รายงานข่าวจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2552 โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (ยูเน็พ) เรียกร้องในที่ประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมโลกวางยุทธศาสตร์ป้องกันพิษภัยจากสารปรอท
นายอาคิม สไตเนอร์ ผู้อำนวยการยูเน็พกล่าวในแถลงการณ์ชี้ว่า การประชุมระหว่างคณะรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมโลกซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ที่กรุงไนโรบีของเคนยามีนัยสำคัญต่อการป้องกันภัยจากสารปรอทที่คุกคามชีวิตประชาชนหลายร้อยล้านคน ซึ่งในการนี้ยูเน็พจะเสนอกรอบนโยบายควบคุมสารปรอทต่อที่ประชุม โดยมีเนื้อหาครอบคลุมการลดอุปสงค์ต่อผลิตภัณฑ์และกระบวนการทั้งหลอดไฟชนิดคายประจุความเข้มสูงที่ใช้ในยานพาหนะ อุตสาหกรรมคลอร์-อัลคาไล การซื้อขายปรอทระหว่างประเทศ รวมทั้งลดการปล่อยสารปรอทสู่ชั้นบรรยากาศและฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อน
นายสไตเนอร์กล่าวด้วยว่า แต่ละปีมีสารปรอทรั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมราว 6,000 ตัน โดย 1 ใน 3 ของจำนวนนี้มาจากโรงงานไฟฟ้าและบ้านเรือน ซึ่งหากปรอทรั่วไหลสู่ชั้นบรรยากาศหรือแหล่งน้ำก็อาจทำให้พื้นที่ได้รับสารพิษขยายเป็นวงกว้าง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตแบบใหม่ที่ปลอดภัยกว่าเพื่อลดการใช้สารปรอทในอนาคต
สารปรอทเป็นโลหะหนักที่มีพิษทำลายสมอง ไต และปอด ซึ่งสาเหตุหลักของการได้รับสารปรอทเกิดจากการบริโภคปลา โดยรายงานของยูเน็พชี้ว่า แผ่นน้ำแข็งในทวีปอาร์คติกซึ่งเริ่มละลายจากผลกระทบของภาวะโลกร้อนทำให้สารปรอทที่ตกค้างอยู่ในน้ำแข็งและตะกอนไหลลงสู่มหาสมุทรและปนเปื้อนในห่วงโซ่อาหาร
ที่มาของข้อมูล : สำนักข่าวไทย ประจำวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2552 |