หนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์รายงานเมื่อ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา ระบุว่า รัฐบาลเวียดนามสั่งปิดโรงงานถลุงเหล็กในเมืองท่าไฮฟง 7 แห่ง หลังเกิดเหตุครูและนักเรียน 90 คนจากโรงเรียนประถมกวาน โตน ซึ่งอยู่ละแวกเดียวกับโรงงาน เกิดล้มป่วยลงพร้อมกันในวันที่ 27-30 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดมีอาการวิงเวียนศีรษะจนถึงขั้นหมดสติ หลังหายใจเอาควันระเหยที่ถูกปล่อยออกมาจากโรงงานใกล้เคียงเข้าไป ขณะที่ผลวินิจฉัยทางการแพทย์ระบุว่าผู้ป่วยได้รับปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์มากเกินขนาด แต่ขณะนี้ทั้งหมดหายเป็นปกติแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่เทศบาลไฮฟง พบว่าสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกิดจากการที่โรงงานหลายแห่งนำน้ำมันเก่ามาใช้ซ้ำหลายครั้งในขั้นตอนการถลุงเหล็ก ทำให้มีควันระเหยของสารพิษดังกล่าวสะสมบริเวณโรงงานทั้ง 7 แห่งและพื้นที่ใกล้เคียงในปริมาณที่สูงกว่ามาตรฐานกำหนดถึง 2-3 เท่า แต่ยังระบุไม่ได้ ว่าโรงงานใดเป็นต้นทางปล่อยสารพิษมากที่สุด จึงจำเป็นต้องสั่งปิดโรงงานทั้งหมดชั่วคราวจนกว่าจะสืบหาต้นตอปล่อยสารพิษพบ โดยเจ้าหน้าที่จากกระทรวงสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติจะเข้ามาตรวจสอบอุปกรณ์และระบบผลิตในโรงงานเพิ่มเติมภายในสัปดาห์นี้
ขณะเดียวกันยังไม่มีประกาศที่ชัดเจนว่าโรงงานทั้งหมดจะกลับมาเปิดทำการอีกครั้งเมื่อใด เนื่องจากปัญหามลพิษทางอากาศและปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเวียดนามทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนด้านอุตสาหกรรมของรัฐบาล แต่ยังขาดระบบการจัดการมาตรฐานโรงงานที่เข้มงวดและเหมาะสม
ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2552 |