เวลาที่ผลิตภัณฑ์ตามบ้านเรือนที่มีความเป็นอันตรายถูกใช้จนหมดแล้วหรือไม่ใช้แล้วจะกลายเป็นของเสียอันตรายและถูกทิ้งรวมไปพร้อมกับขยะทั่วไป การกำจัดแบบขยะทั่วไปไม่สามารถใช้กำจัดของเสียอันตรายได้ การจัดการที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดผลกระทบทางลบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
อันตรายถ้ากำจัดไม่ถูกวิธี
ปกติการจัดการขยะทั่วๆ ไปจากบ้านเรือนมีขั้นตอนคือ เมื่อเจ้าของขยะนำขยะมาทิ้งในภาชนะรองรับที่หน่วยงานรับผิดชอบ เช่น เทศบาล หรือ อบต. จัดไว้ให้ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมาเก็บขยะใส่รถไปยังสถานีรวมหรือสถานที่กำจัด ซึ่งมักเป็นหลุมฝังกลบขยะ หลุมฝังกลบขยะทั่วไปได้รับการออกแบบให้ฝังกลบขยะทั่วไปได้อย่างปลอดภัยเท่านั้น
ถ้ามีขยะหรือของเสียอันตรายถูกทิ้งรวมไปกับของเสียทั่วไป อาจเกิดอันตรายหรือปนเปื้อนสิ่งแวดล้อมได้ทั้งในระหว่างขั้นตอนการเก็บขนและการกำจัด เช่น ถ้ามีหลอดไฟฟลูออเรสเซนส์ถูกทิ้งรวมไปด้วย หลอดไฟอาจแตกหักระหว่างขนถ่ายเข้า-ออกจากรถขนขยะ หรือขณะฝังกลบ ปรอทที่เจือปนอยู่สามารถแพร่กระจายเข้าสู่สิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากหลุ่มฝังกลบขยะทั่วไปไม่สามารถป้องกันการซึมผ่านของสารได้ จากนั้นปรอทจะถูกย่อยสลายกลายเป็นสารพิษ (ปรอทอินทรีย์) สารพิษนี้เมื่อเข้าสู่สิ่งมีชีวิตจะสามารถเพิ่มปริมาณสะสมขึ้นได้อย่างมากเมื่อมีการกินต่อ ๆ กันตามห่วงโซ่อาหาร ซึ่งจะมาสิ้นสุดที่คนที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร การได้รับปรอทอินทรีย์อาจทำให้มีอาการคันหรือชา ประสาทสัมผัสทำงานผิดปกติ สั่น เดินลำบาก ถ้าได้รับเป็นเวลายาวนานสามารถก่อให้เกิดโรคมินามาตะได้
ถ้าเททิ้งลงท่อทางอ่างน้ำหรือชักโครก ของเสียอันตรายจะไหลไปยังถังบำบัดน้ำเสียของบ้าน ของเสียบางชนิดสามารถฆ่าจุลินทรีที่ทำหน้าที่ย่อยปฏิกูลและน้ำเสีย ทำให้ระบบบำบัดน้ำเสียทำงานไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ของเสียอันตรายบางชนิดไม่ถูกย่อยสลายที่ถังบำบัดและจะปนเปื้อนไปกับน้ำทิ้งที่ออกจากถังบำบัดเข้าสู่แหล่งรองรับธรรมชาติ ซึ่งเป็นไปได้ที่จะปนเปื้อนลงสู่ระบบน้ำใต้ดิน นอกจากนี้ การเทผลิตภัณฑ์ที่มีฤทธิ์กัดกร่อนลงท่อจะทำให้ท่อผุกร่อนได้
การกำจัดของเสียอันตรายจากบ้านเรือนโดยการกองเผาเป็นสาเหตุของมลพิษอากาศ ควันไฟที่เกิดขึ้นอาจเป็นควันพิษ โดยเฉพาะการเผาพลาสติก หรือผลิตภัณฑ์บางชนิดอาจระเบิดได้ เช่นกระป๋องสเปรย์ ขี้เถ้าที่เหลืออยู่ก็ปนเปื้อนด้วยสารพิษเช่นกัน
แนวทางการจัดการ
การจัดการของเสียอันตรายจากบ้านเรือนนั้นมีแนวทางสำหรับประชาชนซึ่งเกี่ยวข้องในฐานะผู้ก่อกำเนิด และหน่วยงานที่ต้องดูแลรับผิดชอบจัดการของเสียอันตรายจากบ้านเรือนดังนี้
สำหรับประชาชน :
- ซื้อผลิตภัณฑ์อันตรายมาใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น
- ซื้อแค่พอดีใช้
- มองหาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์แบบเดียวกันแต่มีอันตรายน้อยกว่ามาใช้แทน
- ก่อนใช้ต้องอ่านฉลากให้เข้าและปฏิบัติตามคำแนะนำในฉลาก
- ต้องเก็บไว้ให้ห่างจากเด็ก
- ควรดูแลให้ฉลากอยู่ในสภาพใช้งานได้ ไม่หลุดหรือขูดขาดจนอ่านไม่ได้
- ควรเก็บผลิตภัณฑ์ที่กลายเป็นของเสียแล้วไว้ในภาชนะบรรจุเดิมและปิดฝาให้แน่น
- แยกของเสียอันตรายที่รีไซเคิลได้
- เก็บไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ในระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มารวบรวมจากที่พักอาศัย
- ไม่แบ่งผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีใส่ภาชนะอื่นโดยเฉพาะภาชนะสำหรับใส่อาหารและน้ำดื่ม
- ไม่นำภาชนะบรรจุสารกำจัดแมลงหรือสารเคมีอื่นๆ มาใช้อีก
- ไม่ผสมของเสียอันตรายหลาย ๆ ชนิดเข้าด้วยกัน
- ไม่กองเผาหรือเททิ้งของเสียอันตรายลงพื้นดิน
- ไม่เททิ้งของเสียอันตรายลงอ่างน้ำหรือชักโครก
สำหรับหน่วยงานท้องถิ่น (ได้รับอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535) :
- สร้างศักยภาพด้านการรีไซเคิลและกำจัดของเสียอันตรายจากบ้านเรือนของท้องถิ่น ถ้าในท้องถิ่นไม่มีโรงงานรีไซเคิลหรือสถานที่กำจัด หน่วยงานรับรับผิดชอบต้องหาแนวทางสร้างเครือข่ายหรือเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างประชาชนและโรงงานรีไซเคิล รวมทั้งติดต่อสถานที่กำจัดที่อยู่ในวิสัยที่สามารถส่งของเสียอันตรายไปจัดการได้ เพื่อให้ของเสียอันตรายที่เกิดขึ้นได้รับการจัดการอย่างถูกต้องปลอดภัยมากที่สุด
- ชี้แจงให้ประชาชนทราบทั่วกันถึงขั้นตอนและวิธีการคักแยก จัดเก็บ และการส่งให้เจ้าหน้าที่เพื่อนำไปรีไซเคิลหรือกำจัดทิ้ง ของเสียอันตรายชนิดใดที่สามารถรีไซเคิลได้ ของเสียชนิดนั้นก็ควรถูกแยกออกมาและส่งไปรีไซเคิล ของเสียอันตรายที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้จะต้องแยกและส่งไปกำจัดด้วยวิธีการที่ปลอดภัย เช่น ไปฝังกลบที่หลุมฝังกลบของเสียอันตราย เป็นต้น
- วางแผนและจัดให้มีการดำเนินงานจัดเก็บของเสียอันตรายจากบ้านเรือนโดยเฉพาะ ตามที่ได้แจ้งประชาชนไว้ โดยหน่วยงานรับผิดชอบเป็นผู้จัดเก็บเองหรือให้อนุญาตโรงงานรีไซเคิลมาจัดเก็บเองก็ได้ในกรณีของเสียอันตรายที่สามารถรีไซเคิลได้
- จัดสรรงบประมาณ บุคคลากร พร้อมทั้งส่งเสริมให้การจัดการของเสียอันตรายจากบ้านเรือนอย่างถูกต้องให้เกิดความยั่งยืน โดยพิจารณาใช้เครื่องมือต่าง ๆ ทั้งภาคบังคับและสมัครใจที่เหมาะสม
- เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เกิดความตระหนักถึงพิษภัยต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อม
เอกสารอ้างอิง :
A.L. Choi and P. Granjean, Environ. Chem. 2008, 5, 112-120. (http://www.publish.csiro.au/?act=view_file&file_id=EN08014.pdf)
Disposal of |