย บริษัท Hooker Chemical ซึ่งเปลี่ยนไปเป็นบริษัท Occidental Petroleum ก็ยังไม่พ้นความรับผิดชอบ ถูกองค์การสิ่งแวดล้อม EPA ฟ้องในปี ค.ศ. 1995 ให้ชดใช้เป็นมูลค่า 129 ล้านเหรียญ

 
  ข้อคิดเห็น
   
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากต่อมวลมนุษยชาติจากผลการกระทำเพียงพื่เอผลกำไร ปราศจากความรับผิดขอบ  เราต้องหยุดยั้งสิ่งเหล่านี้ ไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก หันมาทำเกษตรอินทรีย์ และลดการทำอุตสาหกกรรมปริโตรเคมีเสียที For Save World Save life

โดย:  shahassawat chanla  [29 เม.ย. 2554 09:37]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 2:5

กรณีนี้จะเกิดขึ้นกับชุมชนรอบบ่อขยะของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม เช่น ที่สระบุรี ปลวกแดง (มาบตาพุด) และบ่อวิน ไหมนะ เป็นห่วงชุมชนจัง ประเทศไทยยังไม่มีมาตรการที่ดี ถึงแม้ชุมชนร้องเรียนถึงปัญหาต่อสุขภาพ ก็ยังไม่มีการปรับปรุงมาก คงต้องเกิดเหตุการที่รุนแรงมาก ๆ คนตายก่อน แบบที่โรงงานระเบิดในมาบตาพุด แต่ก็เป็นข่าวดังอยู่ไม่นาน ก็ไม่มีมารายงานว่าที่นายกสั่งนั้น ดำเนินการไปถึงไหน และจะมีหน่วยราชการไทยฟ้องเอกชนไหม ต่อไปมลพิษจะปนเปื้อนมากับแหล่งน้ำและอาหารให้คนไทยได้อ่อนแอลง เพราะรัฐไม่ได้เน้นให้เด็กคิด หรือทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ผู้ใหญ๋ก็นึกแต่หารายได้ หาอะไรมาดึงเงินผู้ปกครองผ่านเยาวชน ไม่ได้คิดว่าเยาวชนและเด็ก ๆ คืออนาคตของประเทศไทย ที่พวกเราจะต้องช่วยกันส่งเสริมให้พวกเขารอบรู้ รู้จักคิดวิเคราะห์และมีสุขภาพแข็งแรง

โดย:  Ram Rala  [18 พ.ค. 2555 22:16]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 3:6

บ้านเราหลักฐานชัดเจน บริษัทรับกำจัดสารเคมี นำสารเคมีปล่อยลงท่อระบายน้ำแถว สมุทรปราการ หรือการทิ้งสารเคมีที่แหล่งน้ำ ที่ปลวกแดง ทีวีหลายช่่องก็เอาภาพ มาออกอากาศชัดเจน แล้วจะมีองค์กรส่ิงแวดล้อมในเมืองไทย คิดจะฟ้องกันบ้าง ไหม นะ T_T

โดย:  KEN  [12 ก.ย. 2555 10:17]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 4:7

I don't even know what to say, this made tinhgs so much easier!

โดย:  Kathy  [28 ก.ย. 2555 09:08]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 5:11

เรียน ท่านรศ. สุชาตา

การนำเสนอให้สาธารณะได้ทราบถึงตัวอย่างอันตรายเป็นสิ่งที่ดีครับ และผมอยากเห็นการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมที่เข้มแข็งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวิธีใดก็ตาม บนพื้นฐานความคิดที่ว่า เราเองก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ และเราจะช่วยกันปกป้องธรรมชาติให้ดีที่สุด

ถ้ามีกิจกรรมใดที่ต้องการกำลังสนับสนุน ผมขอยกมือเข้าร่วมด้วยครับ

ขอแสดงความนับถือ
Prasit

โดย:  Prasit  [13 ก.ย. 2556 12:21]
 
   
ข้อคิดเห็นที่ 6:14

คงต้องใช้ความพยายามทุกรูปแบบ ในการสื่อให้สังคมตระหนัก รับรู้ ให้มากที่สุด กว้างที่สุดนะคะ เพราะ คนส่วนใหญ่ ที่ใกล้ชิด ขาดความรู้ ขาดข้อมูล จึงใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
โดยเฉพาะภาครัฐ ต้องเน้น เกาตรธรรมชาติ เกษตรอินทรีย์ เกษตรผสมผสาน เกษตรประณีต วนเกษตร และช่วยการสื่อ ด้วย ทีวี วิทยุ Social Network เพื่อการเป็นครัวโลกที่ปลอดภัย ยั่งยืน สุขภาพดีทั่วหน้า ลดค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาล ลดภาระ โรงพยาบาล

โดย:  หนึ่งน้ำ  [5 ส.ค. 2558 18:30]
 
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น