สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
ถาม-ตอบ

สงสัยว่าถูกสามีวางยาในกาแฟ

สวัสดีค่ะ ดิฉันกำลังเดือดร้อนอย่างหนักเนื่องจากว่า ถูกสามีใส่ยาบางอย่างลงในกาแฟให้ดื่ม และหลังจากดื่มกาแฟเข้าไป มีอาการปากชาลิ้นแข็ง มึนงง มีไข้หนาวสั่น คลื่นใส้ ดิฉันอยู่ประเทศสิงคโปร์ แต่งงานกันมากว่าสิบปี ระยะหลังสามีเริ่มมีพฤติกรรมลึกลับซ่อนเร้น หลายอย่างเช่นดื่มน้ำจากกาต้มน้ำร้อนแก้วต่อแก้ว จากที่เคยดื่มน้ำขวดจากแพ๊ค ไม่กินอาหารร่วมกันฉันท์สามีภรรยา แยกออกไปหากินเองต่างหาก  มีการแอบซื้อประกันชีวิตให้ดิฉันโดยตัวเขาใส่ชื่อรับผลประโยชน์คนเดียวไม่บอกให้ทราบล่วงหน้าด้วย เมื่อเกิดอาการผิดปรกติได้พยายามช่วยตัวเอง โดยรับประทานว่านรางจีดเข้าไปประมาณสามสี่แคปซูล และไปพบแพทย์ ขอตรวจเลือดแต่แพทย์ไม่บอกผลเลือด เพียงแต่แนะนำให้อย่ากินอะไรที่สามีทำให้กิน และอยู่ห่างๆสามี ดิฉันเข้าใจว่าเขาต้องปกป้องคนของเขา ดิฉันจึงเดินทางกลับมาขอเจาะเลือดที่โรงพยาบาลรามาฯ ณวันนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่รอผลตรวจเลือด ดิฉันอยากเรียนถามอาจารย์ท่านผู้รู้ว่า มียาอะไรที่สามารถทำให้เกิดอาการเป็นพิษถึงขั้นปากชาลิ้นแข็ง และสมองมึนงง จนถึงวันนี้ยังมีอาการชาที่ปากอยู่บ้าง ช่วยกรุณาแนะนำด้วยค่ะ เพราะดิฉันจำเป็นเหลือเกินที่ต้องรีบดำเนินการทางกฏหมาย เนื่องจากดิฉันไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมอยู่กับสามีอีกต่อไป จำเป็นต้องทราบผลตรวจสารเคมีพร้อมกับแจ้งความกับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองให้ดำเนินคดีต่อไปค่ะ ท่านอาจารย์พอมีอะไรแนะนำดิฉันโปรดกรุณาด้วยค่ะ กราบขอบคุณมาณ ที่นี้ค่ะ เมล

โดย:  เมล   [2 เม.ย. 2555 21:30]
สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก:  เมนูนานาสาระ และหมวด พิษวิทยา  /  สารเคมีในอาหาร-สารเจือปน สารปรุงแต่ง สารตกค้าง  /  อื่น ๆ
ข้อคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิจะแสดงในกรอบสีเขียว ส่วนข้อคิดเห็นหรือความเห็นจากผู้อื่นจะแสดงในกรอบปกติ
ข้อคิดเห็นที่ 1:1

ผมไม่ใช่ ผู้รู้ ด้านสารพิษ  และ ไม่ใช่ ผู้รู้ ด้านกฎหมาย    แต่มีเจตนา จะมาตอบและเสนอความเห็นจริงๆ   ( ไม่ได้คิดมาเข้าข้าง สามีคุณ และ แพทย์ - ซึ่งเดาว่าเป็นชาวสิงคโปร์ )        
การที่  แพทย์ไม่บอกผลเลือด เพียงแต่แนะนำให้อย่ากินอะไรที่สามีทำให้กิน และอยู่ห่างๆสามี    เพียงแค่ สื่อความหมายว่า  แพทย์ยังไม่สรุปว่า  สามีวางยาคุณ  ( จงอย่าเที่ยวไปสรุปง่ายๆว่า เขาต้องปกป้องคนของเขา    การที่เขาให้ตรวจเลือดได้ ก็เหมาะสมแล้ว )       และ เมื่อ ยังไม่สรุปว่า  สามีวางยาคุณ    การแนะนำว่า  อย่ากินอะไรที่สามีทำให้กิน และอยู่ห่างๆสามี   ก็เหมาะสมดีแล้วเช่นกัน  
การตรวจเลือด  ถ้าไม่จำกัดวงให้แคบ ว่าตรวจหาอะไร  จะเสียเวลานานมาก และอาจไม่พบอะไรอย่างที่ต้องการ  ผลการตรวจอาจจะออกมาในรูปแบบ ว่า    ไม่พบ . . . .    ไม่พบ . . . .    ไม่พบ . . . .    และ    ไม่พบ . . . .  
ถ้าไม่พบ  สารต้องสงสัยในเลือด ของคุณ    เพียงแค่  อาการ ลิ้น-ปาก ชาแข็ง และ สมองมึนงง    มีหลายสาเหตุ    ในทางกฎหมาย อาจไม่มีน้ำหนัก พอที่จะทำให้เชื่อว่า  สามีใช้สารพิษทำร้ายคุณ  ( อันเป็นเหตุให้ แจ้งดำเนินคดีกับสามี  หรือ  เป็นเหตุให้ฟ้องหย่าได้ )  คุณต้องหา ( มี ) ข้อมูลหลักฐานและข้อพิสูจน์อื่นๆมาประกอบด้วย

สิ่งที่ไม่ควรละเลย คือ ทุกเรื่องราวมีมุมกลับได้  ถ้าพฤติกรรมของสามีคุณในการดื่มน้ำเป็นแบบนั้น  ก็อาจเป็นเพราะเขาสงสัยว่า คุณจะวางยาเขาโดยใส่สารพิษในขวดน้ำดื่ม  จะด่วนสรุปว่า  ใครคิดวางยาใคร หรือ ไม่มีใครคิดวางยาใคร  หรือ ต่างฝ่ายต่างคิดวางยากันและกัน     คงจะเร็วเกินไป  
ถ้าผลการตรวจเลือดของคุณ  พบสารพิษที่ทำให้เกิดอาการตามที่บอกมา  สิ่งที่ควรทำ  คือ  การแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ( ที่สิงคโปร์ )  และ ถ้าตำรวจไม่ดำเนินการตามที่คุณอยาก  ก็หาทนายความเพื่อดำเนินการฟ้องหย่า ( ในประเทศที่จดทะเบียนสมรส )

โดย:  อาชาม  ( ซึ่งน่าจะไม่เกี่ยวข้องกับสามีคุณ )  [3 เม.ย. 2555 04:39]
ข้อคิดเห็นที่ 2:2

ถ้าผลการตรวจเลือด สรุปได้ว่า มี สารพิษ อยู่ในเลือด จริง        ขอให้ผู้ถาม  ติดต่อ ทีมงาน Chemtrack    ( E-Mail : chemtrack@gmail.com )  เพื่อให้รายละเอียดผลการตรวจเลือด    (( อย่า นำมาถาม ให้เห็น ใน บอร์ด ถาม - ตอบ ของ เว็บไซต์ นี้    เพราะ  จะเป็นการชี้ช่อง  ให้ สามี - ภรรยา ที่มีปัญหา กัน  หรือ  ผู้ไม่ประสงค์ดี  นำ สารพิษ นี้  ไป ทำ อันตราย แก่ ผู้อื่น ))    

โดย:  อาชาม  [9 เม.ย. 2555 02:38]
ข้อคิดเห็นที่ 3:3

ขอบคุณอาชาม ที่กรุณาแนะนำ หลังจากใช้เวลาล้างพิษมา25วัน ยังคงพบว่า ผลปัสสาวะมีสารหนูปริมาณตอนนี้ 36.76 ดิใจที่ต่ำว่าระดับวิกฤติ แต่ปากยังเบี้ยวอยู่ ลิ้นยังแข็งพูดไม่ชัด คล้ายจะเป็นอัมพาต ไม่ทราบว่ามีอะไรช่วยล้างสารนี้ออกจากร่างกายคนเรามั๊ย กรุณาแนะนำด้วย ขอบคุณ เรื่องการแจ้งความกับตำรวจสิงคโปร์ คิดว่าเปล่าประโยชน์ คนไทยเป็นแค่a piece of shit ในประเทศนั้น อยากเตือนพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ คนไทยทุกคน ให้ระวังรักษาชีวิตกันดีๆ และอยากบอกว่า "where is the safety place where is the most dangerous"  รักแผ่นดินไทยที่สุด ยังไง ยังไง คนไทยใจไม่ร้ายแน่นอน

โดย:  เมล  [20 เม.ย. 2555 22:51]
ข้อคิดเห็นที่ 4:4

ผมมีข้อสงสัยนะครับว่าจากผมไม่เคยงอกและผิวหน้าไม่เคยดำจู่ๆกลับเกิดอาการดังกล่าวน่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างครับ

โดย:  Nui phisit  [30 เม.ย. 2566 06:28]
หากท่านต้องการถามคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับหัวข้อคำถามนี้ กรุณากดปุ่มนี้

หากท่านต้องการแสดงข้อคิดเห็นหรือแสดงความคิดเห็นที่อยู่ในประเด็นเดียวกับหัวข้อนี้ ให้กรอกข้อมูล แล้วกดปุ่มส่งข้อความด้านล่างนี้