สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

สธ. ทลายแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางผิดกฎหมาย 2 แห่ง

ผู้เขียน: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
วันที่: 30 ม.ค. 2552

            สธ. นำทีมเจ้าหน้าที่ อย. พร้อมตำรวจจาก ปศท. ทลายแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางอันตรายที่ผสมสารห้ามใช้ย่านบางบัวทอง และบางเลน พบเครื่องสำอางที่ผสมสารประกอบของปรอท มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ได้ยึดของกลางไว้ พร้อมดำเนินคดีกับผู้ผลิตทันที เตือนผู้บริโภคระวังอย่าตกเป็นเหยื่อซื้อมาใช้

            ในวันนี้ (30 มกราคม 2552) เวลา 15:00 น. นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นพ. พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการฯ อย. และนพ. พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการ อย. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี (ปศท.) เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 6/10 หมู่ 4 อาคารหมู่บ้านวิโรจน์วิว ถ.สาย 345 ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตรวจพบเป็นแหล่งลักลอบผลิตเครื่องสำอางผิดกฎหมาย ยี่ห้อ Dr.Japan จำนวนมาก พร้อมวัตถุดิบที่เป็นสารห้ามใช้ และอุปกรณ์การผลิต และในเวลาเดียวกันได้ตรวจค้นสถานที่ผลิต เลขที่ 99 ม.12 ถ.ลาดบัวหลวง ต.หินมล อ.บางเลน จ.นครปฐม พบการลักลอบผลิตเครื่องสำอางที่ผสมสารห้ามใช้เช่นเดียวกัน โดยตรวจพบเครื่องสำอางยี่ห้อ Dr.JAPAN ทั้งสบู่ และครีมทาสิวฝ้า พร้อมกับเครื่องสำอางยี่ห้อ Mei Zhen บรรจุแล้วในตลับสีแดง รวมทั้งสมุนไพรรักษาสิวฝ้า ผลิตโดยศูนย์วิจัยหมอจุฬา ซึ่งจากข้อมูลผลวิเคราะห์ที่ผ่านมาเครื่องสำอางดังกล่าวตรวจพบสารประกอบของปรอท นอกจากนี้ พบอุปกรณ์เครื่องจักรการผลิตเครื่องสำอาง ได้แก่ เครื่องปั่นครีม เครื่องแบ่งบรรจุครีมอัตโนมัติ และเครื่องบรรจุโลชั่นอัตโนมัติ เป็นต้น รวมทั้ง 2 แห่ง พบเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมาย มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลางไว้และส่งดำเนินคดี ข้อหาฐานผลิตเพื่อขายเครื่องสำอางที่ไม่ปลอดภัยในการใช้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผลิตเครื่องสำอางปลอม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกินสามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            นพ. พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวต่อไปว่า อย. ขอเตือนผู้บริโภคอย่าซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดังกล่าวมาใช้อย่างเด็ดขาด เพราะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายจากสารห้ามใช้ เนื่องจากสารประกอบของปรอท จะทำให้เกิดการแพ้ ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง เกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ ดังนั้นเมื่อจะซื้อเครื่องสำอางต้องระมัดระวัง โดยซื้อจากร้านค้าที่มีหลักแหล่งแน่นอน มีฉลากภาษาไทยที่มีข้อความบังคับครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภท ผลิตภัณฑ์ ส่วนประกอบสำคัญ วิธีใช้ ชื่อและที่ตั้งแหล่งผลิต วันเดือนปีที่ผลิต ปริมาณสุทธิ ที่สำคัญไม่ควรซื้อเพียงเพราะเชื่อคำโฆษณาว่าทำให้ผิวขาว ดูดี ไม่มีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใด ช่วยปรับเปลี่ยนสีผิวให้ขาวมากกว่าเดิมได้

            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า เครื่องสำอางที่พบลักลอบการผลิตดังกล่าวเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ อย. ได้เคยประกาศผลการตรวจวิเคราะห์ว่ามีส่วนผสมของสารห้ามใช้ และประกาศแจ้งเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการใช้แล้ว พร้อมกันนี้ ขอให้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด แจ้งเตือนประชาชนในจังหวัดให้ทราบถึงเครื่องสำอางที่ผสมสารห้ามใช้ที่เป็นอันตราย โดยนำเอกสารแผ่นพับเผยแพร่ประชาสัมพันธ์รายชื่อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทาสิว ทาฝ้า ทำให้หน้าขาว ที่มีส่วนผสมของสารห้ามใช้ และเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคที่ อย. จัดทำขึ้น แจ้งประชาชนให้ทราบโดยทั่วถึงกันด้วย สำหรับรายชื่อเครื่องสำอางที่พบสารห้ามใช้ที่ อย. เคยประกาศไปทั้งหมด ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบรายชื่อ พร้อมดูภาพได้ที่เว็บไซด์ อย. www.fda.moph.go.th และขอฝากไปยังผู้บริโภค หากพบเห็นหรือสงสัยการลักลอบผลิตเครื่องสำอางดังกล่าว หรือเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมาย หรือพบเครื่องสำอางที่น่าสงสัยว่าจะไม่ปลอดภัยในการใช้ ขอให้แจ้งร้องเรียนมาที่ สายด่วน อย. 1556 หรือแจ้งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนั้นๆ ที่พบการกระทำผิดดังกล่าว

ที่มาของข้อมูล : กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

  สารเคมีที่เกี่ยวข้อง:
Glycolic acid
Hydroquinone
Mercury
  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - อย. บุกจับเครื่องสำอางอันตรายมูลค่านับล้านบาท
บอกข่าวเล่าความ - อย. บุกจับโรงงานพลาสติกลักลอบผลิตเครื่องสำอางอันตราย
 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น