สนับสนุนโดย    
สนับสนุนโดย    
   
สนับสนุนโดย    
บอกข่าวเล่าความ

คพ. ตรวจพบซากเผายางที่ชุมชนบ่อนไก่ มีโลหะหนักเกินมาตรฐาน

ผู้เขียน: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
วันที่: 25 พ.ค. 2553

            นายวิจารย์ สิมาฉายา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินสารเคมีของคพ.ร่วมกับสำนักสิ่งแวดล้อมกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าตรวจสอบมลพิษตกค้างในเขตพื้นที่การชุมนุม และจุดปะทะที่มีการเผายางรถยนต์จำนวนมากช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น บ่อนไก่ พระราม 4 สามเหลี่ยมดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากเป็นห่วงว่าจะมีสารมลพิษในกลุ่มไฮโดรคาร์บอน สารอินทรีย์ระเหยง่ายตกค้างในบรรยากาศ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยผลการตรวจวัดจากเครื่องวัดก๊าซพิษในอากาศ ซึ่งเป็นเครื่องมือวัดภาคสนามที่รายงานผลได้ทันที เบื้องต้นไม่พบสารตกค้าง แต่ได้เก็บตัวอย่างอากาศมาวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการอีกครั้ง

            ส่วนตะกอนสีดำคล้ายผงถ่าน ที่เกิดจากการเผาไหม้ยางรถยนต์ ที่กรมควบคุมมลพิษเก็บมาจากบริเวณย่านบ่อนไก่นั้น นายวิจารย์ สิมาฉายา กล่าวว่า ผลการตรวจวิเคราะห์แล้ว พบมีกลุ่มสารโลหะหนักปนเปื้อนอยู่โดยเฉพาะสังกะสี มีค่าเกินมาตรฐานสูงถึง 50,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม จากค่ามาตรฐาน 5,000 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม เนื่องจากการเผายางรถยนต์ปริมาณมากจะมีองค์ ประกอบของสังกะสีออกไซด์ออกมา และยังมีทองแดงรวมอยู่ด้วย ขณะนี้เตรียมส่งหนังสือประสานไปยังกทม.เพื่อให้ระมัดระวังการจัดเก็บคราบผงสีดำเพื่อป้องกันไม่ให้ฟุ้งกระจาย และให้รวบรวมไปกำจัดอย่างถูกวิธี เพราะถือว่า เข้าข่ายกากของเสียอันตรายแล้ว

            เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีฝนตกและกรุงเทพฯ ทำความสะอาดพื้นผิวจราจร ทำให้ผงสังกะสีลงไปท่อน้ำทิ้งแล้วจะทำอย่างไร นายวิจารย์ สิมาฉายา กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมควบคุมมลพิษจะเข้าไปเก็บน้ำทิ้งในจุดที่มีการทำความสะอาดพื้นที่ถนนที่มีน้ำโลหะหนักไหลปนเปื้อนลงไป เพื่อป้องกันไม่ให้ถ่ายเทลงในลำคลองสาธารณะ รวมทั้งจะเข้าตรวจสอบคุณภาพอากาศในจุดที่มีการเข้าไปตรวจสอบเมื่อ 2 - 3 วัน ก่อนหน้านี้เพื่อตรวจสอบซ้ำ และดูว่ายังมีผงโลหะหนักหลงเหลือในพื้นที่หรือไม่

            ด้านนางอินจิรา นิยมธูร ผู้อำนวยการกองสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากกรมควบคุมมลพิษแล้ว ยอมรับว่าไม่ได้เก็บรวบรวมตะกอนผงเขม่าที่เกิดจากการเผายางรถยนต์ไว้เลย เนื่องจากหลังเกิดเหตุวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา พื้นที่ที่มีการเผายางรถยนต์ ส่วนใหญ่ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานฉุกเฉิน (ศอฉ.) ยังไม่ได้คืนพื้นที่ให้กรุงเทพฯ ประกอบกับมีฝนตกหนักช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตะกอนและคราบเขม่าจากการเผายางรถยนต์ส่วนใหญ่ถูกชะล้างลงไปในท่อระบายน้ำเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีตะกอนปนเปื้อนของสังกะสีในปริมาณสูง แต่เมื่อไหลลงในระบบบำบัดไปรวมกับตะกอนอื่นในน้ำ เชื่อว่าจะทำให้ค่าความเข้มข้นลดลงได้ ทั้งนี้สำนักระบายน้ำกรุงเทพฯ จะตรวจสอบตะกอนบำบัดน้ำเสียอยู่เป็นประจำ ส่วนเศษยางที่หลอมละลายไม่หมดบางส่วนได้ส่งไปกำจัดที่เตาเผาขยะที่อ่อนนุชแล้ว

ที่มาของข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า ประจำวันที่ 25 พฤษภาคม 2553

  สารเคมีที่เกี่ยวข้อง:
Carbon dioxide
Copper
Zinc
  เนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง:
บอกข่าวเล่าความ - คพ.เตือนกรุงเทพฝุ่นและโอโซนสูงเกินมาตรฐาน
บอกข่าวเล่าความ - คนกรุงเทพฯ ก่อมลพิษแซงหน้ากรุงลอนดอน
 
  ข้อคิดเห็น
   

ขอเชิญร่วมแสดงข้อคิดเห็น