ราคาพีวีซี อาจทะยานแตะสถิติใหม่ 1,400 ดอลลาร์ ต่อตันในปีนี้ เนื่องจากการลดการผลิตในจีน ซึ่งเป็นแหล่งของสารโพลีวินิลคลอไรด์เกือบร้อยละ 25 ในโลก จากการคาดการณ์ของนายแดนนี่ เฮ่อ นักวิเคราะห์ของหยวนต้า (Yuanta Securities Co.) บริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน
       
            รัฐบาลแดนมังกรได้ปิดโรงงานพีวีซีไปแล้วจำนวนหนึ่ง เนื่องจากโรงงานพีวีซีส่วนใหญ่ในจีนใช้ถ่านหินในการผลิต อันเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดมลพิษในอากาศและเผาผลาญกระแสไฟฟ้า การลดการผลิตอาจส่งผลให้ราคาค่าก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น เพราะพีวีซีถูกนำมาใช้ในเขตก่อสร้างทุกแห่ง โดยใช้เป็นฉนวนป้องกันสายไฟรั่ว และใช้ทำท่อประปา นอกจากนี้เสื้อฝนและของเล่นก็อาจมีราคาแพงขึ้นด้วยเช่นกัน เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมระบุ
       
            "ปริมาณการผลิตพีวีซีกำลังลดลง" นายแดนนี่ เฮ่อ ให้สัมภาษณ์ที่กรุงไทเป เขาระบุว่า โรงงานหลายแห่งจะยังคงปิดต่อไป หลังจากปักกิ่งเกมส์ระหว่างวันที่ 8-24 สิงหาคม ตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับมลภาวะ ที่เข้มงวดขึ้น นอกจากนั้น ยังเนื่องมาจากการขาดแคลนถ่านหินและไฟฟ้าในจีน
       
            ขีดความสามารถในการผลิตพีวีซีของจีนอาจต้องเสียเปล่าถึงร้อยละ 30 ในขณะนี้ จากมาตรการเข้มงวดด้านสิ่งแวดล้อมในการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและจากต้นทุนวัตถุดิบที่แพงขึ้น จาง กั๋วหมิน ระบุ เขาเป็นรองประธานสมาคมอุตสาหกรรมไชน่า คลอร์-อัลคาไล (China Chlor-Alkali Industry Association) ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ผลิตพีวีซีประมาณ 100 ราย
      
ต้นคริสต์มาส
       
            ราคาพีวีซีในเอเชียอาจปรับขึ้นในเดือนกันยายน เนื่องจากความต้องการของผู้ผลิตสินค้าหลายประเภท เช่น ของเล่น และต้นคริสต์มาสพลาสติก ก่อนหน้าคำสั่งซื้อสินค้าในช่วงสิ้นปี ซินดี้ ม่อ ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษาเคมิคอล มาร์เก็ตส์ แอสโซซิเอตส์ (Chemical Markets Associates Inc.) ระบุ
       
            หากเป็นเช่นนั้นจริง ผู้ได้รับผลประโยชน์อาจได้แก่บริษัทชิน-เอ็ตสุ เคมิคอล (Shin-Etsu Chemical Co.) ซึ่งอยู่ในกรุงโตเกียว และบริษัทฟอร์โมซา พลาสติกส์ (Formosa Plastics Corp.) ของไต้หวัน โดยบริษัททั้งสองเป็นผู้ผลิตพีวีซีรายใหญ่ที่สุดในโลก
       
            ด้านนักวิเคราะห์ของแคปปิตอล เซ็กเคียวริตี้ส์ (Capital Securities Corp.) ระบุว่าผู้ผลิตพีวีซีจากน้ำมัน สามารถขึ้นราคาได้ตามบริษัทคู่แข่งที่ผลิตพีวีซีจากถ่านหิน ซึ่งถูกกดดันให้ขึ้นราคา เนื่องจากต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
       
            ทั้งนี้ พีวีซีกว่า 2 ใน 3 ในจีน ผลิตจากถ่านหิน ส่วนในญี่ปุ่นและไต้หวันนั้น พีวีซีส่วนมากผลิตจากเอทิลีน ซึ่งสกัดจากน้ำมัน
      
Beijing Huaer
       
            สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมว่า บริษัทผู้ผลิตพีวีซี Beijing Huaer (เป่ยจิง ฮว่าเอ้อ) อยู่ในบัญชีโรงงานที่ต้องถูกปิดสำหรับปักกิ่งเกมส์
       
            นายโจว เซิงเสี้ยน รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันสิ่งแวดล้อมของจีนได้สั่งการเมื่อเดือนพฤษภาคมให้มณฑลต่าง ๆ ซึ่งอยู่ติดกับกรุงปักกิ่ง รวมทั้งมณฑลเหอเป่ยและมองโกเลียตอนใน ปิดโรงงานที่ก่อมลพิษ และสั่งการให้โรงไฟฟ้าลดการผลิตกระแสไฟฟ้าภายในสิ้นเดือนมิถุนายน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ทันเวลาการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
       
            การพุ่งขึ้นของราคาพีวีซีสวนทางกับการตกต่ำลงของราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี เช่น เอทิลีน ไกลคอล ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมทอผ้า เนื่องจากมีการเพิ่มการผลิต ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีในตะวันออกกลางและจีน
       
            "ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีร้อยละ 80 ราคาอยู่ในทิศทางขาลง แต่พีวีซีไม่อยู่ในข่ายนี้" นายแดนนี่ เฮ่อ แห่งYuanta ระบุ
      
สถิติเกี่ยวกับถ่านหิน
       
            จีนพยายามแก้ปัญหาการขาดแคลนกระแสไฟฟ้าในประเทศมาเป็นปีที่ 6 แล้ว โดยได้เก็บขีดความสามารถในการผลิตกระแสไฟฟ้าจากถ่านหินไว้เกือบร้อยละ 3 มาตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม เนื่องจากปริมาณเชื้อเพลิงลดน้อยลง เดอะ สเตต กริด คอร์ป ออฟ ไชน่า (the State Grid Corp. of China) ผู้จำหน่ายกระแสไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีนระบุ
       
            มีการขาดแคลนถ่านหินเพิ่มขึ้นถึง 40 ล้านตัน จากการเปิดเผยของนายอู๋ เฉิงโฮ่ว ที่ปรึกษาสมาคมการขนส่งและจำหน่ายถ่านหินของจีน โดยราคามาตรฐานที่ฉินหวงเต่า ท่าเรือถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดของจีน พุ่งถึงตันละ 168 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2551
       
            นอกจากนี้จีนยังเดินหน้าลดจำนวนโรงงานผลิตพีวีซีจากถ่านหินมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เมื่อคณะกรรมาธิการเพื่อการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติได้ประกาศห้ามการก่อสร้างโรงงานในพื้นที่คุ้มครอง ซึ่งรวมทั้งในบริเวณใกล้สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งน้ำดื่ม ทางรถไฟและทางหลวง
       
            ทั้งนี้ พีวีซีเป็นพลาสติกประเภทหนึ่งที่ใช้กันโดยทั่วไป มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากโพลีเอทิลีน ซึ่งใช้ผลิตถุงพลาสติก โดยในปี 2550 มีปริมาณความต้องการพีวีซีในโลกทั้งสิ้น 33 ล้าน 6 แสนตัน ในจำนวนนี้เป็นปริมาณความต้องการในจีน 9 ล้าน 8 แสน9 หมื่นตัน จากรายงานของนิตยสารปิโตรเคมิคอล อินดัสทรี ของไต้หวัน โดยจีนแผ่นดินใหญ่เองผลิตพีวีซี 9 ล้าน 4 แสนตัน
      
กระเป๋าถือและรองเท้า
       
            พีวีซีเป็นสารสังเคราะห์ที่ใช้ในการทำพื้นห้องและกรอบหน้าต่าง แทนเหล็ก ไม้ หรืออะลูมีเนียม นอกจากนั้น ยังใช้เป็นหนังเทียมสำหรับผลิตรองเท้ากีฬาและกระเป๋าถือ โดยผู้ผลิตสินค้าหรู เช่น โมเอ้ต์ อองเนสซี หลุยส์ วิตต็อง (Moet Hennessy Louis Vuitton หรือ LVMH) สินค้าแบรนด์เนมจากแดนน้ำหอม หรือ ชาแนล ก็ใช้พีวีซี ผลิตกระเป๋าและรองเท้าจำนวนหนึ่ง สำหรับลูกค้าที่ต้องการใช้วัสดุ ที่เบากว่าหนังแท้
       
            การชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจลดทอนการพุ่งขึ้นของราคาพีวีซีไปบ้าง โดยราคาอสังหาริมทรัพย์ประจำเดือนกรกฎาคมปรับขึ้นในอัตราช้าที่สุดในรอบ 14 เดือน
       
            ผลผลิตพีวีซีของจีนในปีนี้จะชะลอการเติบโตไม่ถึงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับการพุ่งขึ้นของราคาเป็นตัวเลข 2 หลักในปีก่อนหน้า นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์ว่าผลผลิตในปี 2553 อาจมีทั้งสิ้น 10 ล้านตัน โดยได้ไม่ถึง 12 ล้านตันอย่างที่คาดการณ์เมื่อประมาณ 2 ปีก่อน อันเป็นผลจากนโยบายลดมลภาวะและสงวนพลังงานของรัฐบาลจีนดังกล่าว