หนังสือพิมพ์เดอะ ซัน รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศส ต่างออกมายอมรับเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ว่า ได้เกิดเหตุชนกันขึ้นจริงระหว่าง HMS แวนการ์ด ซึ่งเป็นเรือดำน้ำพลังานนิวเคลียร์รุ่นเก่าที่สุดของอังกฤษ กับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ลา ตรีอองฟองต์ ของฝรั่งเศส ในมหาสมุทรแอตแลนติคเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายระบุว่าเป็นการชนกันขณะที่เรือดำน้ำใช้ความเร็วต่ำ จึงไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ และขีปนาวุธ รวมทั้งไม่เกิดการรั่วไหลของรังสีนิวเคลียร์
รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 3 หรือ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เรือทั้ง 2 ลำ ได้แก่ เรือดำน้ำ HMS แวนการ์ด ของอังกฤษ ชนเข้ากับเรือดำน้ำ ลา ตรีอองฟองต์ ของฝรั่งเศส ในมหาสมุทรแอตแลนติก ระหว่างที่เรือทั้ง 2 ลำ กำลังปฏิบัติภารกิจ แต่ลูกเรือของเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำปลอดภัย และไม่มีรายงานความเสียหายของชิ้นส่วนนิวเคลียร์ ขณะนี้ เรือดำน้ำของอังกฤษได้ถูกลากจูงไปยังเมืองฟาสเลนในสกอตแลนด์เพื่อซ่อมแซม ด้านกระทรวงกลาโหมอังกฤษออกแถลงการณ์ยืนยันว่า เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นจริง พร้อมย้ำขีดความสามารถในการป้องกันประเทศของอังกฤษไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รายงานข่าวยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า เรือทั้งสองลำซึ่งมีลูกเรือประมาณ 250 คน กำลังดำอยู่ใต้น้ำและต่างปฏิบัติภารกิจอยู่ กระทรวงกลาโหมอังกฤษปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อปฏิบัติการของเรือดำน้ำ แต่โฆษกของกระทรวงยืนยันว่าขีดความสามารถในการป้องปรามของอังกฤษไม่ได้รับผลกระทบ HMS แวนการ์ด เป็นเรือดำน้ำนิวเคลียร์หนึ่งในสี่ลำของกองทัพอังกฤษในระบบไทร์เดนท์ ซึ่งจะมีเรือ 1 ลำ ต้องออกลาดตระเวนในภารกิจป้องปราม เรือลำนี้มีความยาว 150 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 13 เมตร สามารถติดขีปนาวุธได้สูงสุด 16 ลูก และหัวรบนิวเคลียร์ถึง 48 หัวรบ
อย่างไรก็ตามแต่มีผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งระบุว่าเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงสุดในรอบเกือบ 10 ปี และกลุ่มต่อต้านนิวเคลียร์บอกว่า เป็นสิ่งเตือนใจอย่างน่ากลัว ถึงความเสี่ยงจากเรือดำน้ำที่เพ่นพ่านอยู่ทั่วมหาสมุทร โดยขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ และติดอาวุธนิวเคลียร์
ที่มาของข้อมูล : สำนักข่าวไทย ประจำวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2552 |